การจำหน่ายเซรามิกในประเทศลดลงตามตลาดที่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ในขณะที่การส่งออกยังสามารถขยายตัวได้ดีในตลาดอาเซียน
การผลิตเซรามิก ไตรมาส 2 ปี 2556 ยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ โดย กระเบื้องปูพื้น บุผนัง มีปริมาณ 43.49 ล้านตารางเมตร และเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 1.77 ล้านชิ้น (ดังตารางที่ 1) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.49 และ 4.12 ตามลำดับ สำหรับการผลิตเซรามิก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปีนี้ไม่มีปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น และยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากนโยบายรถยนต์คันแรก ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการซื้อรถยนต์มากกว่าการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง จึงชะลอการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านออกไป ทั้งนี้ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง ได้รับผลกระทบมากกว่าเครื่องสุขภัณฑ์ จึงทำให้กระเบื้องปูพื้น บุผนัง เติบโตน้อยกว่าเครื่องสุขภัณฑ์ โดยการผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ลดลง ร้อยละ 4.42 ในขณะที่การผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.73
การผลิตเซรามิก ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 การผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากนโยบายรถยนต์คันแรก ที่ผู้บริโภคชะลอการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านออกไป ในขณะที่เครื่องสุขภัณฑ์ได้รับผลกระทบน้อยกว่า โดยการผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง มีปริมาณ 86.77 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 3.00 สำหรับการผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 3.47 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.20
การตลาดและการจำหน่าย
การจำหน่ายเซรามิก ไตรมาส 2 ปี 2556 กระเบื้องปูพื้น บุผนัง มีปริมาณ 46.24 ล้านตารางเมตร และเครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 1.14 ล้านชิ้น (ดังตารางที่ 2) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 5.19 และ 2.56 ตามลำดับ เนื่องจาก ตลาดมีการแข่งขันที่รุนแรงกับสินค้านำเข้าจากจีนและเวียดนาม ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน และเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนจึงทำให้การจำหน่ายไม่สามารถขยายตัวได้ สำหรับการจำหน่ายเซรามิก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นไปในทิศทางเดียวกับการผลิตเซรามิก โดยการจำหน่ายกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ลดลงร้อยละ 2.71 ในขณะที่เครื่องสุขภัณฑ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.54
การจำหน่ายเซรามิก ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 กระเบื้องปูพื้น บุผนัง มีปริมาณ 95.01 ล้านตารางเมตร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 2.95 ในขณะที่เครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณ 2.31 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.45 ซึ่งการจำหน่ายกระเบื้องปูพื้น บุผนัง เติบโตน้อยกว่าเครื่องสุขภัณฑ์ เช่นเดียวกับการผลิต
การค้าระหว่างประเทศ
การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 2 ปี 2556 มีมูลค่ารวม 189.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ดังตารางที่ 3) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.41 โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่นๆ สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 20.06 โดยผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลให้การส่งออกลดลงอย่างเห็นได้ชัด คือ ลูกถ้วยไฟฟ้า เนื่องจาก เปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีการส่งออกไปจีนอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม การส่งออกผลิตภัณฑ์กระเบื้องปูพื้น บุผนัง เครื่องสุขภัณฑ์ และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของตลาดอาเซียน
การส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกจะส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน ออสเตรเลีย เยอรมนี และประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 มีมูลค่ารวม 371.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 10.90 ทั้งนี้ การส่งออกลดลงจากผลิตภัณฑ์ลูกถ้วยไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่นๆ และ ของชำร่วยเครื่องประดับ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของตลาดอาเซียนเกือบทุกผลิตภัณฑ์ ยกเว้น ของชำร่วยเครื่องประดับ และลูกถ้วยไฟฟ้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศจีน มาเลเซีย ญี่ปุ่นเวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 2 ปี 2556 มีมูลค่ารวม 152.28 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ดังตารางที่ 4) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.60 และ 10.90 ตามลำดับ ทั้งนี้ การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกเพิ่มขึ้นทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่นที่มีการนำเข้ากระเบื้องปูพื้น บุผนัง และอิฐทนไฟ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิก ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 มีมูลค่ารวม 271.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.30 ซึ่งการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกเพิ่มขึ้นเฉพาะผลิตภัณฑ์เซรามิกสำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบ ต้องผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม เลขที่ มอก. 792-2554 โดยจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับจากวันประกาศฯ ซึ่งจะมีผลบังคับในวันที่ 21 สิงหาคม 2556 และทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก : โถส้วมนั่งราบ ที่ผลิตและนำเข้าต้องเป็นไปตาม มอก. 792-2554 ซึ่งการบังคับใช้ตามประกาศฯ จะสกัดการนำเข้าสินค้าที่มีราคาถูก คุณภาพต่ำ และไม่ได้มาตรฐานจากจีน ที่ทะลักเข้ามาแข่งกับผู้ผลิตในประเทศ และเป็นโอกาสให้ตลาดสุขภัณฑ์ในประเทศปีนี้มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น
สรุปและแนวโน้ม
การผลิตเซรามิก ไตรมาส 2 ปี 2556 กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ เติบโตจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหัวเมืองใหญ่ตามต่างจังหวัดที่มีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การจำหน่ายเซรามิก ทั้งกระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ ลดลง เนื่องจาก ตลาดมีการแข่งขันที่รุนแรงกับสินค้านำเข้าจากจีนและเวียดนาม ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน และเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 2 ปี 2556 เติบโตเพิ่มขึ้นเกือบทุกผลิตภัณฑ์จากการขยายตัวของตลาดอาเซียน ในขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์ เซรามิก ไตรมาส 2 ปี 2556 เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่น ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และอิฐทนไฟ เป็นสำคัญ
การผลิตและจำหน่ายเซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2556 มีแนวโน้มลดลง เนื่องจาก เป็นช่วงฤดูฝน สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2556 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของตลาดอาเซียนเป็นสำคัญ ในขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิก ไตรมาส 3 ปี 2556 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์เซรามิกอื่น ได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และอิฐทนไฟ
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--