อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาส 1 ปี 2558 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมพลาสติก ลดลงร้อยละ 3.87 และดัชนีส่งสินค้าลดลงร้อยละ 6.87 (ตารางที่ 1 และ 2) ทั้งนี้ เนื่องจาก ราคาน้ำมันดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกลดลง ทำให้ผู้ประกอบการพลาสติกชะลอการผลิตลง เพราะคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
การตลาดและการจำหน่าย
ไตรมาส 1 ปี 2558 ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 260,350 ตัน ลดลงร้อยละ 4.96 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สินค้าที่มีปริมาณการส่งออกลดลง ได้แก่ หลอดหรือท่อ พลาสติกปูพื้น แผ่นฟิลม์ ฟอยล์และแถบอื่น ๆ เครื่องสุขภัณฑ์ และเครื่องใช้ในครัวเรือน โดยลดลงร้อยละ 15.48 8.87 8.47 15.47 และ 10.02 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (ตารางที่ 3) โดยประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยัง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสาธารณรัฐประชาชนจีน
ไตรมาส 1 ปี 2558 ปริมาณการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 152,193 ตัน ลดลงร้อยละ 2.60 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยสินค้าที่มีปริมาณการนำเข้าลดลงได้แก่ ใยยาวเดี่ยว พลาสติกปูพื้น ของที่ใช้ลำเลียงหรือบรรจุสินค้า และเครื่องใช้ในครัวเรือน โดยลดลงร้อยละ 4.48 8.39 7.36 และ 30.10 ตามลำดับ (ตารางที่ 4) โดยประเทศไทยนำเข้าสินค้าดังกล่าวจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา
อุตสาหกรรมพลาสติกน่าจะได้รับผลกระทบจาก การระงับนำเข้าสินค้าประมงจากไทยของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะส่งผลต่อบรรจุภัณฑ์พลาสติก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าที่ยังโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ และราคาน้ำมันที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นของผลิตภัณฑ์พลาสติกยังคงมีความผันผวน
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--