สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 4 ปี 2558 (ตุลาคม - ธันวาคม 2558)(อุตสาหกรรมพลาสติก)

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 15, 2016 16:32 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาส 4ปี 2558ดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.10และดัชนีส่งสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ7.86เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน(ตารางที่ 1 และ 2) การส่งออกลดลงร้อยละ 3.36 ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.96 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ตารางที่ 3 และ 4) ทั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกลดลง ทำให้ผู้ประกอบการพลาสติกชะลอการผลิตสินค้าลงเพราะคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนไตรมาส 1 ปี 2559 คาดว่าอุตสาหกรรมพลาสติกมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการการค้าและการลงทุนเพิ่ม เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

การตลาดและการจำหน่าย

การส่งออก

การส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926)ไตรมาส 4 ปี 2558มีปริมาณการส่งออกรวมทั้งสิ้นเท่ากับ 264,555.24 ตัน ลดลงร้อยละ 5.78 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 3.36 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนสินค้าที่มีร้อยละของการเปลี่ยนแปลงปริมาณการส่งออกลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนได้แก่ พลาสติกปูพื้น (3918) หลอดหรือท่อ (3917) ของอื่นๆ ที่ทำด้วยพลาสติก (3926) และเครื่องใช้ในครัวเรือน (3924)

  • พลาสติกปูพื้น (3918) มีปริมาณการส่งออก 10,727.59 ตัน ลดลงร้อยละ 25.76 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 28.28 โดยตลาดส่งออกสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย และแทนซาเนีย คิดเป็นร้อยละ 11.63 9.13 และ 7.37 ตามลำดับ
  • หลอดหรือท่อ (3917) มีปริมาณการส่งออก 8,150.44 ตัน ลดลงร้อยละ 19.94 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 22.89 โดยตลาดส่งออกสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ กัมพูชา ลาว และเมียนมา คิดเป็นร้อยละ 17.93 11.93 และ 10.59 ตามลำดับ
  • ของอื่นๆ ที่ทำด้วยพลาสติก (3926)มีปริมาณการส่งออก 26,659.71 ตัน ลดลงร้อยละ 4.53 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 6.46 โดยตลาดส่งออกสำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน อเมริกา และกัมพูชา คิดเป็นร้อยละ 24.39 8.50 7.25 และ 7.01ตามลำดับ
  • เครื่องใช้ในครัวเรือน (3924) มีปริมาณการส่งออก 12,905.70 ตัน ลดลงร้อยละ 1.53 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 5.60 โดยตลาดส่งออกที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอเมริกา คิดเป็นร้อยละ 12.00 9.63 และ 7.03 ตามลำดับ
การนำเข้า

การนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติก (3916-3926)ไตรมาส 4 ปี 2558มีปริมาณการนำเข้ารวมทั้งสิ้นเท่ากับ 160,898.10 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.48 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.96 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนสินค้าที่มีร้อยละของการเปลี่ยนแปลงปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ หลอดหรือท่อ (3917)เครื่องประกอบอาคาร (3925) ใยยาวเดี่ยว (3916) และพลาสติกปูพื้น (3918)

  • หลอดหรือท่อ (3917)มีปริมาณการนำเข้า 9,810.29 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.54 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.73 โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี คิดเป็นร้อยละ 36.57 19.34 และ 6.58 ตามลำดับ
  • เครื่องประกอบอาคาร (3925) มีปริมาณการนำเข้า 4,987.63 ตัน ลดลงร้อยละ 9.31 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.90 โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย คิดเป็นร้อยละ 48.82 25.62 และ 10.12 ตามลำดับ
  • ใยยาวเดี่ยว (3916)มีปริมาณการนำเข้า 2,349.16 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.56 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.48 โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน และสิงคโปร์ คิดเป็นร้อยละ 43.92 และ 26.53 ตามลำดับ
  • พลาสติกปูพื้น (3918) มีปริมาณการนำเข้า 6,898.15 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.59 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.65 โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญในไตรมาสนี้ ได้แก่ จีน และเกาหลีใต้ คิดเป็นร้อยละ 54.61 และ 14.99 ตามลำดับ
นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

ภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการเร่งรัดใช้จ่ายเงินประกอบกับแนวโน้มของการบังคับใช้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมภาคบังคับกับผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร คาดว่าจะทำให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและการบริโภคพลาสติกภายในประเทศเพิ่มขึ้นรวมทั้งนโยบายการส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ (Super Cluster) และนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมรูปแบบอื่นๆ เช่น New S-Curve, Spring Board ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม บรรจุภัณฑ์ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา ภาครัฐประกาศลดพื้นที่ทำการเกษตร เนื่องจากปริมาณน้ำสำรองลดน้อยลง ส่งผลให้มีการนำเข้าหลอดหรือท่อ และพลาสติกปูพื้นที่ใช้เพื่อการเกษตรเพิ่มมากขึ้น

สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพลาสติก และแนวโน้มอุตสาหกรรมปี 2559

ภาวะอุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาสที่ 4 ปี 2558 พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมพลาสติกภาพรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.10 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามการเพิ่มขึ้นของการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก ได้แก่ กระสอบและถุงพลาสติก และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 7.04 ส่วนดัชนีส่งสินค้าของอุตสาหกรรมพลาสติกภาพรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.39 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.86โดยเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภทผลิตภัณฑ์ ยกเว้น แผ่นฟิล์มพลาสติก และเครื่องใช้ประจำโต๊ะอาหาร ครัว และห้องน้ำ

การส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกไตรมาสที่ 4 ปี 2558 มีปริมาณการส่งออกเท่ากับ 264,555.24 ตัน โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนปริมาณการส่งออกสำคัญ ได้แก่ ของที่ใช้ลำเลียงหรือบรรจุสินค้า (3923) แผ่นฟิล์ม ฟอยด์ ที่ไม่เป็นแบบเซลลูลาร์ (3920) และของอื่นๆ ที่ทำด้วยพลาสติก (3926) คิดเป็นร้อยละ 38.61 30.78 และ 10.08 ตามลำดับ ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด

การนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติกไตรมาสที่ 4 ปี 2558 มีปริมาณการนำเข้าเท่ากับ 160,898.10 ตัน โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนปริมาณการนำเข้าสำคัญ ได้แก่ แผ่นฟิล์ม ฟอยด์ ที่ไม่เป็นแบบเซลลูลาร์ (3920) ของอื่นๆ ที่ทำด้วยพลาสติก (3926) ของที่ใช้ลำเลียงหรือบรรจุสินค้า (3923) และแผ่นฟิล์ม ฟอยด์ ที่เป็นแบบเซลลูลาร์ (3921) คิดเป็นร้อยละ 22.32 18.46 17.22 และ 14.99 ตามลำดับ ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด

แนวโน้มไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 คาดว่า สถานการณ์โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมพลาสติกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)อีกทั้งการท่องเที่ยวและการบริการที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างชัดเจน

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ