อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาส 3 ปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมพลาสติก เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.93 และดัชนีส่งสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.10 (ตารางที่ 1 และ 2) ทั้งนี้ เนื่องจากไตรมาส 3 มีการส่งออกไปยังตลาดหลักมีการส่งออกเพิ่มขึ้น และการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน และความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจึงเร่งผลิตและส่งสินค้าสนองกับความต้องการของผู้บริโภค
การตลาดและการจำหน่าย
ไตรมาส 3 ปี 2557 ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 307,169.01 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.18 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สินค้าที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ของที่ใช้ลำเลียงหรือบรรจุสินค้า แผ่นพลาสติกโฟม ฟิลม์หรือพลาสติกแผ่น และของอื่นๆ ที่ทำด้วยพลาสติก โดยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 29.15 4.86 4.73 และ 4.71 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยัง ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา
ไตรมาส 3 ปี 2557 ปริมาณการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 152,092.94 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.59 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยสินค้าที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ แผ่นฟิลม์ชนิดยึดติดในตัว ใยยาวเดี่ยว เครื่องประกอบของอาคาร และเครื่องสุขภัณฑ์ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.66 7.62 5.72 และ 2.50 ตามลำดับ โดยประเทศไทยนำเข้าสินค้าดังกล่าวจาก ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา
- ประเทศไทย หลังจากตั้งรัฐบาลคณะใหม่ และการบริหารงาน ทำให้ประชาชนเริ่มมีความมั่นใจในการบริโภคเพิ่มขึ้น ทำให้ระบบเศรษฐกิจมีการหมุนเวียนมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ยังคงจะต้องติดตามเรื่องความ ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะทางด้านฝั่งยุโรปที่ยังคงชะลอเรื่องการอัดฉีดเงินเข้าระบบเนื่องจากรัฐบาลพิจารณาว่าเห็นควรที่จะนำเงินเข้าไปซื้อสินเชื่อที่มีปัญหาหรือไม่ และทางฝั่งสหรัฐอเมริกา มาตรการ QE3 ก็จะหมดลงในเดือนตุลาคม หากเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งพอ ก็จะไม่มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหลายๆ อุตสาหกรรรม เช่น การผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมพลาสติก เป็นต้น
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--