สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 4 ปี 2556 (ตุลาคม – ธันวาคม 2556)(อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง)

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 28, 2014 15:07 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

การผลิตและการส่งออกสินค้าเครื่องหนังและรองเท้า ไตรมาส 4 ปี 2556 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญอย่างสหภาพยุโรป (EU) เริ่มเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวจากภาวะถดถอย โดยจะเห็นได้จากดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจหลายตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ EU ที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างช้า ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อแนวโน้มการผลิตและการส่งออกของประเทศไทย

การผลิต

ไตรมาส 4 ปี 2556 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง จำแนกได้ ดังนี้ 1. การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก ดัชนีผลผลิตไตรมาส 4 ปี 2556 เทียบกับ ไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.35 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณลดลง ร้อยละ 0.90 โดยดัชนีการส่งสินค้าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.94 และ 13.14 ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 15.34 และ 10.00 ตามลำดับ

2. การผลิตกระเป๋าเดินทางกระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก ดัชนีผลผลิตไตรมาส 4 ปี 2556 เทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.88 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณการผลิตลดลง ร้อยละ 1.98 โดยดัชนีการส่งสินค้าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.09 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 6.97 ในส่วนดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนลดลง ร้อยละ 5.15 แต่เมื่อเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.12

3. การผลิตรองเท้า ดัชนีผลผลิตไตรมาส 4 ปี 2556 เทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.46 และ 2.96 ตามลำดับ มีผลให้ดัชนีการส่งสินค้าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 23.10 และ 0.99 ตามลำดับ รวมทั้งยังส่งผลให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.15 และ 9.31 ตามลำดับ

การตลาดและการจำหน่าย การค้าระหว่างประเทศ การส่งออก

ไตรมาส 4 ปี 2556 อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 428.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.32 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.82 ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ ดังนี้

1. หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ไตรมาส 4 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 177.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่า 184.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ร้อยละ 3.61 เป็นผลจากมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องแต่งกายและเข็มขัด หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่น ๆ ปรับตัวลดลง ร้อยละ 30.91 27.44 และ 6.65 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์หนังโคกระบือฟอก และถุงมือหนัง มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.06 และ 4.60 ตามลำดับ

เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.39 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกผลิตภัณฑ์หนังโคกระบือฟอก ถุงมือหนัง และหนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่น ๆ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.64 15.40 และ 23.67 ตามลำดับ ตามความต้องการในกลุ่มประเทศเอเซียและอาเซียน สำหรับของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง และเครื่องแต่งกายและเข็มขัด ลดลง ร้อยละ 23.71 และ 15.88 ตามลำดับ โดยตลาดคู่ค้าสำคัญของกลุ่มหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ได้แก่ ฮ่องกง เวียดนาม และจีน มีสัดส่วน ร้อยละ 18.73 15.25 และ 14.93 ตามลำดับ

2. เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ไตรมาส 4 ปี 2556 มีมูลค่าส่งออก 78.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่า 77.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.19 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกในผลิตภัณฑ์ประเภทกระเป๋าถือ และเครื่องเดินทางอื่น ๆ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.44 และ 8.49 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์กระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าใส่เศษสตางค์ มีมูลค่าลดลง ร้อยละ 3.15 และ 4.20 ตามลำดับ

เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกเครื่องใช้สำหรับเดินทาง ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.40 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกทุกผลิตภัณฑ์ขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่น ๆ ร้อยละ 1.40 15.08 10.26 และ 12.66 ตามลำดับ โดยตลาดคู่ค้าสำคัญของกลุ่มเครื่องใช้สำหรับเดินทาง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ มีสัดส่วน ร้อยละ 25.64 12.35 และ 8.29 ตามลำดับ

3. รองเท้าและชิ้นส่วน ไตรมาส 4 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 172.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่า 165.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.32 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกในกลุ่มรองเท้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 54.28 สำหรับรองเท้ากีฬา รองเท้าแตะ รองเท้าหนัง และส่วนประกอบของรองเท้า มูลค่าการส่งออกลดลงร้อยละ 48.68 17.41 0.87 และ 7.15 ตามลำดับ

เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกรองเท้าและชิ้นส่วน ปรับตัวลดลง ร้อยละ 1.01 ซึ่งเป็นผลจากมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์รองเท้ากีฬาและรองเท้าแตะ ลดลง ร้อยละ 57.22 และ 15.03 ตามลำดับ เนื่องจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรองเท้ารายใหญ่ของไทย ได้ตัดสินใจขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกัมพูชา พม่า และลาว จากปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน อีกทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์รองเท้ากีฬายี่ห้อดัง เช่น NIKE เริ่มยกเลิกคำสั่งซื้อจากประเทศไทย เพราะผู้ประกอบการไทยเริ่มปฏิเสธคำสั่งซื้อหรือตกลงราคากันไม่ได้ ส่งผลให้ชาวต่างชาติหันไปสั่งซื้อรองเท้ากีฬาจากเวียดนาม อินโดนีเซียและบังกลาเทศแทน เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าไทยมาก ในส่วนการส่งออกรองเท้าหนัง รองเท้าอื่นๆ และส่วนประกอบรองเท้า ยังขยายตัวได้ ร้อยละ 0.32 21.76 และ 25.06 ตามลำดับ สำหรับตลาดคู่ค้าสำคัญของกลุ่มรองเท้าและชิ้นส่วน คือ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเดนมาร์ก มีสัดส่วน ร้อยละ 13.69 8.28 และ 8.10 ตามลำดับ

การนำเข้า

ไตรมาส 4 ปี 2556 อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 331.18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ร้อยละ 2.16 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.41 ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ ดังนี้

1.หนังดิบและหนังฟอก ไตรมาส 4 ปี 2556 มีมูลค่าการนำเข้า 166.80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 9.69 และ 7.00 ตามลำดับ เป็นไปในทิศทางเดียวกับการผลิตเพื่อการส่งออกที่ลดลง เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้สั่งซื้อเกิดความกังวลใจว่าผู้ผลิตจะไม่สามารถผลิต หรือส่งสินค้าได้ทันตามระยะเวลา จึงหันไปสั่งผลิตที่อื่นแทน เช่น กระเป๋าหนัง มียอดคำสั่งซื้อในประเทศลดลง และยอดการส่งออกไปจีนและยุโรปลดลง โดยแหล่งนำเข้าหนังดิบและหนังฟอกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล และอาร์เจนตินา มีสัดส่วน ร้อยละ 14.38 12.12 และ 10.42 ตามลำดับ

2. กระเป๋า ไตรมาส 4 ปี 2556 มีมูลค่าการนำเข้า 100.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.16 และ 24.19 ตามลำดับซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ประเภท กระเป๋าถือและกระเป๋าอื่น ๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน อิตาลี และฝรั่งเศส มีสัดส่วน ร้อยละ 47.13 23.33 และ 15.19 ตามลำดับ

3. รองเท้า ไตรมาส 4 ปี 2556 มีมูลค่าการนำเข้า 64.24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลง ร้อยละ 5.95 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.55 ซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทุกประเภทเพิ่มขึ้น ได้แก่ รองเท้ากีฬา รองเท้าหนัง รองเท้าทำด้วยยางหรือพลาสติก และรองเท้าอื่น ๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน เวียดนาม และอิตาลี มีสัดส่วน ร้อยละ 53.23 12.51 และ 9.54 ตามลำดับ

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

1. นโยบายการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SMEs ต้องปรับตัวทั้งกลยุทธ์ด้านการผลิตและการตลาด เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์หนึ่งในการปรับตัว คือ การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ซึ่ง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ได้ทำการศึกษาแนวทางการย้ายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น คือ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและเครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นคู่มือและแนวทางประกอบการตัดสินใจในการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

2.นโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วน GDP ของ SMEs ที่ปัจจุบันมีจำนวน 2.724 ล้านราย จากร้อยละ 37 เป็น ร้อยละ 40 ใน 10 ปีข้างหน้า และเตรียมความพร้อมให้ SMEs พร้อมก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ผ่านแผนงานสำคัญ ได้แก่ ส่งเสริม SMEs ไทยให้ก้าวสู่การเป็น Supply Chain ของอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาธุรกิจรวม600 กิจการ ผู้ประกอบการ 12,000 คน และพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน 10 กลุ่มอุตสาหกรรม ด้วยงบประมาณ 157 ล้านบาท ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปเครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าไลฟ์สไตล์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รองเท้าและเครื่องหนัง และก่อสร้าง เป็นต้น

สรุปและแนวโน้ม สรุป

ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง ไตรมาส 4 ปี 2556 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ได้แก่ การฟอกและตกแต่งหนังฟอก การผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก การผลิตรองเท้า เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญอย่างสหภาพยุโรป (EU) เริ่มเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวจากภาวะถดถอยโดยจะเห็นได้จากดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจหลายตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ EU ที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างช้า ๆ ซึ่งส่งผลดีต่อแนวโน้มการส่งออกของประเทศไทย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีการส่งสินค้าการส่งออก ไตรมาส 4 ปี 2556 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ชะลอตัวลงในกลุ่มผลิตภัณฑ์หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด มียอดคำสั่งซื้อในประเทศ และยอดการส่งออกไปจีนและยุโรปลดลง สำหรับสินค้าเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และรองเท้าและชิ้นส่วน ยังขยายตัวได้เพิ่มขึ้น จากสัญญาณเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป

การนำเข้า ไตรมาส 4 ปี 2556 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปรับตัวลดลงในกลุ่มผลิตภัณฑ์หนังดิบและหนังฟอก เพราะคำสั่งซื้อในประเทศลดลง และยอดการส่งออกไปประเทศ คู่ค้าที่สำคัญอย่างจีนและสหภาพยุโรปลดลง รวมทั้งการนำเข้าสินค้าในกลุ่มรองเท้าที่ลดลงเนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศลดลงจากค่าครองชีพ และภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัว ทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยลง แต่สำหรับการนำเข้ากระเป๋า ขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการนำเข้าจากจีน และประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากอัตราภาษีนำเข้าภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีของไทยกับประเทศอื่น ๆ ลดลง เอื้อต่อการนำเข้า

แนวโน้ม

แนวโน้มปี 2557 คาดว่า การผลิตและการส่งออกรองเท้า จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปี 2556 เนื่องจากการส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักเริ่มฟื้นตัวจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ แต่อาจจะมีปัจจัยจากการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่มีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนที่มีศักยภาพมากกว่าไทย ซึ่งจะส่งผลต่อโครงสร้างการผลิตและมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปตลาดเอเชียและอาเซียนจะมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนและเวียดนาม ที่นำเข้าชิ้นส่วนรองเท้าไปผลิตเพื่อส่งออกไปตลาดอื่น รวมทั้งตลาดพม่าที่มีความต้องการรองเท้ามากขึ้น เป็นโอกาสในการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น สำหรับการส่งออกเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด คาดว่า จะสามารถขยายตัวได้จากความต้องการใช้เพื่อผลิตสินค้าต่อเนื่อง เช่น เบาะรถยนต์ ที่การส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ