สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 3 ปี 2556 (กรกฎาคม – กันยายน 2556)(อุตสาหกรรมปิโตรเคมี)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 27, 2013 13:32 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ไตรมาส 3 ปี 2556 ราคาแนฟธาของตลาดเอเชียปรับตัวผันผวน โดยภาพรวมราคาเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวตามราคาน้ำมันดิบ ที่มีแนวโน้มปรับตัวในช่วงขาขึ้น

การผลิต

ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทยมีการลงนามในสัญญาจัดส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี PP และ PE ไปยังประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงมีการร่วมทุนสร้างโรงงานแนฟทาแครกเกอร์กำลังการผลิต 1 ล้านตัน/ปี ในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2561 นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตพอลิเมททิลเมทาคริเลต (PMMA) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กำลังการผลิต 40,000 ตัน/ปี ซึ่ง PMMA เป็นเทอร์โมพลาสติกใสใช้แทนส่วนที่เป็นแก้วหรือกระจกในชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และงานก่อสร้าง

การค้าระหว่างประเทศ

การส่งออก

การส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีไตรมาสที่ 3 ปี 2556 ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำมีมูลค่ารวม 74,979.81 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.95 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.22 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2556 โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.08 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2555 ทั้งนี้เนื่องจากตลาดส่งออกหลักของไทยโดยเฉพาะจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเพื่อลด การพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศที่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการในขณะนี้ ทำให้ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบอยู่

สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีใน 3 ไตรมาสของปี 2556 ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำมีมูลค่ารวม 222,800.75 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การนำเข้า

การนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีไตรมาสที่ 3 ปี 2556 ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มีมูลค่ารวม 29,788.18 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวโดยรวมลดลงร้อยละ 7.36 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปี 2556 ร้อยละ 8.01

สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีใน 3 ไตรมาสของปี 2556 ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำมีมูลค่ารวม 79,558.31 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวโดยรวมลดลงร้อยละ 11.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ราคาสินค้า

ราคาเอธิลีนในตลาดเอเชียในไตรมาสที่ 3 ปี 2556 ราคาเฉลี่ยตลอดไตรมาสอยู่ที่ 39.58 บาทต่อกิโลกรัม และราคาโพรพิลีนเฉลี่ยตลอดไตรมาสอยู่ที่ 45.25 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาของผลิตภัณฑ์เอธิลีนและโพรพิลีนมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 ราคาเม็ดพลาติก (ราคาเฉลี่ย SE Asia CFR) ในเดือนกันยายน 2555 ของ LDPE, HDPE, และ PP อยู่ที่ระดับ 49.14, 47.02 และ 49.02 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ ทั้งนี้ LDPE, HDPE และ PP มีระดับราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา

สรุปและแนวโน้ม

สรุป

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่ 3 ปี 2556 มีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้น คาดว่าเป็นผลมาจากการที่ประเทศที่เป็นตลาดส่งออกของไทยมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น รวมทั้งอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเพื่อลดการพึ่งพิงการนำเข้าจากไทยแต่ยังไม่เปิดดำเนินการในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปที่ยังคงยืดเยื้อ และปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อุตสาหกรรมต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่ 3 ปี 2556 มีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการนำเข้าที่ลดลง ซึ่งคาดว่าเกิดจากการขยายกำลังการผลิตของผู้ผลิตในประเทศ ทำให้ลดการนำเข้าจากต่างประเทศลง

แนวโน้ม

แนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทยทั้งปี 2556 คาดว่าอัตราการขยายตัวจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปี 2555 ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และประเทศที่เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ยังคงไม่มีเสถียรภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญที่อุตสาหกรรมต้องติดตาม ดังนั้นในระยะสั้น ผู้ผลิตในอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีจึงปรับแผนการผลิตให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศและภาวะเศรษฐกิจโลก ส่วนในระยะยาว เพื่อลดความเสี่ยงควรบุกเบิกตลาดในประเทศกำลังพัฒนาใหม่ๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคเศรษฐกิจเกิดใหม่

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ