การผลิต
การผลิตเซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2555 กระเบื้องปูพื้น บุผนัง มีปริมาณ 43.96 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 3.38 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.29 สำหรับเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 1.78 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.33 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 2.20 (ดังตารางที่ 1)
การผลิตเซรามิก ช่วง 9 เดือนของปี 2555 กระเบื้องปูพื้นบุผนัง มีปริมาณ 133.41 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.59 ในขณะที่เครื่องสุขภัณฑ์มีปริมาณ 5.11 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 3.95
การตลาดและการจำหน่าย
การจำหน่ายในประเทศ
การจำหน่ายเซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2555 กระเบื้องปูพื้น บุผนัง มีปริมาณ 44.90 ล้านตารางเมตร และเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 1.05 ล้านชิ้น (ดังตารางที่ 2) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 5.53 และ 1.87 ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามตลาดในช่วงฤดูฝนที่ความต้องการลดลง นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันที่รุนแรงกับสินค้านำเข้าจากจีนและเวียดนาม จึงทำให้การจำหน่ายไม่สามารถขยายตัวได้ สำหรับการจำหน่ายเซรามิก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.08 และ 3.96 ตามลำดับ
การจำหน่ายเซรามิก ช่วง 9 เดือน ของปี 2555 กระเบื้องปูพื้น บุผนัง มีปริมาณ 142.80 ล้านตารางเมตร และเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 3.21 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.63 และ 4.90 ตามลำดับ
การค้าระหว่างประเทศ
การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2555 มีมูลค่ารวม 181.80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ดังตารางที่ 3) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 23.14 โดยการส่งออกลดลงจากผลิตภัณฑ์ลูกถ้วยไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่นๆ และเครื่องสุขภัณฑ์ เป็นสำคัญ สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยร้อยละ 0.43โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และลูกถ้วยไฟฟ้า
การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกจะส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เยอรมนี และประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ช่วง 9 เดือนของปี 2555 มีมูลค่ารวม 599.23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.50 ซึ่งการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบทุกผลิตภัณฑ์ ยกเว้น ของชำร่วยเครื่องประดับ ที่การส่งออกลดลงในตลาดสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ในอัตราร้อยละ 24.63 ร้อยละ 13.70 และร้อยละ 3.10 ตามลำดับ
การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เวียดนาม และเยอรมนี โดยการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2555 มีมูลค่ารวม 129.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ดังตารางที่ 4) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 5.67 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.80 สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิก ช่วง 9 เดือนของปี 2555 มีมูลค่ารวม 371.38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.90 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่น ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง จากจีนและเวียดนาม และอิฐทนไฟ จากจีน และเยอรมนี เป็นสำคัญ
นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 ราคาก๊าซ LPG ภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก โดยราคาหน้าโรงกลั่น อยู่ที่ราคา 24.86 บาทต่อกิโลกรัมปรับเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม 2555 เป็น 29.56 บาทต่อกิโลกรัม และปรับเพิ่มเต็มเพดานเป็น 30.13 บาทต่อกิโลกรัม ในเดือนกันยายน 2555 ส่งผลทำให้ต้นทุนการผลิตเซรามิกเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
สรุปและแนวโน้ม
สรุป
การผลิตและจำหน่ายเซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2555 กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ ลดลง เนื่องจาก เป็นช่วงฤดูฝนทำให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างลดลงในขณะเดียวกันต้องแข่งขันอย่างรุนแรงกับสินค้านำเข้าจากจีนและเวียดนาม สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2555 ลดลง เนื่องจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ลูกถ้วยไฟฟ้าไม่ได้ก้าวกระโดดเหมือนในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ในขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 3 ปี2555 ลดลงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดในประเทศ
แนวโน้ม
การผลิตและจำหน่ายเซรามิก ไตรมาส 4 ปี 2555 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลขาย สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 4 ปี 2555 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของตลาดอาเซียนเป็นสำคัญ ในขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกไตรมาส 4 ปี 2555 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดในประเทศ โดยการนำเข้าส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่น ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง จากจีน และเวียดนาม และอิฐทนไฟ จากจีน และเยอรมนี เป็นสำคัญ
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--