อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาส 2 ปี 2558 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมพลาสติก ลดลงร้อยละ 3.70 และดัชนีส่งสินค้าลดลงร้อยละ 3.32 (ตารางที่ 1 และ 2) ทั้งนี้ เนื่องจาก เศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวจากภาวะภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน และกลุ่มประเทศอาเซียน
การตลาดและการจำหน่าย
ไตรมาส 2 ปี 2558 ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 273,318 ตัน ลดลงร้อยละ 0.97 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกลดลง ได้แก่ ใยยาวเดี่ยว พลาสติกปูพื้น แผ่นฟิลม์ ฟอยล์และแถบอื่น ๆ และของที่ใช้ลำเลียงหรือบรรจุสินค้า โดยลดลงร้อยละ 75.44 14.92 6.77 และ 5.58 ตามลำดับ (ตารางที่ 3) โดยประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยัง สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ไตรมาส 2 ปี 2558 ปริมาณการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 158,931 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.11 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าทำให้มีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นได้แก่ พลาสติกปูพื้น ใยยาวเดี่ยว แผ่นฟิลม์ ฟอยล์และแถบอื่น ๆ และเครื่องใช้ในครัวเรือน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.4 28.18 26.84 และ 14.18 ตามลำดับ (ตารางที่ 4) โดยประเทศไทยนำเข้าสินค้าดังกล่าวจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา
แนวโน้มไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 คาดว่า อุตสาหกรรมพลาสติกจะได้รับผลกระทบจากการส่งออก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาวะการค้าในภูมิภาค และเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ามีการชะลอตัวเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้ง
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--