- ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 มีดัชนีผลผลิตอยู่ที่ระดับ 107.71 ลดลงร้อยละ 3.56 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.98 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากความต้องการคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คในตลาดโลกลดลง ประกอบกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกลดลง ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้ามีการปรับตัวลดลงร้อยละ 4.13 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง จึงส่งผลให้ความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงตามไปด้วย สำหรับเครื่องรับโทรทัศน์มีผู้ผลิตบางรายย้ายฐานการผลิตไปประเทศในกลุ่มอาเซียน
- การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 มีมูลค่า 54,605.24 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง ร้อยละ 2.01 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการส่งออกไปตลาดหลักปรับตัวลดลง ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ยกเว้นจีน และสหรัฐอเมริกาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ในปี 2559 คาดว่าอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.81 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 3 ของปี 2559 ซึ่งคาดว่าไตรมาส 3 ของปี 2559 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.55 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสินค้าหลายรายการ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น IC ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป
ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 มีดัชนีผลผลิตอยู่ที่ระดับ 107.71 ลดลงร้อยละ 3.56 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.98 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง ได้แก่ Semiconductor Other IC HDD และ Printer ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการปรับตัวลดลงของ Hard disk drive เป็นหลัก ตามความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลลดลงและหันไปใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนมากขึ้น (การจำหน่ายสมาร์ทโฟนในตลาดโลกคาดว่าจะอยู่ที่ 1.5 1 พันล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1.3 พันล้านเครื่อง) สำหรับการผลิต HDD มีการพัฒนาให้มีความจุมากขึ้นสำหรับนำไปใช้ใน Cloud Storage ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่, External HDD มากขึ้น ทำให้ปริมาณการผลิตจะไม่มากเท่าเดิม แต่ราคาต่อหน่วยเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ จากการรายงาน Semiconductor Industry Association 2(SIA) ของสหรัฐอเมริกาได้มีการคาดการณ์ Semiconductor ในตลาดโลกใหม่ให้สูงขึ้นกว่าเดิมมาอยู่ที่ 336 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเกือบทุกภูมิภาคมีการปรับตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ลดลงร้อยละ 10.3 8.2 และ 0.6 ยกเว้นเอเชียแปซิฟิก ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับอุตสาหกรรม HDD ปรับตัวลดลงร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ไตรมาส 1/2558 เนื่องจากความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ลดลง แต่ได้มีการใช้ใน Cloud Storage ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่, External HDD มากขึ้น ทำให้ปริมาณการผลิตจะไม่มากเท่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการ HDD ปรับตัวลดลงในอัตราที่ชะลอตัวลงด้วย
อุตสาหกรรมไฟฟ้ามีการปรับตัวลดลงร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต คอมเพรสเซอร์ เตาไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว และโทรทัศน์ เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง และผู้บริโภคมีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น อีกทั้งการส่งออกไปตลาดหลักปรับตัวลดลง นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องรับโทรทัศน์มีผู้ผลิตบางรายย้ายฐานการผลิตไปประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2558
การตลาดและการจำหน่าย
ภาวะการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศในปี 2558 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมดเมื่อเทียบกับปีก่อน ได้แก่ คอมเพรสเซอร์ พัดลม เครื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟ ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน และหม้อหุงข้าว ลดลงร้อยละ 9.91 11.68 10.66 31.01 1.23 24.37 และ 8.08 เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต และเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิตปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 และ 6.88 เมื่อเทียบกับปีก่อน
การค้าระหว่างประเทศ
การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 คาดว่าจะมีมูลค่า 54,605.24 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.01 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการส่งออกไปตลาดหลักเกือบทุกตลาดปรับตัวลดลง ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับปีก่อน ยกเว้นสหรัฐอเมริกาและจีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความต้องการ HDD และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ตามลำดับ
การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2558 คาดว่าจะมีมูลค่า 22,619.93 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 3.67 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการส่งออกไปสหภาพยุโรป จีนและญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดอาเซียน และสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น สินค้าส่งออกสำคัญที่มีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน คือ เครื่องปรับอากาศ เนื่องจากการส่งออกไปสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และอาเซียนลดลง รองลงมาคือ กล้องถ่ายโทรทัศน์ กล้องถ่ายบันทึกภาพดิจิทัล/กล้องถ่ายบันทึกวีดีโอ ส่วนหนึ่งมาจากความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทำให้มีสินค้าอื่นทดแทน เช่น สมาร์ทโฟน และแท็บเลต เป็นต้น ส่งผลให้ความต้องการกล้องดิจิตอลในตลาดหลักปรับตัวลดลง เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และอาเซียน เป็นต้น สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน คือ เครื่องรับโทรทัศน์ จากการส่งออกไปสหรัฐอเมริกาขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปีก่อน
การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 คาดว่าจะมีมูลค่า 31,985.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.81 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการส่งออกไปอาเซียน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนตลาดจีนและสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสหรัฐอเมริกา มีความต้องการ HDD เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปีก่อน และจีนมีความต้องการ IC เพิ่มขึ้นถึงกว่าร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญที่มีการปรับตัวลดลง คือ อุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ จากการส่งอออกไปตลาดหลักเกือบทั้งหมดปรับตัวลดลง ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป จีนและญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับปีก่อน ยกเว้นสหรัฐอเมริกาที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่วงจรรวมไมโครแอสแซมบลี (IC) มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการส่งออกไปจีนและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
การนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 คาดว่าจะมีมูลค่า 45,022.37 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.34 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแหล่งนำเข้าหลักที่ปรับตัวลดลง คือ อาเซียน สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น ยกเว้นการนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
การนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2558 คาดว่าจะมีมูลค่า 17,743.08 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.55 เมื่อเทียบกับปีก่อน แหล่งนำเข้าหลักที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาเซียน จีน และสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ยกเว้นการนำเข้าจากสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสินค้านำเข้าหลักที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คือ เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับตัดต่อป้องกันวงจรไฟฟ้า รวมถึงแป้นและแผงควบคุมมีการนำเข้าจากอาเซียน จีน สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้น รองลงมา คือ สายไฟ ชุดสายไฟ มีการนำเข้าจากจีนและอาเซียนเพิ่มขึ้น ยกเว้นส่วนประกอบเครื่องรับโทรทัศน์ที่มีการนำเข้าลดลง เนื่องจากผู้ผลิต บางรายมีการย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น
การนำเข้าอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 คาดว่าจะมีมูลค่า 27,286.75 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.23 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแหล่งนำเข้าหลักที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน คือ จีน สำหรับสินค้าหลักที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน คือ อุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีการนำเข้าจากอาเซียนเพิ่มขึ้น รองลงมาคือ เครื่องโทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์/เครือข่ายไร้สายอื่น ๆ ที่มีการนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
สรุปและแนวโน้ม
อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 คาดว่าการผลิตจะปรับตัวลดลงร้อยละ 3.56 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.98 เมื่อเทียบกับ ปีก่อน โดยสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง ได้แก่ Semiconductor Other IC HDD และ Printer ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการปรับตัวลดลงของ Hard disk drive เป็นหลัก ตามความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลลดลงและหันไปใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนมากขึ้น อีกทั้งมีการใช้ Cloud Storage ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่, External HDD มากขึ้น ทำให้ปริมาณการผลิตจะไม่มากเท่าเดิม ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้ามีการปรับตัวลดลงร้อยละ 4.13 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต คอมเพรสเซอร์ เตาไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว และโทรทัศน์ เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง และผู้บริโภคมีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น อีกทั้งการส่งออกไปตลาดหลักปรับตัวลดลง นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องรับโทรทัศน์มีผู้ผลิตบางรายย้ายฐานการผลิตไปประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2558
ในปี 2559 คาดว่าอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.81 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 3 ของปี 2559 ซึ่งคาดว่า ไตรมาส 3 ของปี 2559 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.55 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสินค้าหลายรายการ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น IC ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป
จากการรายงาน Semiconductor Industry Association 3(SIA) ของสหรัฐอเมริกาได้มีคาดการณ์ว่าในปี 2559 การจำหน่าย Semiconductor จะอยู่ที่ 341 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับ ปีก่อน เนื่องจากความต้องการของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เกือบทุกประเภทเพิ่มขึ้น (ยกเว้น กลุ่ม Memory) โดยในเกือบทุกภูมิภาคคาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ยกเว้นสหภาพยุโรป ซึ่งกลุ่มอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย (Wireless communication) และการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์ (Automotive) จึงเป็นกลุ่มหลักที่จะขับเคลื่อนให้ความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--