1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
กรมประมงเพาะพันธุ์ตะพาบน้ำม่านลายได้ยอดทะลุเป้า
ดร.จิราวรรณ แย้มประยูร รองอธิบดีกรมประมงเปิดเผยว่า กรมประมง เป็นหน่วยงานแรกของโลกที่สามารถเพาะพันธุ์ตะพาบม่านลาย สัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์ได้สำเร็จเมื่อปี 2545 และตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งในปีนี้ เมื่อแม่พันธุ์ตะพาบม่านลายวางไข่ได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาถึง 305 ฟอง ทางกรมฯ จึงเตรียมกำหนดแนวทางเพาะเลี้ยง และปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือไม่ให้ตะพาบม่านลายกลายเป็นสัตว์สูญพันธุ์ ในปัจจุบันทางกรมประมงมีนโยบายให้ดำเนินการเพาะพันธุ์ตะพาบม่านลายและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในแหล่งน้ำและปริมาณที่เหมาะสม จากการประเมินผลพบว่า การเพาะพันธุ์ตะพาบม่านลายถือว่าประสบความสำเร็จให้เห็นเป็นรูปธรรม และมีแนวโน้มว่าตะพาบม่านลายจะไม่สูญพันธุ์ แต่ก็ยังมีอุปสรรคที่สำคัญของตะพาบม่านลาย นั่นคือ การป่วยเนื่องจากติดเชื้อโรคง่ายกว่าตะพาบชนิดอื่นๆ แม้จะมีแนวทางในการรักษาโรคแล้วก็ตาม แต่เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาด ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดกาญจนบุรีได้กำหนดแนวทางในการเพาะเลี้ยงตะพาบม่านลายไว้ คือ จัดสร้างพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์จำพวกเต่า ตะพาบ บริเวณศูนย์วิจัยฯ เพื่อเป็นแหล่งศึกษา ทดลองและสาธิต ตลอดจนเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน กระจายลูกตะพาบม่านลายที่ได้จากการเพาะพันธุ์ไปสู่หน่วยงานกรมประมง ที่มีศักยภาพในการเลี้ยง เพื่อสร้างโอกาสในการศึกษา และเมื่อถึง วัยเจริญพันธุ์จะพิจารณาความเหมาะสมในการดำเนินการเพาะพันธุ์ต่อไป เมื่อเพาะพันธุ์ตะพาบม่านลายได้มากพอแล้ว และแน่ใจว่าไม่สูญพันธุ์ อาจเสนอให้พิจารณาตะพาบม่านลายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่สามารถเพาะพันธุ์ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนศึกษาแนวทางในการพัฒนาศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจ แม้ว่าในปัจจุบันอาจไม่เอื้อให้ตะพาบม่านลายขยายพันธุ์ได้เองในธรรมชาติ เนื่องจากพื้นที่วางไข่ไม่เหมาะสม แต่จากการติดตามการปล่อยตะพาบม่านลายพบว่า มีการเจริญเติบโตที่ดีมาก ดังนั้น ควรวางแนวทางในการอนุรักษ์ตะพาบม่านลาย คือ มี การเพาะพันธุ์ที่ดีแล้วปล่อยคืนสู่แหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ เพื่ออนุรักษ์ตะพาบม่านลายให้คงอยู่สืบไป
ในรอบสัปดาห์ผ่านมา(3 — 9 ก.ค.2553) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 900.89 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 479.42 ตัน สัตว์น้ำจืด 421.47 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.29 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 4.05 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 109.43 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 19.73 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 56.03 ตันการตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 42.08 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 36.89 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 5.19 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคา
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 62.65 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 62.72 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.07 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 127.14 บาท สูงขึ้นจาก กิโลกรัมละ 124.29 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.85 บาท
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 117.85 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 117.09 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.76 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 125.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.47 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 55.19 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.28 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 72.14 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 70.71 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.43 บาท
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 137.14 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 124.29 บาท ของสัปดาห์ก่อน 12.85 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 9.33 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 9.32 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.01 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 7 — 13 ส.ค. 2553) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 30.20 บาท สูงขึ้นจากิโลกรัมละ 29.13 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.07 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 9 - 15 สิงหาคม 2553--