อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาส 2 ปี 2556 พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมพลาสติก ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.34 เทียบกับไตรมาสก่อน (ตารางที่ 1) ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์วันหยุดยาว และในช่วงฤดูฝนจะมีการคำสั่งซื้อในประเทศลดลง เนื่องจากความต้องการใช้ลดลง และความไม่สะดวกในการขนส่ง แต่ดัชนีส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเร้อยละ 2.62 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (ตารางที่ 2) เนื่องจาก เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าหลักของอุตสาหกรรมพลาสติกนั้นดีขึ้น
การตลาดและการจำหน่าย
ไตรมาส 2 ปี 2556 ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 253,859.41 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.95 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของไทยทั้ง ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา นั้นดีขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทของไทยอ่อนตัวทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้น โดยสินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ ใยยาวเดี่ยว แผ่นฟิล์มฟอยล์ และเครื่องสุขภัณฑ์ ร้อยละ 202.82 14.63 และ 13.09 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (ตารางที่ 3) โดยประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยัง ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย อินโนนีเซีย และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
ไตรมาส 2 ปี 2556 ปริมาณการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 139,360.88 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.11 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจาก ปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของภาครัฐ เช่น การคืนภาษีรถคันแรก ดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำที่เอื้อต่อการขยายตัวของสินเชื่อภาคครัวเรือน และค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท เป็นต้น กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การนำเข้าเพิ่มขึ้น โดยสินค้าที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นได้แก่ พลาสติกปูพื้น เครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องประกอบของอาคาร หลอดหรือท่อ แผ่นฟิลม์ฟอยล์ และเครื่องใช้ในครัวเรือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.28 35.56 24.03 17.42 8.17 และ 6.79 ตามลำดับ (ตารางที่ 4) โดยประเทศไทยนำเข้าสินค้าดังกล่าวจาก ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
มาตรการส่งเสริมของภาครัฐ อาทิเช่น นโยบายรถคันแรก บ้านหลังแรก ค่าจ้างขั้นต่ำ เงินเดือนขั้นต่ำ เป็นต้น ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว และยังคงส่งผลให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลจะมีเม็กกะโปรเจค เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งนโยบาย ดังกล่าวจะส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น
สรุปและแนวโน้ม
อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาส 2 ปี 2556 โดยภาพรวมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักทั้ง ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาดีขึ้น
แนวโน้มในไตรมาส 3 ทุกๆ ปี จะเป็นช่วงที่ทำการผลิตมากที่สุดเมื่อเทียบกับไตรมาสอื่น เนื่องจากต้องมีการเตรียมสินค้าเพื่อจำหน่ายในเทศกาลคริสมาสต์ และปีใหม่ แต่ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงต้องตระหนักเรื่องการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาวิกฤตหนี้ในยุโรปที่ยืดเยื้อ และเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มชะลอตัว จะส่งผลให้ภาคการส่งออกของไทยรวมทั้งอุตสาหกรรมพลาสติกลดลงด้วย
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--