อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาส 4 ปี 2555 พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมพลาสติก และดัชนีส่งสินค้าลดลงร้อยละ 5.62 และ 0.06 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (ดังตารางที่1 และ2)ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่วันหยุดยาวของทุกประเทศ ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปที่ยังรุนแรง และปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจเอเชีย และการชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น จากเหตุดังกล่าวจึงส่งผลให้อุปสงค์ต่อสินค้าออกของไทยลดลงตาม
การตลาดและการจำหน่าย
การส่งออก
ไตรมาส 4 ปี 2555 ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 254,095.51 ตัน ลดลงร้อยละ 0.89 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในยุโรปและปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาที่ส่งผลไปยังหลายภูมิภาคในโลก รวมทั้งประเทศคู่ค้าหลักของไทยเช่น ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา โดยสินค้าที่มีการส่งออกลดลงได้แก่ ใยยาวเดี่ยว พลาสติกปูพื้นแผ่นฟิล์มฟอยล์ และเครื่องใช้ในครัวเรือน ลดลงร้อยละ 43.09 1.41 3.92 และ 8.15 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (ดังตารางที่ 3)
การนำเข้า
ไตรมาส 4 ปี 2555 ปริมาณการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 134,787.50 ตัน ลดลงร้อยละ 1.44 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยสินค้าที่มีการนำเข้าลดลงได้แก่ ใยยาวเดี่ยว แผ่นฟิล์มฟอยล์ชนิดยึดติดในตัว แผ่นฟิล์มฟอยล์ แผ่นฟิล์มฟอยล์แบบเซลลูลาร์เครื่องสุขภัณฑ์ และเครื่องประกอบอาคาร ลดลงร้อยละ 26.59 1.99 11.30 3.42 19.88 และ 13.44 ตามลำดับ โดยประเทศที่ไทยนำเข้าสินค้าดังกล่าวมากที่สุด คือ ประเทศซาอุดิอาราเบีย และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ (ดังตารางที่ 4)
นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
นโยบายภาครัฐในปี 2555 เป็นนโยบายที่เน้นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ อาทิเช่น เพิ่มรายได้แรงงานขั้นต่ำ 300 บาท เพิ่มเงินเดือนข้าราชการปริญญาตรี 15,000 บาท โครงการรับจำนำข้าวเปลือก โครงการรถยนต์คันแรก โครงการบ้านหลังแรก และการตรึงราคาน้ำมันดีเซล เป็นต้น ซึ่งนโยบายดังกล่าวส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น ถือว่าเป็นการชดเชยกับรายได้จากการส่งออกที่หดตัวลงมาก อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
สรุปและแนวโน้มปี 2556
อุตสาหกรรมพลาสติกปี 2555 โดยภาพรวมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ประกอบกับในปี 2554 ที่มีฐานค่อนข้างต่ำ สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมพลาสติกในปี 2556 น่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของภาครัฐโดยเฉพาะการเบิกจ่ายตามแผนบริหารจัดการน้ำในระยะยาวของภาครัฐวงเงินลงทุนรวม 3.5 แสนล้านบาทซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยลงทุนในปี 2556 นอกจากนี้ ในด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศคาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น จะขยายตัวได้ดีกว่าปี 2555 แม้จะยังมีความเสี่ยงอยู่ค่อนข้างมากดังนั้นภาคการส่งออกในปี 2556 น่าจะกลับมามีบทบาทมากขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--