เตือนเกษตรกรอย่างเร่งขุดมัน หวั่นส่งผลต่อเปอร์เซ็นแป้งและต้นพันธุ์

ข่าวทั่วไป Friday September 24, 2010 13:34 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เตือนเกษตรกรอย่าเร่งขุดหัวมันสำปะหลังอ่อน เนื่องจากทำให้ผลผลิต มันสำปะหลังมีเปอร์เซ็นต์แป้งต่ำและต้นพันธ์ใช้ปลูกไม่ได้ ส่วนเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวแล้ว ในการเตรียมท่อนพันธ์ก่อนปลูกใหม่ ควรชุบท่อนพันธ์ด้วยสารเคมีป้องกันเพลี้ยแป้ง เนื่องจากเริ่มเข้าฤดูหนาวจึงอาจเกิดภาวะแล้งทำให้เพลี้ยแป้งกลับมาระบาดอีก แนะเกษตรกรต้องหมั่นตรวจแปลงและใช้ชีววิธีเพื่อควบคุมโดยเร็ว

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประมาณการผลผลิตมันสำปะหลังปี 53/54 ณ เดือนกันยายน ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยพบว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยว 6.9 ล้านไร่ ผลผลิต 21.06 ล้านตัน สูงกว่าประมาณการเดือนมิถุนายน เนื่องจากต้นมันสำปะหลังได้รับปริมาณน้ำฝนเพียงพอ การเจริญเติบโตดี แต่การที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงเป็น เวลานาน เกษตรกรจึงต้องทำการปลูกใหม่หลายครั้ง ส่งผลให้ต้นพันธุ์มันสำปะหลังขาดแคลนและมีราคาแพง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคามันสำปะหลังเริ่มอ่อนตัวลงซึ่งเป็นการปรับฐานราคาก่อนผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกสู่ตลาด ทำให้เกษตรกรที่เกรงว่าราคาจะลดลงอีกได้ขุดหัวมันสำปะหลังก่อนอายุพร้อมเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ผลผลิตมีเปอร์เซ็นต์แป้งต่ำและต้นมันสำปะหลังไม่เหมาะสมแก่การใช้เป็นท่อนพันธุ์ จึงขอให้เกษตรกรชะลอการขุดเพื่อรอให้มันสำปะหลังมีอายุครบเก็บเกี่ยว (ประมาณ 10 เดือนขึ้นไป) เพื่อให้ได้ท่อนพันธุ์ที่แข็งแรงและหัวมันสำปะหลังมีคุณภาพ

ส่วนเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวมันสำปะหลังไปแล้วนั้น ถึงแม้ว่าช่วงนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง แต่ว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวและอาจเกิดภาวะแล้ง ทำให้เพลี้ยแป้งมันสำปะหลังกลับมาระบาดอีก ดังนั้น เกษตรกรที่จะปลูกมันสำปะหลังควรชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีป้องกันในช่วงการเตรียมพันธุ์ก่อนปลูก อีกทั้งต้องหมั่นตรวจแปลง หากพบเพลี้ยแป้งระยะแรกควรใช้ชีววิธีเพื่อควบคุมและลดจำนวนเพลี้ยแป้งโดยเร็วเพื่อควบคุมและลดจำนวนเพลี้ยแป้งโดยเร็ว

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ