อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์หดตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่ไทยเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่ไม่สงบในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ภาคก่อสร้างชะลอตัวลง การส่งออกปูนเม็ดและปูนซีเมนต์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความต้องการใช้ในประเทศสูงตลอดทั้งปี บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของไทยจึงต่างมีนโยบายสำรองปูนซีเมนต์ไว้ใช้ในประเทศมากขึ้น ทำให้ต้องลดปริมาณการส่งออกลง สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2557 คาดว่าอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์จะขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเป็นช่วงที่ไทยเข้าสู่ฤดูกาลก่อสร้าง
การผลิตปูนซีเมนต์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2556 มีปริมาณการผลิตปูนเม็ด 9.11 ล้านตัน และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) 10.61 ล้านตัน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตปูนเม็ดลดลงร้อยละ 4.10 และ 7.13 ตามลำดับ สำหรับการผลิตปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 4.32 ทั้งนี้ เนื่องจากไตรมาสที่ 4 ของทุกปีเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวของไทย แรงงานในภาคก่อสร้างซึ่งเป็นแรงงานกลุ่มเดียวกับภาคเกษตรต่างเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเพื่อทำการเก็บเกี่ยว ส่งผลให้การก่อสร้างทั้งในโครงการของภาครัฐและภาคเอกชนต้องชะลอตัวลง นอกจากนี้ สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่สงบอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ในไตรมาสนี้หดตัวลง ในขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.81
การตลาดและการจำหน่าย
การจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศ ไตรมาสที่ 4 ปี 2556 มีปริมาณการจำหน่ายรวม 8.86 ล้านตัน แบ่งออกเป็นการจำหน่ายปูนเม็ด 0.15 ล้านตัน และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) 8.71 ล้านตัน โดยปริมาณการจำหน่ายรวมในประเทศ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 5.74 ในขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.02
ปริมาณการผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ในปี 2556 ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.67 และมีปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศสูงขึ้นร้อยละ 7.72 แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ยังมีการขยายตัวที่ดี
การค้าระหว่างประเทศ
การส่งออกปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 4 ปี 2556 มีปริมาณการส่งออกรวม 1.94 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 114.02 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นการส่งออกปูนเม็ด จำนวน 0.34 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 14.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนเม็ดลดลงร้อยละ 15.00 และ ร้อยละ 17.45 ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนเม็ดลดลงร้อยละ 68.45 และ ร้อยละ 67.31 ตามลำดับ ในส่วนของปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) มีปริมาณการส่งออกจำนวน 1.60 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 99.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณการส่งออกปูนซีเมนต์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย คิดเป็นร้อยละ 11.60 โดยมีมูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) ลดลงร้อยละ 8.95 ในขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณการส่งออกปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.71 โดยมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.49
ในปี 2556 มีการส่งออกปูนเม็ด 2.45 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 106.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) 7.01 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 425.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนเม็ดลดลงร้อยละ 60.42 และ 58.79 ตามลำดับ ในส่วนของการส่งออกปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) มีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.14 และมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.57
ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนเม็ดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับ ไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าตลาดในประเทศจะมีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในระดับที่สูงตลอดทั้งปี บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของไทยจึงมีนโยบายสำรองปูนซีเมนต์ไว้ใช้ในประเทศ และลดปริมาณการส่งออกลง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ต่อปูนซีเมนต์ในตลาดหลักของไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในประเทศเพื่อนบ้านที่มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยตลาดส่งออกที่สำคัญอันดับหนึ่งของไทย คือ เมียนมาร์ รองลงมา คือ กัมพูชา ลาว บังคลาเทศ และมาเลเซีย ตามลำดับ
การนำเข้าปูนซีเมนต์ไตรมาสที่ 4 ปี 2556 มีปริมาณรวม 4,978.78 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.77 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณและมูลค่าการนำเข้ารวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.39 และ 0.56 ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณและมูลค่าการนำเข้ารวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 54.41 และ 54.73 ตามลำดับ โดยเป็นการนำเข้าปูนเม็ดจำนวน 126.29 ตัน คิดเป็นมูลค่า 0.06 ล้านเหรียญสหรัฐ และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) จำนวน 4,852.49 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในปี 2556 มีการนำเข้าปูนเม็ด 289.80 ตัน คิดเป็นมูลค่า 0.22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) 17,497.63 ตัน คิดเป็นมูลค่า 6.74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปริมาณการนำเข้าปูนเม็ดลดลงร้อยละ 22.71 ในขณะที่มูลค่า การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.78 ในส่วนของการนำเข้าปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) มีปริมาณและมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.92 และ 6.14 ตามลำดับ ทั้งนี้ การนำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นปูนซีเมนต์ขาวชนิดพิเศษและอะลูมินัสซีเมนต์ ซึ่งไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ โดยแหล่งนำเข้า ที่สำคัญอันดับหนึ่งของไทย คือ จีน รองลงมา คือ เนเธอร์แลนด์ อินเดีย ฝรั่งเศส และอียิปต์ตามลำดับ
ราคาปูนซีเมนต์มีแนวโน้มสูงขึ้น จากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรเนื่องมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ขยับสูงขึ้นเมื่อกลางปี 2555 รวมถึงต้นทุนการขนส่งและค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์บางรายได้ปรับขึ้นราคาขายปูนซีเมนต์บ้างแล้ว โดยเฉลี่ย 100-200 บาท ต่อตัน ตามต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น
รัฐบาลไม่มีมาตรการ/นโยบาย รองรับสำหรับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์โดยตรง แต่มีมาตรการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
สรุปและแนวโน้ม
ปริมาณการผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมทั้งปี อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ยังขยายตัวได้ดี เนื่องจากภาครัฐมีมาตรการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาทิ โครงการพัฒนาระบบขนส่งอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ จะมีไม่มากนัก แต่ผลจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าจะทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมตามบริเวณแนวรถไฟฟ้าขยายตัวได้ดี ส่งผลให้มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์สูงขึ้น
ปริมาณการส่งออกปูนซีเมนต์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 ปรับตัวลดลง แม้ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมาร์และกัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยในอาเซียน จะมีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากไทยมีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศสูงตลอดทั้งปี บริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์จึงต่างลดปริมาณการส่งออกลง เพื่อสำรองไว้ใช้ในประเทศมากขึ้น
แนวโน้มการผลิตและการจำหน่ายของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในประเทศ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 คาดว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์จะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากไตรมาสที่ 1 ของทุกปีเป็นช่วงที่ไทยเข้าสู่ฤดูกาลก่อสร้าง แรงงานในภาคก่อสร้างที่กลับภูมิลำเนาเพื่อทำการเก็บเกี่ยวจะกลับเข้าสู่การทำงานในภาคก่อสร้างตามปกติ ส่งผลให้ภาคก่อสร้างขยับตัวดีขึ้น
สำหรับการส่งออกปูนซีเมนต์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้ว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศจะมีแนวโน้มสูงขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ เนื่องจากคาดว่าบริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์เกือบทุกรายจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ และสามารถส่งออกเพื่อรักษาตลาดต่างประเทศไว้ต่อไป
นอกจากนี้ การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร ค่าจ้างแรงงาน ฯลฯ อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกปูนซีเมนต์ของไทยในระยะต่อไป เนื่องจากการแข่งขันในตลาดต่างประเทศค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถปรับขึ้นราคาขายได้ และหากต้องขายในราคาเดิมก็จะประสบปัญหาขาดทุน ทั้งนี้ แม้ว่าคุณภาพปูนซีเมนต์ของไทยจะสามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ดี แต่ตลาดต่างประเทศยังคงมีความต้องการปูนซีเมนต์ที่มีคุณภาพพอสมควรในราคาถูกมากกว่า
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--