อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาส 3ปี 2558เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนพบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมพลาสติก ลดลงร้อยละ 2.91และดัชนีส่งสินค้าลดลงร้อยละ4.81 ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวจากภาวะภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และหนี้สินของครัวเรือนโดยเฉพาะเกษตรกรในต่างจังหวัดประกอบกับปัญหาราคาสินค้าเกษตรกรตกต่ำทำให้ความต้องการซื้อในตลาดชะลอตัวลงอีกทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน และกลุ่มประเทศอาเซียน
การตลาดและการจำหน่าย
ไตรมาส 3 ปี 2558ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 281,097 ตัน ลดลงร้อยละ 8.48 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนโดยสินค้าที่ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกลดลงได้แก่ พลาสติกปูพื้น ของที่ใช้ลำเลียงหรือบรรจุสินค้าและ เครื่องใช้ในครัวเรือนโดยลดลงร้อยละ18.86 18.64 และ6.18ตามลำดับโดยประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนญี่ปุ่นสหรัฐอเมริกาออสเตรเลีย มาเลเซียและอินโดนีเซีย
ไตรมาส 3 ปี 2558ปริมาณการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926) เท่ากับ 155,491 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.23เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าทำให้มีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นได้แก่ พลาสติกปูพื้น เครื่องประกอบของอาคาร หลอดหรือท่อ และใยยาวเดี่ยว โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.43 36.50 12.30 และ 10.40 ตามลำดับ โดยประเทศไทยนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา
สรุปภาวะและแนวโน้มไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 คาดว่าอุตสาหกรรมพลาสติกจะได้รับผลกระทบจากภาคการส่งออกเนื่องจาก เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าค่อนข้างชะลอตัวอย่างไรก็ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐให้เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อให้เม็ดเงินกระจายสู่เศรษฐกิจภูมิภาคได้ทันในปีนี้น่าจะเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ให้ตกอยู่ในภาวะชะลอตัว ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีการฟี้นตัวในปลายปีนี้โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอีกทั้ง ราคาน้ำมันที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการของผลิตภัณฑ์พลาสติกมีแนวโน้มลดลงตารางที่ 1 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--