สศก. ชี้การส่งออกลำไยมีแนวโน้มสดใส แม้ผลผลิตปีนี้จะลดลง

ข่าวทั่วไป Tuesday August 31, 2010 13:44 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ผลผลิตลำไยทั้งประเทศปีนี้มีประมาณ 5 แสนตันเศษ ชี้แม้ผลผลิตลดลงและการบริโภคในประเทศมีเพียงร้อยละ 8 — 10 ของผลผลิตโดยรวมก็ตาม เผยกลับส่งผลดีต่อตลาดส่งออกของไทยให้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะการจัดทำข้อตกลงเปิดการค้าเสรีหรือเอฟทีเอกับหลายประเทศ รวมทั้งเส้นทางสายเศรษฐกิจ R9 เชื่อมโยงระหว่างไทย — พม่า — ลาว — เวียดนาม — จีน ทำให้สามารถขนส่งผลไม้จากไทยตรงไปยังตลาดค้าส่งผลไม้ที่สำคัญของจีนก่อนกระจายไปยังเมืองต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ผลผลิตลำไยปีนี้มีประมาณ 515,955 ตัน โดยมีผลผลิตลำไยในฤดู 374,378 ตัน และนอกฤดู 141,577 ตัน เฉพาะแหล่งผลิตสำคัญ 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ ตาก แพร่ และน่าน มีผลผลิตทั้งปีประมาณ 381,233 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 74 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ โดยมีผลผลิตลำไยในฤดู 341,560 ตัน และนอกฤดู 39,673 ตัน ซึ่งจะเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยในฤดูหมดสิ้นภายในเดือนสิงหาคม แต่ในปีนี้ประเทศไทยเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่ส่งผลให้มีสภาพภูมิอากาศร้อนและแห้งแล้งเป็นระยะเวลายาวนาน ประกอบกับเกิดพายุฤดูร้อนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระยะที่ลำไยออกดอกทำให้ดอกร่วงและเกิดพายุฝนรุนแรงอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งลำไยอยู่ในระยะกำลังเริ่มเก็บเกี่ยวทำให้เปลือกลำไยซับน้ำมาก ผลจึงแตกและเน่าเสียง่าย

ส่วนการบริโภคลำไยภายในประเทศมีเพียงร้อยละ 8 — 10 ของผลผลิตโดยรวมในแต่ละปี นอกนั้นจะส่งออกเพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศ ถึงแม้ปีนี้จะมีผลผลิตน้อยกว่าปีผ่านๆ มา แต่การส่งออกลำไยของไทยกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสาเหตุหนึ่งก็คือ การที่ไทยได้จัดทำข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอกับหลายประเทศโดยเฉพาะกับประเทศจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าลำไยรายใหญ่ของไทยทั้งลำไยสดและอบแห้งซึ่งปัจจุบันสามารถขนส่งโดยใช้เส้นทางใหม่ทางบกได้แก่ R9 รวมทั้ง R3 ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย — พม่า — ลาว — เวียดนาม — จีน ทำให้สามารถขนส่งผลไม้จากประเทศไทยตรงไปยังตลาดเจียงหนาน เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้งประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผลไม้ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้และตลาดกลางค้าส่ง ซินฟาตี้ ในเมืองปักกิ่งก่อนกระจายไปสู่เมืองและมณฑลอื่นๆ อีกทั้งเส้นทางนี้ยังผ่านประเทศเวียดนามที่มีเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อกับประเทศจีนหลายเส้นทาง ทำให้ประเทศเวียดนามอาจกลายเป็นตลาดการค้าหลักใหม่ของไทยได้ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีพ่อค้าชาวเวียดนามเข้ามารับซื้อลำไยจากชาวสวนของไทยโดยตรง ทำให้การส่งออกลำไยไปเวียดนามในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก (กรกฎาคม - สิงหาคม) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางหนึ่ง ทำให้ถึงแม้ปีนี้ผลผลิตลำไยน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ตัวเลขส่งออกกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาลำไยอยู่ในเกณฑ์ดี สร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกรชาวสวนลำไยเป็นอย่างมาก นางนารีณัฐ กล่าว

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ