สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 3 ลงพื้นที่เก็บข้อมูลหลังเกิดฝนตกชุกในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุดรธานีในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งนาข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ด้านหน่วยงานราชการทุกหน่วยยังคงเตรียมพร้อมรับมือกันอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที
นายสุกิจ ทองชัช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 3 (สศข.3) จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการที่ฝนตกชุกติดต่อกันหลายวันในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในเขตจังหวัดอุดรธานี ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ทำการเกษตรหลายอำเภอ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 3 จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ทำการติดตามสำรวจเก็บรวบรวมข้อมูล พบว่า มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 5 อำเภอได้แก่ อำเภอบ้านผือ อำเภอหนองหาน อำเภอประจักษ์ศิลปาคม อำเภอน้ำโสม และอำเภอพิบูลย์รักษ์ จำนวน 29 ตำบล 198 หมู่บ้าน มีพื้นที่ทำการเกษตรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ได้แก่ นาข้าวประมาณ 45,988 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประมาณ 300 ไร่ มันสำปะหลังประมาณ 7,990 ไร่ รวมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 53,988 ไร่ คาดว่าจะได้รับความเสียหาย 39,874 ไร่
สำหรับสถานการณ์ในเขื่อนห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี มีปริมาณน้ำในอ่าง 111.313 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 94.04 % ของความจุที่กักเก็บได้ มากกว่าเกณฑ์ 23.313 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำในอ่างอยู่ในเกณฑ์สูง ทางเขื่อนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องระบายน้ำออกเพื่อให้อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ และได้ประกาศให้ราษฎรที่อยู่ท้ายเขื่อนทั้ง 2 ฝั่งที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำได้รับทราบและให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามหน่วยงานราชการทุกหน่วยยังคงเตรียมพร้อมรับมือกันอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--