สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยปี 2553 และแนวโน้มปี 2554(อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติก)

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 20, 2010 15:44 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ภาพรวมผลิตภัณฑ์พลาสติก

อุตสาหกรรมพลาสติกถือได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศสร้างรายได้และเกิดการจ้างงานในระบบมากขึ้น โดยจากการสำรวจพบว่ามีจำนวนโรงงานทั่วประเทศประมาณ 3,500 โรงงาน (จากการสำรวจในปี 2553) ทั้งนี้ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะเป็นขนาดกลางและเล็กถึงร้อยละ 80 และมีการกระจุกตัวในกรุงเทพและปริมณฑล ร้อยละ 80 ที่เหลือจะกระจายตัวทั่วทุกภาคของประเทศ ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สำคัญได้แก่ บรรจุภัณฑ์ เช่น ถุง กระสอบ แผ่นฟิล์มชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศและยังมีการส่งออกไปต่างประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม

การผลิต

ความต้องการใช้เม็ดพลาสติกของไทย

หน่วย:พันตัน

          ปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกหลัก           2548    2549    2550    2551    2552    2553*

PE, PP, PVC, PS+EPS, ABS/SAN 2,709 2,841 2,900 2,758 2,828 2,910

ที่มา: สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย

หมายเหตุ * ปี 2553 เป็นตัวเลขประมาณการ

PE = Polyethylene PP = Polypropylene PVC = Poly Vinyl Chloride

PS/EPS = Polystyrene ABS/SAN = Acrylonitrile Butadiene Styrene

ปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกที่จะช่วยสะท้อนภาพการผลิตในอุตสาหกรรมพลาสติก จากสภาวะเศรษฐกิจที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 1-3 ของปี 2553 และทิศทางด้านเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มที่ดีในปี 2554 ขึ้น ซึ่งมีการคาดการณ์ GDP จะโตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งภาวะเศรษฐกิจที่ดีจะส่งผลต่อภาคการบริโภค และการผลิตดีตามไปด้วย เนื่องจากอุตสาหกรรมพลาสติกเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุน (Supporting Industries) ให้กับอุตสาหกรรมหลักต่างๆของประเทศไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น หากต้องการทราบถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมพลาสติก ก็ต้องติดตามการเติบโตของอุตสาหกรรมที่กล่าวมาข้างต้น การว่ามีแนวโน้มที่ดีอุตสาหกรรมพลาสติกก็จะดีตามไปด้วย

แนวโน้มอุตสาหกรรมพลาสติกในปี 2554 มีประเด็นต่างๆที่ควรติดตามดังนี้

  • อุตสาหกรรมรถยนต์ มีแนวโน้มการขยายการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กในปี 2554-2555 รวมถึงการลงทุนในรถยนต์พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น
  • อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีปัจจัยที่พึงระวังในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้นอาจจะส่งผลต่อการลงทุนในเรื่องที่อยู่อาศัย การจับจ่ายซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นเครื่องปรับอากาศ ทีวี อาจจะลดลง ส่วนเรื่องสำคัญที่ควรคำนึงอาจจะเป็นเรื่องรูปแบบของสินค้าที่อาจจะเล็กลง สะดวกต่อการพกพา การใช้งานง่ายขึ้น ราคาไม่แพง ซึ่งปัจจัยนี้อาจจะส่งผลกับผู้ประกอบการพลาสติกที่ผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไปในอนาคต
  • อุตสาหกรรมก่อสร้าง การใช้จ่ายของภาครัฐในการลงทุนรถไฟฟ้าน่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในรถไฟฟ้าสายสีแดง สีม่วง และสีน้ำเงินที่จะมีการเริ่มต้นปลายปี 2553

แนวโน้มผลิตภัณฑ์พลาสติก ปี 2554

หลังจากสภาวะหลังน้ำท่วมในปลายปี 2553 น่าจะมีส่วนทำให้ปี 2554 มีแรงซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น อีกทั้งการที่เริ่มซื้อเพื่อซ่อมแซม บ้าน สิ่งก่อสร้างหรือรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ที่จะช่วยผลักดันด้านการผลิตมากขึ้น ด้านตลาดต่างประเทศที่เป็นตลาดส่งออกยังมีปัจจัยทั้งด้านบวกและลบ ด้านบวกอาจจะเพิ่มโอกาสในการส่งออกมากขึ้น แต่ในสภาวะเศรษฐกิจยุโรปที่ยังสั่นคล่อน ก็ยังต้องมีสิ่งที่พึ่งระวัง ในด้านปิโตรเคมีที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตพลาสติกนั้น กรณีมาบตาพุด ที่ยังมี 2 โครงการที่ยังไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2554 หลังจากทำรายงาน HIA อีกครั้ง

รัฐบาล/สศอ. มาตรการ/นโยบายเพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจ และช่วยเหลือ

ผู้ประกอบการ

การจัดตั้งสถาบันพลาสติกที่จะเป็นศูนย์กลางความเชื่อมโยงของภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษารวมถึงหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อเนื่องเป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืนมากขึ้น โดยจะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่สำคัญของอุตสาหกรรมวิเคราะห์สถานการณ์ จัดทำรายงาน รวมถึงการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการพลาสติกที่ต้องการพัฒนาศักยภาพในการผลิต และการตลาด เพื่อให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดสากลได้ตอนนี้กระบวนการจัดตั้งอยู่ระหว่างการขออนุญาติจัดตั้งกับประธานพัฒนาอุตสาหกรรมมูลนิธิ เพื่อคัดเลือกกรรมการสถาบันพลาสติก และเลือกผู้อำนวยการสถาบันฯ ต่อไป คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 1-2เดือน

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ