ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2554 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตเพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรมที่สำคัญ คือ Hard Disk Drive ยานยนต์ เบียร์ รถจักรยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำหรับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2554 ยังคงขยายตัวได้ดี โดยขยายตัวร้อยละ 21.3 แต่หากหักการส่งออกทองคำ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมทองคำขยายตัวร้อยละ 19.07
การผลิตในภาคอุตสาหกรรมซึ่งวัดจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(1) เดือนสิงหาคม 2554 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตเพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรมที่สำคัญ คือ Hard Disk Drive ยานยนต์ เบียร์ รถจักรยานยนต์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิต(2) เดือนสิงหาคม 2554 อยู่ที่ร้อยละ 64.74 จากร้อยละ 63.61 ในเดือนสิงหาคม 2553
เมื่อพิจารณาในด้านของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2554 ยังคงขยายตัวได้ดีโดยขยายตัวร้อยละ 21.3 แต่หากหักการส่งออกทองคำการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมทองคำขยายตัวร้อยละ 19.07
หมายเหตุ (1)ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เป็นดัชนีที่แสดงทิศทางการผลิตภาคอุตสาหกรรม ทั้งในภาพรวม รายสาขาอุตสาหกรรม และรายผลิตภัณฑ์
(2)อัตราการใช้กำลังการผลิต หมายถึง ค่าร้อยละของการผลิตที่เกิดขึ้นจริงเมื่อเทียบกับความสามารถในการผลิตสูงสุดเต็มศักยภาพ หรือเต็มกำลังการผลิต (capacity)
อุตสาหกรรมรายสาขาสำคัญ(สิงหาคม2554)
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตผลิตภัณฑ์ สิ่งทอลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เส้นใยสิ่งทอฯ ผ้าผืน เครื่องนอน เสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งที่ผลิตจากผ้าถักและผ้าทอ ร้อยละ 27.3, 17.7,21.2, 24.9 และ 14.0 ตามลำดับ เนื่องจากต้นทุนการผลิต เช่น ราคาวัตถุดิบ ค่าจ้างแรงงานในปีนี้เพิ่มสูงกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นและกระทบต่อการรับคำสั่งซื้อ ซึ่งอาจจะต่อเนื่องไปถึงปลายปีนี้ รวมถึงปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แต่ในด้านการส่งออกโดยภาพรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ในผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ด้ายเส้นใยประดิษฐ์ เส้นใยประดิษฐ์ ผ้าผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ร้อยละ 28.8, 64.6, 3.7 และ 3.8 ตามลำ ดับ อย่างไรก็ดี การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปลดลงร้อยละ 3.2 และ 11.1 ตามลำดับ
อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า
การผลิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.29 โดยเหล็กทรงแบนมีการผลิตที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.26 ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก เพิ่มขึ้นร้อยละ 89.43 รองลงมาคือ เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.74 ในขณะเดียวกันเหล็กทรงยาวกลับมีการผลิตที่ลดลง ร้อยละ 0.30 โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตลดลงมากที่สุด คือเหล็กเส้นกลม ลดลงร้อยละ62.71 และเหล็กลวดลดลงร้อยละ 22.79 ในส่วนของดัชนีราคาเหล็กต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของราคาเหล็ก(FOB) โดยเฉลี่ยที่สำคัญในตลาด CIS ณ ท่าทะเลดำ (Black Sea) ในช่วงเดือนกันยายน 2554 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้น ได้แก่เหล็กแผ่นรีดเย็น เพิ่มขึ้น ร้อยละ4.41 เหล็กเส้น เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.79 และ เหล็กแผ่นรีดร้อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.43 เนื่องจากผู้ผลิตเหล็กในตลาดสำคัญมีการขอปรับเพิ่มราคาจากเดิมเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์เหล็กดัชนีราคาเหล็กลดลงได้แก่ เหล็กแท่งเล็กบิล เล็ต ลดลงร้อยละ 1.72 และ เหล็กแท่งแบนลดลงร้อยละ 1.19
อุตสาหกรรมรถยนต์ มีการผลิต จำนวน 157,680 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2553 ซึ่งมีการผลิต 141,043 คัน ร้อยละ 11.80 โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นของรถยนต์นั่ง รถยนต์กระบะ 1 ตัน และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ และมีปริมาณการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2554 ร้อยละ 7.09 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นของรถยนต์นั่ง และรถยนต์กระบะ 1 ตันสำหรับการส่งออกมีจำนวน 72,270 คัน ลดลงจาก เดือนสิงหาคม 2553 ซึ่งมีการส่งออก 77,750 คันร้อยละ 7.05
อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.62 เมื่อพิจารณาในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ปรับตัวลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.32 สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.34
ในส่วนมูลค่าการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.66 มีมูลค่าการส่งออกรวม 5,203.52 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.62 และมูลค่าส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.42
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--