สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 3 ปี 2556 (กรกฎาคม – กันยายน 2556)(อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 27, 2013 13:45 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในขณะนี้ มีแนวโน้มดีขึ้นจากคำสั่งซื้อ ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบในช่วงปลายปี และไตรมาสแรกของปี 2557 โดยคาดว่า

จะได้รับคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าในตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยได้อานิสงฆ์ รวมถึงกระแสกีฬาฟีเวอร์ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2013 ทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนสูงขึ้นจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนาดใหญ่บางรายจำเป็นต้องออกไปลงทุนขยายฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านที่มีกำลังแรงงานจำนวนมาก และค่าจ้างแรงงานที่ต่ำกว่า รวมถึงสิทธิพิเศษทางการค้า เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้

การผลิตและการจำหน่าย

กลุ่มสิ่งทอ ในไตรมาส 3 ปี 2556 เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม การผลิตเส้นใยสิ่งทอรวมทั้งการทอสิ่งทอ มีการผลิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.42 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สอดคล้องกับ การจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.20 ตามวัฏจักรของอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ เพื่อนำไปผลิตเป็นผ้าผืนและเครื่องนุ่งห่ม และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่ายเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.29 และ 0.25 ตามลำดับ จากความต้องการของตลาดภายในประเทศ ประกอบกับคำสั่งซื้อจากกลุ่มประเทศอาเซียน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ขยายตัวเพิ่มขึ้น (ตารางที่ 1)

กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม ในไตรมาส 3 ปี 2556 การผลิตผ้าที่ได้จากการถักนิตติ้งและโครเชท์ (เสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตจากผ้าถัก) และการจำหน่าย ดัชนีปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ร้อยละ 1.92 และ 1.08 ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิต และการจำหน่ายลดลง ร้อยละ 4.25 และ 3.31 ตามลำดับ (ตารางที่ 2) เนื่องจากคำสั่งซื้อลดลงในกลุ่มสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลัก สำหรับการผลิตเครื่องแต่งกาย ยกเว้น เครื่องแต่งกายที่ผลิตจากขนสัตว์ (เสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตจากผ้าทอ) การผลิต และการจำหน่าย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.88 และ 12.71 ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิต และการจำหน่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน ร้อยละ 3.22 และ 0.43 ตามลำดับ (ตารางที่ 3) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากคำสั่งซื้อ ที่กระเตื้องขึ้นในตลาดสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศอาเซียน

การตลาด

การค้าระหว่างประเทศ

การส่งออก

ไตรมาส 3 ปี 2556 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่าการส่งออก 1,908.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.30 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.30 เมื่อเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคำสั่งซื้อจากตลาดสหรัฐอเมริกา อาเซียน และเอเซีย ขยายตัว โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และบังคลาเทศ มีความต้องการเพื่อนำไปผลิตและส่งออกไปตลาดอื่น ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มส่งออกที่สำคัญ ได้แก่

1. กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่าการส่งออก 1,165.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 0.75 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.29 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสิ่งทอ คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 61.08 ของการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์สำคัญ มีดังนี้

1.1 ผ้าผืนและด้าย ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 636.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.74 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.59 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน ประกอบด้วย ผ้าผืน มีมูลค่าการส่งออก 398.24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 62.60 และด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ มีมูลค่าการส่งออก 237.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37.40 โดยตลาดส่งออกสำคัญ คือจีน เวียดนาม บังคลาเทศ และญี่ปุ่น

1.2 เคหะสิ่งทอ ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 80.70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.67 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.54 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกสำคัญ คือสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

1.3 เส้นใยประดิษฐ์ ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 199.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 3.78 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.35 เมื่อเทียบ กับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน โดยตลาดส่งออกสำคัญ คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน

1.4 สิ่งทออื่น ๆ ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 153.64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 5.84 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.87 เมื่อเทียบ กับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน โดยตลาดส่งออกสำคัญ คือ ญี่ปุ่น จีน และอินโดนีเซีย

2. กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม ไตรมาส 3 ปี 2556 มีมูลค่าการส่งออก 742.68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.70 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่หากเทียบกับไตรมาส เดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 2.57 โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 38.92 ของมูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์สำคัญ คือ เสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการส่งออก 644.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.14 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากตลาดสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น แต่หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 2.48 เนื่องจากตลาดสหภาพยุโรป และอาเซียน มีมูลค่าการส่งออกลดลงจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในสหภาพยุโรป ส่งผลให้คำสั่งซื้อลดลง โดยเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 86.47 ของมูลค่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด

การนำเข้า

ไตรมาส 3 ปี 2556 มีการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มคิดเป็นมูลค่า 1,209.44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อย ร้อยละ 0.22 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.10 เมื่อเทียบกับไตรมาส เดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งทอต้นน้ำที่เป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งผลิตภัณฑ์นำเข้าที่สำคัญ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1. กลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่าการนำเข้า (ด้ายและเส้นใย ผ้าผืน และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ) รวมทั้งสิ้น 1,047.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 2.79 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.88 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการนำเข้าในกลุ่มนี้ คิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าถึงร้อยละ 86.64 ของมูลค่าการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด ซึ่งผลิตภัณฑ์สำคัญ มีดังนี้

1.1 เส้นใยที่ใช้ในการทอ มีมูลค่านำเข้า 250.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.19 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.98 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บราซิล และจีน

1.2 ด้ายทอผ้าฯ มีมูลค่านำเข้า 187.92 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 6.41 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 2.03 โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอินโดนีเซีย

1.3 ผ้าผืน มีมูลค่านำเข้า 436.53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ร้อยละ 3.02 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 0.35 โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

1.4 ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ มีมูลค่านำเข้า 106.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 0.64 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9.13 โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา

2. กลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 161.60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.47 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.70 โดยมูลค่าการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 13.36 ของการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมด สำหรับตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน เวียดนาม ตุรกี และฮ่องกง

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2556 รับทราบผลกระทบของค่าเงินบาทที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเกินไป โดยแข็งค่ามากกว่าค่าเงินของคู่แข่งในภูมิภาคและขาดเสถียรภาพ ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโดยรวม ที่ประชุมจึงได้ขอให้ภาครัฐพิจารณาให้ความช่วยเหลือ เช่น ผลักดันให้ใช้เงินบาทเป็นเงินสกุล

สำหรับการค้าขายในภูมิภาค การลดอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายแรงงานในภูมิภาค การส่งเสริมสนับสนุนให้มีผู้เรียนสายอาชีพเพิ่มมากขึ้น และการจัดทำโครงการพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านพลังงาน การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้วัตถุดิบในประเทศเพิ่มขึ้น การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ขายสินค้าให้กับผู้ส่งออก และสามารถใช้เงินตราต่างประเทศเพื่อชำระค่าสินค้าภายในประเทศโดยไม่ต้องแลกเป็นเงินบาท ซึ่งจะเป็นผลดีต่อ ผู้ประกอบการในประเทศ

สรุปและแนวโน้ม

สรุป

กลุ่มสิ่งทอ การผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ไตรมาสที่ 3 ปี 2556 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีการผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ เพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของตลาดภายในประเทศ ประกอบกับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากต่างประเทศ ในด้านการส่งออกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กลุ่มเส้นใยสิ่งทอฯ และกลุ่มผ้าผืน มีมูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นในตลาดหลักทุกตลาด ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และอาเซียน ส่งผลให้การผลิตและการส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอเพิ่มสูงขึ้น

กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าถักลดลง เมื่อเทียบกับ ไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อการส่งออก และได้รับผลกระทบต่อเนื่อง จากกลุ่มผู้นำเข้าหลักในสหภาพยุโรปมีคำสั่งซื้อลดลง ในขณะ ที่การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าทอเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคำสั่งซื้อในตลาดสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และกลุ่มอาเซียนเริ่มกระเตื้องขึ้น อย่างไรก็ตาม มีการนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นจากจีน เวียดนาม ตุรกี และฮ่องกง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าแนวแฟชั่น

แนวโน้ม

สถานการณ์ด้านการผลิตและการส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มอาจจะกลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้ง หลังจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเริ่มคลี่คลาย ประกอบกับเป็นช่วงฤดูกาลของการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของเทศกาลสำคัญช่วงปลายปี สำหรับการส่งออกสิ่งทอ คาดว่า จะขยายตัวได้ทั้งในส่วนของเส้นใยสิ่งทอ และผ้าผืน เพื่อสนองความต้องการใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ผลิตในกลุ่มประเทศอาเซียน ในส่วนกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกในภาพรวมปรับตัวลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มในไตรมาสที่ 4 ปี 2556 อาจมีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล เพื่อการส่งมอบสินค้าในช่วงปลายปี 2556 คาบเกี่ยวถึงไตรมาสแรกของ ปี 2557

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ