สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ไตรมาส 4 ปี 2555 (ตุลาคม — ธันวาคม 2555)(อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม )

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 28, 2013 15:42 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม หนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นแหล่งการจ้างงานและสร้างรายได้ในลำดับต้น ๆ ของภาคอุตสาหกรรมไทย โดยอุตสาหกรรมดังกล่าวกำลังประสบกับความผันผวน และความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก ทำให้มีคำสั่งซื้อจากตลาดกลุ่มนี้ลดลง ประกอบกับมาตรการกีดกันทางการค้าที่นับวันจะรุนแรงขึ้น นอกจากนี้การปรับค่าจ้างขั้นต่ำภายในประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมโดยตรง ทำให้เกิดการปรับตัวของผู้ประกอบการ จนถึงขั้นต้องย้ายฐานการผลิตเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ

การผลิตและการจำหน่าย

ไตรมาส 4 ปี 2555 เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม การผลิตเส้นใยสิ่งทอรวมทั้งการทอสิ่งทอ การผลิตผ้าที่ได้จากการถักนิตติ้งและโครเชท์ (เสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตจากผ้าถัก) และการผลิตเครื่องแต่งกายยกเว้นเครื่องแต่งกายที่ผลิตจากขนสัตว์ (เสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตจากผ้าทอ) (ตารางที่ 1, 2 และ 3)ดัชนีปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ร้อยละ 2.01, 9.52 และ 9.30 ตามลำดับ เนื่องจากต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของตลาดส่งออกหลัก ทั้งสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ประกอบกับความผันผวนของราคาฝ้ายซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต อีกทั้งค่าเงินบาทในครึ่งปีหลังเมื่อเทียบกับค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระทบต่อคำสั่งซื้อสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตผ้าฯ และการผลิตเครื่องแต่งกายฯ ลดลงร้อยละ 18.49 และ 5.23 ตามลำดับ ยกเว้นเส้นใยสิ่งทอฯ ที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ23.79 เนื่องจากโรงงานผลิตเส้นใยขนาดใหญ่ในจังหวัดลพบุรีได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยในช่วงปลายปี2554 ทำให้ต้องหยุดการผลิต สำหรับดัชนีส่งสินค้าหรือดัชนีการจำหน่ายของการผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ การผลิตผ้าฯ และการผลิตเครื่องแต่งกายฯ พบว่า ดัชนีลดลงและสอดคล้องกับการผลิตที่ลดลง

การตลาด

การค้าระหว่างประเทศ

การส่งออก

ไตรมาส 4 ปี 2555 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่าการส่งออก 1,810.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.07 เมื่อเทียบไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 0.92 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีคำสั่งซื้อลดลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป โดยผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มส่งออกที่สำคัญ ได้แก่

1. กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม ไตรมาส 4 ปี 2555 มีมูลค่าการส่งออก 703.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(ตารางที่ 4) ลดลงร้อยละ 7.68 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 3.69 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.88 ของการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์สำคัญ มีดังนี้

1.1 เสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการส่งออก 604.18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ8.64 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 4.26 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเสื้อผ้าสำเร็จรูปมีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 85.86 ของมูลค่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกลดลง เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อลดลงทั้งทางตรงและทางอ้อม

2. กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่าการส่งออก 1,106.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.65 เมื่อเทียบกับไตรมาก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.93 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสิ่งทอ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61.12 ของการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับการส่งออกในผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ มีดังนี้

2.1 ผ้าผืนและด้าย ไตรมาส 4 ปี 2555 มีมูลค่าการส่งออก 599.68 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.08 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.96 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย ผ้าผืน มีมูลค่าการส่งออก 389.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 65.09 และด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ มีมูลค่าการส่งออก 209.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.97 โดยตลาดส่งออกหลัก คือ เวียดนาม จีน และญี่ปุ่น

2.2 เคหะสิ่งทอ ไตรมาส 4 ปี 2555 มีมูลค่าการส่งออก 83.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.71 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.06 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก คือ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น

2.3 เส้นใยประดิษฐ์ ไตรมาส 4 ปี 2555 มีมูลค่าการส่งออก 180.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 6.41 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 9.24 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน

2.4 สิ่งทออื่น ๆ ไตรมาส 4 ปี 2555 มีมูลค่าการส่งออก 151.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.15 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.44 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก คือ ญี่ปุ่น จีน และ อินโดนีเซีย

การนำเข้า

ไตรมาส 4 ปี 2555 มีการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มคิดเป็นมูลค่า 1,180.54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ตารางที่ 5) ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.61 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.66เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์สิ่งทอฯ สำคัญที่นำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งทอต้นน้ำที่เป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งผลิตภัณฑ์นำเข้าที่สำคัญ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1. กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่าการนำเข้าสิ่งทอ (ด้ายและเส้นใย ผ้าผืน และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ)รวมทั้งสิ้น 1,034.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.53 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.36 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการนำเข้าในกลุ่มนี้ คิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าถึงร้อยละ 87.59 ของมูลค่าการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด โดยผลิตภัณฑ์สำคัญที่นำเข้า มีดังนี้

1.1 เส้นใยที่ใช้ในการทอ มีมูลค่านำเข้า 216.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 0.48 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 9.36 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล และสหรัฐอเมริกา

1.2 ด้ายทอผ้าฯ มีมูลค่านำเข้า 187.51 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2.25 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 0.95 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน

1.3 ผ้าผืน มีมูลค่านำเข้า 446.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.53 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลงร้อยละ 2.43 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น

1.4 ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ มีมูลค่านำเข้า 108.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.20 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.95 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

2. กลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 146.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.15 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.51 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนโดยมูลค่าการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.41 ของการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด โดยตลาดนำเข้าหลัก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม

3. เครื่องจักรสิ่งทอ มีมูลค่านำเข้า 99.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 17.02 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.04 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

  • นโยบายการปรับค่าจ้างแรงงาน 300 บาท ทั่วประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป ได้ส่งผลกระทบให้ต้นทุนการผลิตของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงราคาสาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนการขาดแคลนแรงงานในภาคการผลิต ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจขยายการลงทุนในธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในประเทศ
  • ปีงบประมาณ 2556 กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ได้ดำเนินโครงการศึกษาแนวทางการย้ายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าว คือ มีข้อมูลเชิงลึกของประเทศเป้าหมายในการย้ายฐานหรือการขยายฐาน มีแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นของไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงมีคู่มือแนวทางปฏิบัติในการลงทุนในประเทศเพื่อนบา น เพื่อใหก้ ลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นสามารถดำรงอยู่และคงความสามารถในการแข่งขันและเติบโตในตลาดโลกต่อไป

สรุปและแนวโน้ม

สรุป

การผลิตและการจำหน่ายของเส้นใยสิ่งทอฯ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ในไตรมาส 4 ปี 2555 ลดลง เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อลดลงสอดคล้องกับการจำหน่ายที่ลดลง สำหรับการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในภาพรวมของไตรมาส 4 ปี 2555 ลดลงร้อยละ 1.07 ส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวลงของกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญของเครื่องนุ่งห่มไทย ประกอบกับราคาสินค้าของไทยอยู่ในระดับสูงโดยเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ทำให้มีคำสั่งซื้อจากตลาดกลุ่มนี้ลดลง

แนวโน้ม

แนวโน้มการผลิตและการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในไตรมาส 1 ปี 2556 คาดว่าจะมีปัจจัยลบ ได้แก่ ความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ยังส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งอาจส่งผลต่อภาคการผลิตและการส่งออกที่อาจชะลอตัวลง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่มีสายการผลิตที่มีศักยภาพในการแข่งขัน จึงควรเร่งพัฒนาคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งหาลู่ทางในการขยายการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า เพื่อการแข่งขันที่สูงขึ้นและปรับตัวรับกับการเปิดเสรี AEC ในปี 2558 อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากตลาดอาเซียนที่คาดว่าจะเติบโตได้ดี และตลาดเกิดใหม่ในกลุ่ม BRIC (บราซิลรัสเซีย อินเดีย และจีน) ที่จะเป็นตลาดสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในระยะต่อไป

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ