การส่งออกสินค้าเกษตรไทยยังฉลุย ไม่กังวลวิกฤติหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรป

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผย ไม่กังวลผลกระทบจากปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่ม PIIGS ต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย เนื่องจากไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปประเทศกลุ่ม PIIGS เพียงร้อยละ 18.0 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปสหภาพยุโรป หรือเพียงร้อยละ 2.4 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของไทย

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง ปัญหาหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มที่เรียกว่า PIIGS ซึ่งได้แก่ โปรตุเกส อิตาลี ไอร์แลนด์ กรีซ และสเปน ซึ่งประเทศเหล่านี้มีหนี้สาธารณะและการขาดดุลการคลังสูง และที่มีการกล่าวถึงกันมาก คือ วิกฤติหนี้ สาธารณะของกรีซ เนื่องจากกรีซก่อหนี้สาธารณะสูงถึงร้อยละ 115 ของ GDP ในปี 2552 และเพิ่มเป็นร้อยละ 124 ของ GDP ในปี 2553 และจากระดับหนี้ที่สูง ประกอบกับเศรษฐกิจของกลุ่ม PIIGS ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้หลายฝ่ายกังวล ถึงความสามารถในการชำระหนี้คืน รวมทั้งการบริหารจัดการภายในประเทศเหล่านี้ จนอาจลุกลามไปสู่ประเทศอื่น กลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป เนื่องจากประเทศในกลุ่มยูโรโซน มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกันสูงมาก (โดยมีสัดส่วนทางการค้าระหว่างกันสูงถึงร้อยละ 50 ของมูลค่าการค้าทั้งหมด) จนอาจส่งผลให้การฟื้นตัวของ เศรษฐกิจโลกสะดุดลง

ในเรื่องดังกล่าว สหภาพยุโรปเองได้ตระหนักดีและหาทางป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสมาชิกยูโรโซน ได้ลงนามความตกลงร่วมกับ IMF เพื่อจัดตั้งโครงการความ ช่วยเหลือด้านการเงินในรูปแบบเงินกู้ (Special Purpose Vehicle : SPV) ระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 750 พันล้านยูโร (ประมาณ 30 ล้านล้านบาท) เพื่อช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพของเงินสกุลยูโร และป้องกันการลุกลามของปัญหาวิกฤติ การเงินในอนาคตภายใต้ SPV ดังกล่าว คณะกรรมาธิการยุโรปจะสนับสนุนวงเงิน 60 พันล้านยูโร สมาชิกยูโรโซน 440 พันล้านยูโร ส่วนที่เหลือ 250 พันล้านยูโร มาจาก IMF

และแม้ว่าปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจในยูโรโชนจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยคณะกรรมาธิการยุโรปประเมินว่า GDP ยูโรโซน จะมีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 0.9 ในปี 2553 เปรียบเทียบกับการหดตัวร้อยละ 4.9 ในปี 2552 และอัตรา เงินเฟ้อมีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างไรก็ดี วิกฤติหนี้สาธารณะในประเทศกลุ่ม PIIGS ยังคงเป็นปัญหาที่มีความท้าทายอยู่ ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือและหาทางป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ต่อไป

นายอภิชาต กล่าวเพิ่มเติมถึงผลกระทบจากปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่ม PIIGS ต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยนั้น คาดว่าจะมีไม่มากนัก เนื่องจากไทยมีการส่งออกสินค้าเกษตรไปประเทศในกลุ่ม PIIGS เพียงร้อยละ 18.0 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปสหภาพยุโรป หรือเพียง ร้อยละ 2.4 ของมูลค่าการ ส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของไทย อย่างไรก็ตาม เมื่อเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่ม PIIGS ชะลอตัว เงินยูโรอ่อนค่าลง ไทยอาจได้รับผลกระทบบ้างในบางสินค้าที่มีการส่งออกไปประเทศเหล่านี้มาก เช่น ปลาทูนากระป๋อง สับปะรดกระป๋อง ไก่ปรุงแต่ง กุ้งแช่แข็ง ปลาหมึกแช่แข็ง ข้าวเจ้าขาวหอมมะลิไทย100% ชั้น 2 ข้าวโพดหวาน อาหารสุนัขและแมวเป็นต้น จึงควรกระจายตลาดส่งออกสินค้าเหล่านี้ไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพแทน

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--