สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยปี 2553 และแนวโน้มปี 2554(อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์)

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 17, 2010 11:56 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ของประเทศไทยมีผู้ประกอบเป็นจำนวนมาก และมีความหลากหลายของประเภทผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเนื่องจากเคมีภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในอุตสาหกรรมต่าง ๆและผลิตภัณฑ์เคมีพื้นฐานก่อให้เกิดการผลิตต่อเนื่องในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ขั้นปลายอื่น ๆ

โครงสร้างการผลิต

ผู้ประกอบการ

ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ขั้นปลาย โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 75 สำหรับอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ขั้นปลายเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เงินลงทุนต่ำ ในขณะที่อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ขั้นพื้นฐานเป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้เงินลงทุนสูง

การตลาด

การส่งออก

ในปี 2553 การส่งออกเคมีภัณฑ์อินทรีย์มีมูลค่าประมาณ 39,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.44 เมื่อเทียบกับปีก่อน เคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ดมีมูลค่าส่งออกประมาณ 27,287 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.71 เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนเครื่องสำอางหรือสิ่งปรุงแต่งสำหรับประทินร่างกายมีมูลค่าส่งออกประมาณ 53,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.20 เมื่อเทียบกับปีก่อน อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี มมี ลค่าการส่งออกประมาณ 2,981 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.03เมื่อเทียบกับปกี อน และอุตสาหกรรมสี มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 12,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.19 เมื่อเทียบกับปีก่อน

การนำเข้า

การนำเข้าเคมีภัณฑ์อนินทรีย์ในปี 2553 มีมูลค่าประมาณ 42,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.51 เมื่อเทียบกับปีก่อน เคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ดมีมูลค่านำเข้าประมาณ 75,595 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.47 เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนปุ๋ยมีมูลค่านำเข้าประมาณ 64,654 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.01 เมื่อเทียบกับปีก่อน อุตสาหกรรมเครื่องสำอางมูลค่านำเข้าประมาณ 29,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.84 เมื่อเทียบกับปีก่อน และอุตสาหกรรมสีมูลค่านำเข้าประมาณ 44,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.24

สรุปภาวะอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ปี 2553

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อยู่ในภาวะที่ดีขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากอุตสาหกรรมหลักในประเทศ ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบในการผลิตนั้นเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน

แนวโน้มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ปี 2554

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์น่าจะดีขึ้น ทั้งการผลิต การจำหน่าย นำเข้าและส่งออกเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ตัวเลขทางเศรษฐกิจดีขึ้น มีมาตราการทางด้านการเงินออกมากระตุ้นภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ปริมาณการส่งออกที่ดีขึ้น รวมทั้ง การเบิกจ่ายงบโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาทที่มีเป้าหมายอยู่ 85 % ซึ่งเท่ากับ 278,000 ล้านบาทในปี 2553 ก่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยกันเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ทำให้สามารถนำเข้าเคมีภัณฑ์ได้ถูกลง แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจของยุโรป จะส่งผลต่อการส่งออกของไทย ซึ่งจากการคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกที่จะมีการปรับลดลงในปี 2554 ที่ได้รับ

มาตราการหรือโครงการที่สำคัญที่จะกระตุ้นและขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้ร่วมกับ UNIDO ได้จัดทำโครงการ Trade Capacity Building in Thailand through Upgrading Chemical Testing Laboratories to Meet REACH Requirements of EU เพื่อรองรับกฎระเบียบต่าง ๆ ของสหภาพยุโรป ซึ่งการดำเนินงานเป็นไปตามแผนงาน ผลลัพธ์ที่ได้คือ มีการทดสอบสารเคมีผลิตภัณฑ์เป้าหมาย มีการพัฒนาบุคลากรประจำห้องทดสอบ มีการติดตั้งอุปกรณ์ในห้องทดสอบเพื่อยกระดับห้องปฎิบัติการทดสอบ และคาดการณ์ว่าจะทำให้ห้องปฎิบัติการทดสอบได้รับมาตรฐาน ISO 17025 ต่อไป นอกจากนี้ยังมี ศูนย์ข้อมูล REACH Information Center เพื่อสร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องกฎระเบียบสหภาพยุโรปให้กับผู้ส่งออกไทย โดยมีเว็บไซด์ให้สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับกฎระเบียบ REACH สามารถนำไปใช้ประโยชน์ (www.reachtalk.net) มีการเผยแพร่ความรู้อย่างต่อเนื่องโดยการจัดอบรมสัมมนา และมีการจัดทำจดหมายข่าว Newsletter publication เดือนละ 2 ฉบับ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ประกอบการในการค้นหาข้อมูล และ update ข่าวสารเกี่ยวกับกฎระเบียบต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ