ในช่วงไตรมาสที่ 2 ภาวะ อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้เนื่องจากเศรษฐกิจของญี่ปุ่นชะลอตัว เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนะมิ ประกอบกับปัญหาหนี้ที่ลุกลามไปหลายประเทศในสหภาพยุโรป ส่งผลให้การค้าขายกับประเทศเหล่านี้ลดลง จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในไตรมาสนี้มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ได้สำรวจข้อมูลการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โซดาไฟซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ขั้นพื้นฐานที่สำคัญ โดยในไตรมาสที่ 2 ปริมาณการผลิต และการจำหน่ายมีปริมาณลดลง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
การผลิต
โซดาไฟ
การผลิตโซดาไฟในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีปริมาณ 255,930.9 ตัน ลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 3.18 และการจำหน่ายโซดาไฟในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีปริมาณ 199,807.6 ตัน ลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 0.94
หมายเหตุ : โซดาไฟเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา และยังใช้ประโยชน์ได้อีกมากมาย เช่น ในการผลิตเยื่อและกระดาษ สบู่และผลิตภัณฑ์ซักฟอก เคมีภัณฑ์ การทำความสะอาด โรงกลั่นน้ำมัน การใช้งานทางอุตสาหกรรมโลหะ อุตสาหกรรมอาหาร เส้นใยเรยอน สิ่งทอ และอื่น ๆ
การตลาด
การนำเข้า
ไตรมาส 2 ปี 2554 การนำเข้าเคมีภัณฑ์อนินทรีย์มีมูลค่า 12,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.73 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เคมีภัณฑ์อินทรีย์มีมูลค่าการนำเข้า 37,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.23 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีมีมูลค่านำเข้า 26,421 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.57 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมสีมีการนำเข้า 11,599 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.54 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.64 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเครื่องสำอางมีมูลค่านำเข้า 6,162 ล้านบาท
การส่งออก
ไตรมาส 2 ปี 2554 การส่งออกเคมีภัณฑ์อนินทรีย์มีมูลค่า 5,236 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.92 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อินทรีย์มีมูลค่าส่งออก 17,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.72 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.96 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีมีมูลค่าการส่งออก 1,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 111.68 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่ลดลงร้อยละ 14.24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมสีมีมูลค่าส่งออก 3,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.26 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.63 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเครื่องสำอางหรือสิ่งปรุงแต่งสำหรับประทินร่างกายมีมูลค่าส่งออก 12,664 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.42 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แนวโน้ม
อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในไตรมาสหน้าคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการต้องผลิตสินค้าเพื่อสต๊อกไว้ขายในช่วงเทศกาลหยุดยาว แต่ทั้งนี้ต้องระวัง ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจของยุโรป และภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--