สศอ.เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการอุตฯ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 15, 2014 15:56 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ชี้ชองทางผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไทย ใช้เครื่องมือในการจัดการสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ EuP เพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรป

นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปี พ.ศ. 2555 ประเทศไทยมียอดการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่ารวมถึง 54,156.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป 7,174.80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 13.24 ซึ่งตลาดสหภาพยุโรปเป็นตลาดสำคัญอันดับที่ 4 รองจาก ตลาดอาเซียน จีน ญี่ปุ่น ปัจจุบันสหภาพยุโรปได้มีการประกาศใช้กฎระเบียบ Energy Using Product (EuP) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวางกรอบในการออกข้อกำหนดการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วสหภาพยุโรปและเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน การป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมและเพิ่มความมั่นคงในแหล่งพลังงาน ทั้งนี้ ได้กำหนดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องดำเนินการตามระเบียบไว้ทั้งสิ้น 38 กลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มมีการประกาศผลิตภัณฑ์ที่ต้องดำเนินการตามระเบียบ EuP ในปี พ.ศ. 2552 จำนวน 1 กลุ่มผลิตภัณฑ์ และได้ทยอยประกาศเพิ่มเติมมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2556) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องดำเนินการให้ได้ตามระเบียบ EuP มีจำนวนทั้งสิ้น 17 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งระเบียบดังกล่าวเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ การเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศประสบปัญหาในเรื่ององค์ความรู้ และระเบียบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง รวมถึงยังขาดแคลนผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระเบียบดังกล่าว

ดังนั้น สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมจึงได้ดำเนินโครงการพัฒนากระบวนการต้นแบบในการจัดทำ EuP (Energy Using Product) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และพร้อมปรับตัวเพื่อรองรับกฎระเบียบ EuP ภายใต้โครงการฯ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบนำร่อง 10 ผลิตภัณฑ์ ที่มีผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป เพื่อให้สามารถรักษาส่วนแบ่งด้านการตลาดอันเนื่องมาจากผลกระทบของกฎระเบียบ EuP ได้ รวมถึงมีการสร้างบุคลากรในประเทศให้สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแนะนำและขยายองค์ความรู้ให้กว้างขวางออกไป รวมทั้ง ได้จัดกิจกรรมอบรม/สัมมนาสร้างองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อสร้างให้มีความพร้อมในการปรับตัวตามกฎระเบียบ EuP กว่า 300 คน การสร้างผู้เชี่ยวชาญด้าน EuP จำนวน 5 คน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ โดยมีการประเมินผลและได้รับวุฒิบัตรรับรอง

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ EuP ทั้ง 5 คน จะดำเนินการอบรมสร้างวิทยากรด้าน EuP ให้กับบุคลากรของโรงงานที่เข้าร่วมโครงการฯ รวม 20 คน เพื่อให้มีความรู้ และศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามกฎระเบียบ EuP โดยผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย อุปกรณ์ส่องสว่างในครัวเรือน อุปกรณ์ส่องสว่างนอกครัวเรือน เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องปรับอากาศ มอเตอร์ไฟฟ้า พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ตู้เย็นและตู้แช่เชิงพาณิชย์ และ External Power Supplies ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้รับการพัฒนา โดยได้รับคำปรึกษา แนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรที่ปรึกษา ตลอดจนการทดสอบผลิตภัณฑ์ตามข้อกำหนดของกฎระเบียบ EuP นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินกิจกรรมจัดทำตำราวิชาการสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาทั้ง 10 ผลิตภัณฑ์ เผยแพร่ไปสู่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตนให้ได้ตามกฎระเบียบ EuP ที่จะขยายออกไปในวงกว้างครอบคลุมผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป

นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี พ.ศ. 2557 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม มีแนวคิดที่จะต่อยอดโครงการข้างต้น โดยดำเนินโครงการการพัฒนากระบวนการต้นแบบในการจัดทำ EuP (Energy Using Product) ระยะที่ 2 เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรที่ปรึกษาเพิ่มเติม และพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งที่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดิมที่ยังไม่ได้ดำเนินการ (เช่น หลอดไฟส่องสว่าง ซึ่งแต่ละประเภทของหลอดไฟจะมีการใช้งาน การเก็บข้อมูลเชิงสถิติ วิธีการผลิต การทดสอบ และการทำงานที่แตกต่างกัน) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบ EuP (เช่น ส่วนประกอบของเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ กล่องถ่าย TV, VDO เป็นต้น) อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ต่อไป

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ