สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม — กันยายน) พ.ศ. 2555(อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 21, 2012 15:17 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางชะลอตัวลง ทั้งในส่วนของการจำหน่ายในประเทศและการส่งออก เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเริ่มขยายตัวเป็นวงกว้างกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ยาง และความต้องการใช้ยางพาราเพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ลดลงตามไปด้วย

การผลิต

การผลิตยางแปรรูปขั้นต้นในไตรมาสที่ 3 ปี 2555 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 22.27 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.70 ในส่วนของการผลิตผลิตภัณฑ์ยางล้อ ประกอบด้วย ยางนอกรถยนต์นั่ง/รถกระบะยางนอกและยางในรถบรรทุก/รถโดยสาร/รถแทรกเตอร์ ยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์/จักรยานและยางหล่อดอก เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ ยกเว้นผลิตภัณฑ์ในยางนอกรถบรรทุก/รถโดยสาร/รถแทรกเตอร์ ที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย คิดเป็นร้อยละ 1.67 อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตผลิตภัณฑ์ยางล้อปรับตัวเพิ่มทุกผลิตภัณฑ์ ตามที่กล่าวข้างต้น สำหรับการผลิตถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ3.72 และ 8.23 ตามลำดับ

เมื่อมองภาพรวมในช่วง 9 เดือนแรก การผลิตยางแปรรูปขั้นต้น ลดลงร้อยละ 8.75 สำหรับผลิตภัณฑ์ยางปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกผลิตภัณฑ์ ยกเว้นยางนอกรถบรรทุก/รถโดยสาร/รถแทรกเตอร์ ถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ ปรับตัวลดลง คิดเป็นร้อยละ 4.69 และ1.48 ตามลำดับ

การผลิตผลิตภัณฑ์ยางในภาพรวมถือว่ายังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางล้อ สำหรับผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ ชะลอตัวลง ทั้งนี้ เนื่องจากสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลักที่สำคัญของไทย ประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ อย่างไรตาม การผลิตผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ เริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากตลาดในอาเซียนขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

การตลาดและการจำหน่าย

การจำหน่ายในประเทศ

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2555 ปริมาณการจำหน่ายยางแปรรูปขั้นต้นในประเทศ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.69 และ 6.68 ตามลำดับ สำหรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางล้อในประเทศ ประกอบด้วยยางนอกรถยนต์นั่ง/รถกระบะ ยางนอกและยางในรถบรรทุก/รถโดยสาร/รถแทรกเตอร์ ยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์/จักรยาน และยางหล่อดอกเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ สำหรับในส่วนของการจำหน่ายถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ ในประเทศเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.82 และ10.58 ตามลำดับ

เมื่อมองภาพรวมในช่วง 9 เดือนแรก การจำหน่ายยางแปรรูปขั้นต้นในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.20 สำหรับผลิตภัณฑ์ยางล้อ รวมทั้งถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกผลิตภัณฑ์

การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางในประเทศยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางล้อ ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ สำหรับอุตสาหกรรมถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ ความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามกระแสความวิตกกังวลการรักษาสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค

การค้าระหว่างประเทศ

การส่งออก

การส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นของไทย ประกอบด้วย ยางแผ่น ยางแท่ง น้ำยางข้นและยางพาราอื่นๆ โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2555 มีมูลค่าการส่งออก 1,969.65 ล้านเหรียญสหรัฐฯเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และในภาพรวมช่วงครึ่งปีแรก ลดลงร้อยละ 47.42 5.12 และ 34.50ตามลำดับ เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลกในภาพรวม ส่งผลให้ความต้องการใช้ยางพาราเพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ยางลดลง สำหรับตลาดส่งออกยางพาราที่สำคัญ คือ ประเทศจีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้

สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งประกอบด้วย ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ ยางรัดของ หลอดและท่อ สายพานลำเลียงและส่งกำลัง ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในทางเภสัชกรรม ยางวัลแคไนซ์ และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2555 มีมูลค่าการส่งออก 2,083.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ 7.63แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและในภาพรวมช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.22 และ 0.46 ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี และมาเลเซีย

การนำเข้า

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2555 การนำเข้ายางและเศษยาง มีมูลค่า 395.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และในภาพรวมช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.93 7.30 และ 16.91 ตามลำดับ สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางที่สำคัญประกอบด้วย ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง ยางรถยนต์ กระเบื้องปูพื้น/ปิดผนัง ยางวัลแคไนซ์และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ มีมูลค่า 379.04 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และในภาพรวม 9 เดือนแรก การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.71 14.07 และ 22.85 ตามลำดับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากกรอบข้อตกลง FTA ส่งผลให้การนำเข้ายางพาราและผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นด้วย สำหรับตลาดนำเข้าที่สำคัญได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น จีนสหรัฐอเมริกา ไต้หวัน และเยอรมนี

ราคาสินค้า

ราคายางไตรมาสที่ 3 ปี 2555 ปรับตัวลดลง เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเริ่มส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้การบริโภคยางพาราอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ราคายางพาราลดลงอย่างต่อเนื่อง

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

1. นโยบายการรักษาเสถียรภาพทางด้านราคายาง เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ เป็นการดึงปริมาณผลผลิตยางออกจากตลาด เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพด้านราคาของยางและผลักให้ราคายางเพิ่มขึ้น

2. กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการพัฒนาอุตสาหกรรมยางในขั้นกลางน้ำและปลายน้ำ ซึ่งเชื่อมโยงกับการพัฒนายางต้นน้ำตามยุทธศาสตร์พัฒนายางพารา พ.ศ. 2552 — 2556ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจัดตั้งสถาบันพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพาราของประเทศไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 อย่างไรก็ตามไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณ

ในปีงบประมาณ 2556 กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จะดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพาราภายใต้เครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานวิจัย โครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพาราสู่มาตรฐานสากล และโครงการพัฒนาระบบข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าว คือสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้วัตถุดิบยางผลิตผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และได้มาตรฐานสากล ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก ส่งผลให้อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพาราของไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

สรุปและแนวโน้ม

สรุป

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2555 การผลิตและการจำหน่ายในประเทศของอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง เริ่มปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยางล้อ ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ อย่างไรก็ตาม การส่งออกชะลอตัวลง เนื่องจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลกในภาพรวม ส่งผลให้ความต้องการใช้ยางพาราเพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ยางลดลง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในภาพรวมช่วงครึ่ง 9 เดือนแรก อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางยังขยายตัวได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ประเทศที่อุตสาหกรรมรถยนต์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อินเดีย เวียดนาม และบราซิล ยังมีความต้องการใช้ยางพาราอยู่มาก รวมทั้งตลาดในแถบอาเซียนขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกยางและผลิตภัณฑ์ยางในภาพรวมมากนัก

แนวโน้ม

อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง ในไตรมาสที่ 4 ปี 2555 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยางล้อ ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมรถยนต์สำหรับถุงมือยาง/ถุงมือตรวจ ถึงแม้ว่าตลาดหลักที่สำคัญ เช่น สหภาพยุโรปจะชะลอตัวลงแต่ตลาดในอาเซียนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งเท่าตัว ทดแทนการนำเข้าที่ลดลงได้ รวมทั้งประเทศที่อุตสาหกรรมรถยนต์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อินเดีย เวียดนาม และบราซิล ยังมีความต้องการใช้ยางพาราอยู่มาก ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่จะไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมมากเกินไป นอกจากนี้ กรอบข้อตกลง FTA ก็มีส่วนช่วยผลักดันการส่งออกยางพารา

และผลิตภัณฑ์ยางให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย แต่ประเด็นที่ต้องระวังคือ ผลของกรอบ FTA นอกจากจะช่วยผลักดันการส่งออกแล้ว ยังส่งผลให้การนำเข้ายางและผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับแนวโน้มด้านราคายางพาราในไตรมาสที่ 3 ปี 2555 ยังมีความผันผวนปัจจัยสำคัญที่ส่งผลในด้านลบต่อราคายาง คือ ราคาซื้อขายในตลาดล่วงหน้าและราคาน้ำมันที่ลดลงรวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่เริ่มส่งผลกระทบไปทั่วโลก

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ