อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีมูลค่าการส่งออกและการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากภายในประเทศมีความต้องการใช้ปุ๋ยและเคมีภัณฑ์เพื่อการเพาะปลูกเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการขายตัวของลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์จะยังสามารถส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งการส่งออกยังคงขยายตัวได้ดีและคาดว่าจะมีความต้องการนำเข้าเคมีภัณฑ์จากไทยเพิ่มขึ้น
การส่งออกเคมีภัณฑ์ไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีมูลค่ารวม 59,722 ล้านบาท อยู่ในสภาวะทรงตัว (ร้อยละ 0.01) เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2556 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2557 ลดลงร้อยละ 5.74
1. เคมีภัณฑ์พื้นฐาน มีมูลค่าส่งออก 31,356 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11.34 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 7.13 ผลิตภัณฑ์สำคัญที่ส่งผลให้การส่งออกลดลง ได้แก่ เคมีภัณฑ์อินทรีย์
1.1 เคมีภัณฑ์อินทรีย์ มีมูลค่าส่งออก 18,205 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17.08 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 20.83 โดยตลาดส่งออกสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย คิดเป็นร้อยละ 39.07 7.96 6.51 และ 5.79 ตามลำดับ
2. เคมีภัณฑ์ขั้นปลาย มีมูลค่าส่งออก 28,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.35 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.29 ผลิตภัณฑ์ส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องสำอาง
2.1 เครื่องสำอาง มีมูลค่าส่งออก 15,330 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.46 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.58 โดยตลาดส่งออกสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ คิดเป็นร้อยละ 20.75 10.15 และ 8.92 ตามลำดับ
การนำเข้าเคมีภัณฑ์ไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีมูลค่ารวม 243,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 109.07 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2557 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2556 เพิ่มขึ้นร้อยละ 109.24
1. เคมีภัณฑ์พื้นฐาน มีมูลค่าการนำเข้า 151,755 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 104.61 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 119.80 ผลิตภัณฑ์นำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เคมีภัณฑ์อินทรีย์ และเคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ด
1.1 เคมีภัณฑ์อินทรีย์ มีมูลค่านำเข้า 72,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 106.65 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 125.84 โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น คิดเป็นร้อยละ 19.40 13.80 และ 8.30 ตามลำดับ
1.2 เคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ด มีมูลค่านำเข้า 52,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 102.37 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 119.67 โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา คิดเป็นร้อยละ 26.00 19.40 และ 13.70 ตามลำดับ
2. เคมีภัณฑ์ขั้นปลาย มีมูลค่านำเข้า 91,935 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 116.88 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 93.85 ผลิตภัณฑ์นำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ปุ๋ยเคมี และสี
2.1 ปุ๋ยเคมี มีมูลค่านำเข้า 34,802 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 138.32 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.61 โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ประเทศซาอุดิอาราเบีย สหพันธรัฐรัสเซีย และสาธารณรัฐประชาชนจีน คิดเป็นร้อยละ 16.10 14.10 และ 10.10 ตามลำดับ
2.2 สี มีมูลค่านำเข้า 24,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 101.93 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 125.97 โดยตลาดนำเข้าสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน คิดเป็นร้อยละ 20.70 19.70 และ 7.08 ตามลำดับ
การส่งออกเคมีภัณฑ์ไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีมูลค่ารวม 59,722 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกสำคัญ ได้แก่ เคมีภัณฑ์อินทรีย์ เครื่องสำอาง เคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ด และสารสดแรงตึงผิว คิดเป็นประมาณร้อยละ 30.48 25.67 12.89 และ 10.68 ตามลำดับ
การนำเข้าเคมีภัณฑ์ไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีมูลค่ารวม 243,690 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนมูลค่าการนำเข้าสำคัญ ได้แก่ เคมีภัณฑ์อินทรีย์ เคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ด ปุ๋ยเคมี เคมีภัณฑ์อนินทรีย์ และสี คิดเป็นประมาณร้อยละ 29.58 21.56 14.28 11.14 และ 10.17 ตามลำดับ โดยผลิตภัณฑ์ปุ๋ยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูก และผลิตภัณฑ์สี มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
แนวโน้มครึ่งหลังปี 2557 คาดว่า สถานการณ์โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์จะมีสถานะที่ดีขึ้น เนื่องจากการปัจจัยภายในประเทศมีการอนุมัติโครงการลงทุนที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น แสดงถึงการขยายการผลิตสินค้าที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ราคาน้ำมันดิบ และราคาสินค้าการเกษตร ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศต้องอาศัยการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีการขยายตัวของการส่งออก ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการนำเข้าเคมีภัณฑ์จากไทยเพิ่มขึ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--