ภาวะตลาดโลก
การผลิต
การผลิตอะลูมิเนียมท้าได้ 2 วิธีการ คือผลิตจากสินแร่ (Primary Aluminium)และผลิตจากเศษอะลูมิเนียมหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว (Scrap Recycling)
การผลิตจากสินแร่นั้นจะเริ่มจากน้าแร่บอกไซต์ ( Bauxite) มาท้าให้บริสุทธิ์กลายเป็นอะลูมินา (Alumina ) จากนั้นน้ามาหลอมเป็นอะลูมิเนียม โดยแร่บอกไซต์ ( Bauxite) 4 เมตริกตัน จะผลิตอะลูมินา (Alumina) ได้ 2 เมตริกตัน และน้ามาผลิตต่อเป็นอะลูมิเนียมได้ 1 เมตริกตัน
แหล่งแร่บอกไซต์ (Bauxite) ที่ดีของโลกมีอยู่ 7 แห่ง คือ
-แอฟริกากลางและตะวันตก (กินี)
-อเมริกาใต้ (บราซิล เวเนซุเอลา สุรินัม)
-แคริบเบียน (จาไมกา)
-โอเชียนเนียและเอเซียใต้ (ออสเตรเลีย อินเดีย)
-จีน
-เมดิเตอร์เรเนียน (กรีซ ตุรกี)
-อูราล (รัสเซีย)
จากรายงานสถิติข้อมูลของ International Aluminium Institute แจ้งว่าก้าลังการผลิตโลหะอะลูมิเนียมที่ใช้วัตถุดิบจากสินแร่ในปี 2555 จ้าแนกตามภูมิภาคเป็นดังนี้
หน่วย : 1,000 เมตริกตัน
ภูมิภาค กำลังการผลิต แอฟริกา 2,031 อเมริกาเหนือ 5,573 อเมริกาใต้ 2,466
เอเชียตะวันออกและเอเซียใต้(ไม่รวมจีน เกาหลีเหนือ อาเซอร์ไบจัน และอิหร่าน)* 2,904
ยุโรปตะวันตก 4,372 ยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง 4,083 ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 2,342 กลุ่มประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย 3,286 รวมทั้งสิ้น 27,057
ที่มา : International Aluminium Institute
หมายเหตุ : * จีน เกาหลีเหนือ อาเซอร์ไบจัน และอิหร่าน มิได้รายงานตัวเลขต่อ International Aluminium Institute และประมาณการในอีก 2 ปีข้างหน้าว่าจะมีก้าลังการผลิตดังนี้
หน่วย : 1,000 เมตริกตัน
ภูมิภาค ปี 2556 ปี 2557 แอฟริกา 2,033 2,028 อเมริกาเหนือ 5,634 5,872 อเมริกาใต้ 2,619 2,667 ภูมิภาค ปี 2556 ปี 2557 เอเชียตะวันออกและเอเซียใต้(ไม่รวมจีน เกาหลีเหนืออาเซอร์ไบจัน และอิหร่าน)* 3,186 3,196 ยุโรปตะวันตก 4,379 4,473 ยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง 4,359 4,609 ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 2,354 2,374 กลุ่มประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย 4,047 4,221 รวมทั้งสิ้น 28,611 29,440
ที่มา : International Aluminium Institute
หมายเหตุ : * จีน เกาหลีเหนือ อาเซอร์ไบจัน และอิหร่าน มิได้รายงานตัวเลขต่อ International Aluminium Institute
หน่วย : 1,000 เมตริกตัน
ภูมิภาค ปี 2555 แอฟริกา 1,636 อเมริกาเหนือ 4,851 อเมริกาใต้ 2,053 เอเชีย (ไม่รวมจีน) 2,535 ยุโรปตะวันตก 3,605 ยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง 4,323 ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 2,178
กลุ่มประเทศที่มีชายฝั่งติดอ่าวเปอร์เซีย (Gulf region) 3,658
จีน 19,754 รวมทั้งสิ้น 44,593
หากจำแนกผู้ผลิตรายใหญ่เป็นรายประเทศ ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกจะเป็นประเทศที่สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำเนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจะต่ำสุด (การผลิตอะลูมิเนียมใช้พลังงานไฟฟ้าสูงมาก) ซึ่งได้แก่ ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหภาพยุโรป รองลงมาได้แก่ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ทาจิกิสถาน และนิวซีแลนด์
สำหรับบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ 10 อันดับของโลก ซึ่งจัดอันดับจากปริมาณการผลิตในปี 2554 มีดังนี้
อันดับ ชื่อบริษัท ประเทศ ปริมาณผลผลิต
(หน่วย : พันตัน)
1. United Co. Rusal รัสเซีย 4,127 2. Rio Tinto Group อังกฤษ-ออสเตรเลีย 3,829 3. Alcoa Inc. สหรัฐอเมริกา 3,669 4. Aluminum Corp. of China จีน 3,127 5. Norsk Hydro ASA นอร์เวย์ 1,705 6. Dubai Aluminium Co. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1,386 7. China Power Investment Co. จีน 1,381 8. BHP Billiton Ltd. ออสเตรเลีย 1,249 9. Shandong Xinfa Aluminum and Electricity Group จีน 1,016 10. Aluminium Bahrain BSC บาห์เรน 881
(รวบรวมโดย London-based researcher CRU)
การบริโภค
ปัจจุบันความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมมีมากขึ้นทุกปี และเป็นโลหะที่ถูกน้ามาใช้ประโยชน์มากเป็นที่สองรองจากโลหะเหล็ก ซึ่งเราจะพบได้ทั้งจากชิ้นส่วนของเครื่องบินซึ่งเป็นสินค้าราคาสูงลิบไปจนถึงกระป๋องเครื่องดื่มซึ่งเป็นสินค้าทั่วไปในท้องตลาด ภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิค เป็นตลาดอะลูมิเนียมที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยจีนและอินเดีย เป็นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ผลักดันให้เกิดการขยายตัวในการบริโภคอะลูมิเนียม ตามด้วยสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยในสหรัฐอเมริกามีสัญญานบ่งชัดถึงการเริ่มฟื้นตัวจากอุตสาหกรรมยานยนต์ และการขนส่ง ส่วนประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ในเอเซียก็มีการฟื้นตัวจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมื่อปี 2554 โดยรัฐบาลได้ทุ่มงบประมาณก่อสร้างเป็นจ้านวนมากเพื่อซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ก็มีการเติบโตจากความต้องการภายในประเทศ
ในอนาคตอะลูมิเนียมในตลาดโลกจะยังคงเติบโตได้จากอุปสงค์ของประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมทั้งจากส่วนอื่นๆของโลก เช่น ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่ง Global Industry Analysts, Inc. ได้คาดการณ์ว่า ในปี 2561 อุปสงค์อะลูมิเนียมของโลกจะมีปริมาณถึง 71.2 ล้านตัน ปัจจัยส้าคัญคือ การขยายตัวของอุปสงค์โลหะในประเทศที่พัฒนาแล้ว และปริมาณการบริโภคต่อหัวของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ปัจจุบันยังต่ำมากจึงท้าให้มีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกในอนาคต นอกจากนั้น การใช้อะลูมิเนียมในอุตสาหกรรมต่างๆก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมกระป๋อง ฯลฯ ในขณะที่ปัจจุบันอุปทานอะลูมิเนียมของโลกอยู่ที่ 48.0 ล้านตัน (โดยเป็นก้าลังการผลิตอะลูมิเนียมจากสินแร่ (Primary Aluminium Capacity) 28.6 ล้านตันและก้าลังการหลอมเศษอะลูมิเนียมที่ใช้แล้ว (Scrap Recycling) อีก 19.4 ล้านตัน) เพื่อให้เกิดการสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในอนาคต จ้าเป็นจะต้องมีการขยายก้าลังการผลิตเพิ่มขึ้นในประเทศที่มีแหล่งแร่Bauxite เป็นจ้านวนมาก และมีพลังงานไฟฟ้าราคาถูก
ราคาตลาดโลก
ในปี 2555 ราคาอะลูมิเนียมยังคงผันผวนอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากผู้บริโภคที่เป็นตลาดหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และยังมีปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มยูโรโซนที่ท้าให้นักลงทุนเกิดความกังวล รวมทั้งราคาพลังงานก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตรายใหญ่บางรายต้องประกาศตัดลดก้าลังการผลิตลง เพราะราคาพลังงานเพิ่มขึ้นแต่ราคาอะลูมิเนียมกลับลดลง
ในปี 2555 ราคาสูงสุดอยู่ที่ 2,335 เหรียญสหรัฐต่อตัน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2555 ส่วนราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,841 เหรียญสหรัฐต่อตัน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2555
แนวโน้มราคาปี 2556
แม้ว่าราคาในปี 2555 จะลดลง แต่ด้วยพื้นฐานของตลาดอะลูมิเนียมที่ดูดีจากการที่ความต้องการของตลาดยังมีอยู่มากและปริมาณการผลิตยังค่อนข้างจ้ากัด ท้าให้ธนาคารโลกได้ประมาณการราคาโลหะอะลูมิเนียมในปี 2556 ไว้ที่ 2,200 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน โดยคาดว่าเศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดของโลกจะขยายตัวร้อยละ 8.4 ซึ่งมากกว่าปี 2555 (ร้อยละ 7.9) และสหรัฐอเมริกาจะสามารถแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลัง (Fiscal Cliff) รวมทั้งสหภาพยุโรปก็น่าจะร่วมมือกันเพื่อหามาตรการที่จะท้าให้ยุโรปพ้นสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวได้
ภาวะอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมภายในประเทศ
โครงสร้างอุตสาหกรรมอะลูมิเนียม แบ่งออกได้ 3 ส่วน คือ อุตสาหกรรมต้นน้ำ ได้แก่ การถลุงอะลูมิเนียมจากแร่ Bauxite ซึ่งยังไม่มีในประเทศไทย อุตสาหกรรมกลางน้ำ ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์กึ่งส้าเร็จรูปเพื่อใช้ในการผลิตในอุตสาหกรรมปลายน้ำ ส้าหรับอุตสาหกรรมปลายน้ำจะเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์ส้าเร็จรูปที่มีรูปทรงต่างๆเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ ภาชนะเครื่องครัว เป็นต้น
การที่ประเทศไทยยังไม่มีการถลุงอะลูมิเนียม เนื่องจากขาดแหล่งแร่ Bauxite และราคาพลังงาน เช่น ไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ มีราคาสูง ดังนั้นวัตถุดิบต้นทางของการผลิตในไทยจึงเริ่มจากการน้าเศษอะลูมิเนียมมาหลอมเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งส้าเร็จรูปในรูปของแท่งแบน (Slab) และแท่งยาว (Billet) รวมทั้งการหล่ออะลูมิเนียม เป็นรูปทรงต่างๆตามความต้องการ ส้าหรับผู้ผลิตที่ไม่มีเตาหลอมก็จะสั่งน้าเข้าวัตถุดิบในรูปของผลิตภัณฑ์ กึ่งส้าเร็จรูปเข้ามารีดร้อนและรีดเย็นเพื่อลดความหนาได้ตามความต้องการจนกระทั่งบางเป็นแผ่น Foil จากนั้นก็จะน้าไปขึ้นรูปต่อด้วยวิธีการต่างๆ
การผลิต
ภาวะอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมภายในประเทศในปี 2555 จัดว่าดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าโดยขยายตัวประมาณ 10% เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเช่น ยานยนต์ ก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และบรรจุภัณฑ์ ได้ฟื้นตัวจากน้ำท่วมกลับมาผลิตได้เป็นปกติ แต่อุตสาหกรรมอะลูมิเนียมก็ยังต้องประสบปัญหาคู่แข่ง เช่น จีน ที่ส่งสินค้าเข้ามาจ้าหน่ายในราคาที่ต่ำมาก เนื่องจากจีนมีแหล่งแร่ Bauxite ที่ใช้ผลิตโลหะอะลูมิเนียม การผลิตส่วนใหญ่ครบวงจร อีกทั้งยังได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลในด้านราคาพลังงาน และให้ผู้ส่งออกสามารถขอคืนภาษีส่งออก (Export tax rebate)ได้อีก 9 % ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าของจีนต่ำกว่าไทยมาก ซึ่งผู้ผลิตภายในประเทศต้องหาทางแก้ไขด้วยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าของจีน และสร้างความแตกต่างหรือความหลากหลายในตัวผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น นอกจากปัญหาด้านการตลาดแล้ว ผู้ผลิตก็ยังประสบปัญหาราคาวัตถุดิบที่ต้องน้าเข้ามีความผันผวนตลอดทั้งปี ท้าให้เกิดปัญหาซื้อแพงขายถูก และต้องประสบภาวะขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การนำเข้า
ปริมาณนำเข้าอะลูมิเนียมในปี 2555 ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบ เช่น อะลูมิเนียมที่ยังไม่ขึ้นรูป (Unwrought) คิดเป็นปริมาณ 521,666 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 11.99 แหล่งน้าเข้าที่ส้าคัญคือประเทศออสเตรเลีย มาเลเซีย และกาตาร์ รองลงมาคือเศษอะลูมิเนียม (Scrap) คิดเป็นปริมาณ 71,343 เมตริกตัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 30.55 ส่วนใหญ่น้าเข้ามาจากประเทศเบลเยี่ยม กัมพูชา และสหราชอาณาจักร
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่น้าเข้าปริมาณมากคือแผ่นอะลูมิเนียม (Plates Sheets & Strip) คิดเป็นปริมาณ 165,444 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 7.78 โดยส่วนมากน้าเข้าจากประเทศญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย รองลงมาคือ แผ่น Foil คิดเป็นปริมาณ 68,722 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 10.03 โดยน้าเข้าจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รายละเอียดการน้าเข้าปี 2555 ปรากฏตามตารางที่ 4
ผลิตภัณฑ์ ปริมาณ อัตราการขยายตัว มูลค่า อัตราการขยายตัว (เมตริกตัน) เทียบกับปีก่อน(%) (ล้านบาท) เทียบกับปีก่อน(%) -อะลูมิเนียมที่ยังไม่ขึ้นรูป (อันรอต) 521,666 11.99 37,270 0.55 -เศษและของที่ใช้ไม่ได้ที่เป็นอะลูมิเนียม 71,343 -30.55 3,512 -39.10 -ผงอะลูมิเนียมและเกล็ดอะลูมิเนียม 518 -16.78 93 -18.59 -ท่อน เส้น และโพรไฟล์ ท้าด้วยอะลูมิเนียม 15,218 29.07 2,107 32.94 -ลวดอะลูมิเนียม 4,685 15.50 519 3.19 -แผ่น แผ่นบาง และแถบ ท้าด้วยอะลูมิเนียม 165,444 7.78 18,789 5.31 -ฟอยล์อะลูมิเนียม ความหนาไม่เกิน 0.2 มม. 68,722 10.03 10,151 7.00 -หลอด หรือ ท่อ ท้าด้วยอะลูมิเนียม 11,200 11.78 2,501 13.38 -อุปกรณ์ติดตั้งที่ท้าด้วยอะลูมิเนียม ของหลอดหรือท่อ 1,256 117.99 533 52.01 -สิ่งก่อสร้าง 7,373 77.12 1,111 43.12 -เรเซอร์วัวร์ แท้งก์ แว้ต และภาชนะที่คล้ายกัน สำหรับใช้บรรจุวัตถุใดก็ตาม ท้าด้วยอะลูมิเนียม ที่มีความจุเกิน 300 ลิตร 189 -40.19 42,048 -57.50 -คาสก์ ดรัม กระป๋อง หีบ และภาชนะคล้ายกัน สำหรับใช้บรรจุวัตถุใดก็ตาม ท้าด้วยอะลูมิเนียม ที่มีความจุเกิน 300 ลิตร 15,345 139.46 3,059 106.10 -ภาชนะอะลูมิเนียมส้าหรับบรรจุก๊าซอัดหรือก๊าซเหลว 507 36.28 174 17.57 -ลวดเกลียว เคเบิล แถบถัก ท้าด้วยอะลูมิเนียม ไม่หุ้มฉนวนไฟฟ้า 72 -98.33 19 -96.72 -ของใช้บนโต๊ะอาหาร ของใช้ในครัว หรือของใช้ตาม บ้านเรือนอื่นๆ ท้าด้วยอะลูมิเนียม 1,627 48.19 422 58.44 -ของอื่นๆท้าด้วยอะลูมิเนียม 25,904 21.83 15,596 14.46 รวม 911,069 7.25 95,898 4.35
ที่มา : กรมศุลกากร
การส่งออก
ในปี 2555 การส่งออกในส่วนของวัตถุดิบที่มีปริมาณมากสูงสุดคือเศษอะลูมิเนียม (Scrap) คิดเป็นปริมาณ 50,673 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 49.33 ตลาดหลักคือ ประเทศเบลเยี่ยม กัมพูชา และสหราชอาณาจักร รองลงมาคืออะลูมิเนียมที่ยังไม่ขึ้นรูป (Unwrought) คิดเป็นปริมาณ 42,764 เมตริกตัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 30.80 โดยส่วนใหญ่ส่งไปที่ประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ส้าหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกที่น่าสนใจคือ สิ่งก่อสร้าง ( เช่น ประตู หน้าต่างและกรอบ หลังคา โครงหลังคา อะลูมิเนียมแท่งยาวหรือแผ่นหนาที่ใช้ในงานก่อสร้าง) มีปริมาณส่งออกที่ระดับ 67,910 เมตริกตัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 9.09 ตลาดหลักได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ รองลงมาคือ ของใช้บนโต๊ะอาหาร ของใช้ในครัว ปริมาณส่งออกอยู่ที่ 27,678 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.52 ตลาดหลักได้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกผลิตภัณฑ์คือของอื่นๆท้าด้วยอะลูมิเนียม ส่งออกในปริมาณ 26,795 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 77.47 โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปจ้าหน่ายที่ประเทศจีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 5
ผลิตภัณฑ์ ปริมาณ อัตราการขยายตัว มูลค่า อัตราการขยายตัว (เมตริกตัน) เทียบกับปีก่อน(%) (ล้านบาท) เทียบกับปีก่อน(%) -อะลูมิเนียมที่ยังไม่ขึ้นรูป (อันรอต) 42,764 -30.80 3,116 -35.79 -เศษและของที่ใช้ไม่ได้ที่เป็นอะลูมิเนียม 50,673 49.33 2,705 44.82 -ผงอะลูมิเนียมและเกล็ดอะลูมิเนียม 3,177 10,895.78 8 131.75 -ท่อน เส้น และโพรไฟล์ ท้าด้วยอะลูมิเนียม 4,394 -28.53 607 -21.71 -ลวดอะลูมิเนียม 456 48.64 56 30.43 -แผ่น แผ่นบาง และแถบ ท้าด้วยอะลูมิเนียม 14,621 -45.99 1,446 -47.04 -ฟอยล์อะลูมิเนียม ความหนาไม่เกิน 0.2 มม. 8,926 -4.23 1,611 -3.60 -หลอด หรือ ท่อ ท้าด้วยอะลูมิเนียม 3,007 8.99 823 14.05 -อุปกรณ์ติดตั้งที่ท้าด้วยอะลูมิเนียม ของหลอดหรือท่อ 603 30.13 349 35.17 -สิ่งก่อสร้าง 67,910 -9.09 12,947 -3.24 -เรเซอร์วัวร์ แท้งก์ แว้ต และภาชนะที่คล้ายกัน สำหรับใช้บรรจุวัตถุใดก็ตาม ท้าด้วยอะลูมิเนียม -ที่มีความจุเกิน 300 ลิตร 105 7.16 52 18.42 -คาสก์ ดรัม กระป๋อง หีบ และภาชนะคล้ายกัน สำหรับใช้บรรจุวัตถุใดก็ตาม ท้าด้วยอะลูมิเนียม ที่มีความจุเกิน 300 ลิตร 13,127 -22.06 3,137 -14.74 -ภาชนะอะลูมิเนียมส้าหรับบรรจุก๊าซอัดหรือก๊าซเหลว 173 12.93 48 -14.44 -ลวดเกลียว เคเบิล แถบถัก ท้าด้วยอะลูมิเนียม ไม่หุ้มฉนวนไฟฟ้า 597 92.41 75 70.72 -ของใช้บนโต๊ะอาหาร ของใช้ในครัว หรือ ของใช้ตาม บ้านเรือนอื่นๆ ท้าด้วยอะลูมิเนียม 27,678 3.52 5,802 5.53 -ของอื่นๆท้าด้วยอะลูมิเนียม 26,795 77.47 5,772 37.24 รวม 265,006 -3.90 38,554 -3.21
ที่มา : กรมศุลกากร
แนวโน้มปี 2556
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2556 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.50 ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ดีกว่าปีก่อนหน้า โดยการฟื้นตัวจะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีผลต่อการฟื้นตัว เช่น ปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศยูโรโซน แต่คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศหลักและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนน่าจะช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตขึ้นในปีนี้ ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยส้าคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและท้าให้การขยายตัวของอุตสาหกรรมต่างๆภายในประเทศรวมทั้งอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมจะสามารถขยายตัวได้ดีกว่าปี 2555
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--