กระทรวงอุตสาหกรรมลุยยกระดับ อุตฯ พลาสติกครบวงจร รับกระแสสิ่งแวดล้อมมั่นใจในปี 59 ผลิตเพิ่ม 5% ต่อปี สร้างมูลค่าทะลุ 3.33 แสนล้าน จากปัจจุบัน 2.2 แสนล้าน ตั้งสถาบันเครือข่ายรับการขยายตัว เร่งเฟ้นหานักบริหารรุ่นใหม่นั่ง ผอ.คนแรก
นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งสถาบันพลาสติกว่า ขณะนี้การจัดตั้งสถาบันพลาสติกมีความคืบหน้าไปถึงขั้นเฟ้นหาผู้บริหารมืออาชีพเพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบัน โดยกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครทั่วไปว่า 1. มีสัญชาติไทย 2. อายุไม่น้อยกว่า 35 ปี และไม่เกิน 60 ปี 3. วุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปหรือเทียบเท่า หรือสูงกว่า 4. มีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 15 ปี 5. มีสภาวะความเป็นผู้นำ มีแนวคิดในการสร้างและพัฒนาองค์กรเป็นอย่างดี 6. มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศได้เป็นอย่างดี 7. มีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในระดับดี 8. มีวิสัยทัศน์ หากมีความรู้หรือประสบการณ์ ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีหรือพลาสติกจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ 9. มีมนุษยสัมพันธ์ และบุคลิกเหมาะสมในการประสานงานความร่วมมือและสร้างเครือข่ายกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา และเอกชน
ผู้อำนวยการมีวาระในตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งได้อีก 1 วาระ โดยผู้สมัครสามารถส่งจดหมายพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครงานไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ฝ่ายเลขานุการฯ คณะทำงานสรรหาผู้อำนวยการสถาบันพลาสติก สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 75/6 ถนนพระรามที่6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ตั้งแต่วันที่ประกาศ จนถึงวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2554
นางสุทธินีย์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมพลาสติกสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศปีละประมาณ 2.2 แสนล้านบาท เกิดการจ้างงานในระบบไม่น้อยกว่า 350,000 คน ปี พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมาสามารถส่งออกได้กว่า 8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ไตรมาสที่ 1/2554 ส่งออกได้ 21,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าขยายตัวได้ดี ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมสาขานี้ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ส่งผลต่อการขยายตัวในระบบเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุนให้กับอุตสาหกรรมต่อเนื่องในหลายสาขา เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร รวมทั้งภาคการเกษตรและชลประทาน
การก่อตั้งสถาบันพลาสติก จะเป็นแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนให้อุตสาหกรรมพลาสติกมีขีดความสามารถการแข่งขันที่สูงขึ้น สอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติก ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยีและการจัดการ การเพิ่มความสามารถทางการตลาด และการสร้างฐานข้อมูล เพื่อ
ผลักดันให้ “ไทยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในภูมิภาคอาเซียน และสนับสนุนการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ ของไทยอย่างยั่งยืน ภายในปี พ.ศ. 2559” โดยมีแผนงานโครงการเร่งด่วน ในระยะ 5 ปี ประกอบด้วย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีและการจัดการ การพัฒนาบุคลากร การเสริมสร้างศักยภาพทางการตลาด และการพัฒนาศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกในช่วง 5 ปี (ปี 2555-2559) ประกอบด้วย การเพิ่มปริมาณการผลิตเฉลี่ย 5% ต่อปี จาก 3.18 ล้านตัน เป็น 4.48 ล้านตัน มูลค่าการผลิตเพิ่มขึ้น 6% ต่อปี จาก 2.2 แสนล้านบาท เป็น 3.33 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นการยกระดับการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--