ไตรมาส 1 ปี 2557 ราคาแนฟธาของตลาดเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ การปรับตัวของอุปสงค์ อุปทานในตลาด โดยภาพรวมราคาเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
การผลิตในประเทศมีการร่วมทุนกับประเทศอินโดนีเซีย เพื่อก่อสร้างกลุ่มโรงงาน ปิโตรเคมี ในประเทศอินโดนีเซีย โดยโรงงานแห่งนี้จะใช้วัตถุดิบจากประเทศไทยและอินโดนีเซียเพื่อผลิตแนฟธากำลังการผลิต 1,000,000 ตัน/ปี มีกำหนดเริ่มเปิดดำเนินการในปี 2561 ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์จากโรงงานแห่งนี้จะมีสัดส่วนร้อยละ 30 ของตลาดปิโตรเคมีในประเทศอินโดนีเซีย และคาดว่าจะครองส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศอินโดนีเซียราวร้อยละ 30-40 เมื่อเปิดดำเนินการ
การค้าระหว่างประเทศ
การส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีไตรมาสที่ 1 ปี 2557 ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำมีมูลค่ารวม 79,577.07 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.04 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.75 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2556 โดยผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นและขั้นกลาง มีมูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ 13.82 และ 5.02 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลาย มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.73 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2556
ราคาเอธิลีนในตลาดเอเชียในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 มีราคาเฉลี่ยตลอดไตรมาสอยู่ที่ประมาณ 43.24 บาทต่อกิโลกรัม และราคาโพรพิลีนเฉลี่ยตลอดไตรมาสอยู่ที่ 49.13 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาของทั้งสองผลิตภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2556 ที่ราคาเฉลี่ย 41.58 และ 47.04 บาทต่อกิโลกรัม ตามลำดับ
ราคาเม็ดพลาติก PE และ PP ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2557 ราคาจำหน่ายเม็ดพลาสติก (ราคาเฉลี่ย SE Asia CFR) ของ LDPE, HDPE, และ PP มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 53.95, 50.55 และ 50.70 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ ทั้งนี้ LDPE, HDPE และ PP มีระดับราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2556 ที่ระดับราคาเฉลี่ย 52.80, 48.83 และ 50.23 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ
สรุปและแนวโน้ม
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่ 1 ปี 2557 มีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีรวมมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.04 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่ 1 ปี 2557 มีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น โดยมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีรวมมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทยทั้งปี 2557 คาดว่าอัตราการขยายตัวไม่เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเทียบกับปี 2556 คาดว่าในปี 2557 มูลค่าการส่งออกและมูลค่าการนำเข้าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2556 ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นักลงทุน และลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบต่อการบริโภค แผนการลงทุน และการส่งออก ซึ่งอุตสาหกรรมจะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถวางแผนและกำหนดมาตรการรับมือได้อย่างถูกต้องและทันการณ์
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--