อุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนลดลง ทั้งจากตลาดในประเทศและตลาดส่งออก จากผลกระทบของเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะเปราะบาง
การผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้ ในไตรมาส 4 ปี 2558 มีปริมาณ 1.25 ล้านชิ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ลดลงร้อยละ 26.47 ตามภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.81 สำหรับภาพรวมในปี 2558 การผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้ มีปริมาณ 5.67 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.62 ซึ่งการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับตลาดส่งออกบางตลาดที่ยังขยายตัวได้ดี เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เบลเยี่ยม และสวีเดน
การตลาดและการจำหน่าย
การจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ ในไตรมาส 4 ปี 2558 มีปริมาณ 0.38 ล้านชิ้น (ดังตารางที่ 2) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ในภาวะทรงตัว แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 7.32 สำหรับภาพรวมในปี 2558 การจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ มีปริมาณ 1.49 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 17.22 โดยปริมาณการจำหน่ายที่ลดลงนั้นเกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายและเลือกที่จะจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่จำเป็นมากกว่า
การค้าระหว่างประเทศ
การส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือน ไตรมาส 4 ปี 2558 มีมูลค่ารวม 717.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ
2.02 และ 15.31 ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบาง ทำให้ตลาดหลักชะลอตัว อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังสามารถขยายตัวได้ดีในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือน ปี 2558 ในภาพรวมมีมูลค่า 2,996.70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 9.41 ตามทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
1) กลุ่มเครื่องเรือนและชิ้นส่วน ประกอบด้วย เครื่องเรือนไม้ เครื่องเรือนอื่นๆ และชิ้นส่วนเครื่องเรือน ตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มนี้ คือ ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย การส่งออกเครื่องเรือนและชิ้นส่วน มีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 27.44 ของมูลค่าส่งออกรวมผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือ เครื่องเรือนไม้
การส่งออกเครื่องเรือนและชิ้นส่วนในไตรมาส 4 ปี 2558 มีมูลค่ารวม 196.92 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 5.96 และ 19.34 ตามลำดับ สำหรับการส่งออกเครื่องเรือนและชิ้นส่วน ในปี 2558 มีมูลค่ารวม 829.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 16.57
2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ ประกอบด้วย เครื่องใช้ทำด้วยไม้ อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ กรอบรูปไม้ และรูปแกะสลักไม้ ตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มนี้ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร การส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ มีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.12 ของมูลค่าส่งออกรวมผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือ เครื่องใช้ทำด้วยไม้ และรูปแกะสลักไม้
การส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ในไตรมาส 4 ปี 2558 มีมูลค่ารวม 43.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 9.85 และ 7.28 ตามลำดับ สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ ในปี 2558 มีมูลค่ารวม 180.79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 10.24
3) กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น ประกอบด้วย ไม้แปรรูป แผ่นไม้วีเนียร์ ไม้อัด ไฟเบอร์บอร์ด และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้อื่น ๆ ตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มนี้ คือ ประเทศจีน เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น มีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 66.44 ของมูลค่าส่งออกรวมผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือไม้แปรรูป รองลงมาคือ ไฟเบอร์บอร์ด
การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่นในไตรมาส 4 ปี 2558 มีมูลค่ารวม 476.88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยร้อยละ 0.53 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 14.23 สำหรับการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น ในปี 2558 มีมูลค่ารวม 1,986.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 5.96
การนำเข้าไม้และเครื่องเรือน ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าวัตถุดิบไม้ ได้แก่ ไม้แปรรูป ไม้อัดและไม้วีเนียร์ และไม้ซุง มาผลิตเป็นสินค้าต่อเนื่องในอุตสาหกรรมเครื่องเรือน โดยไม้แปรรูปส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย ลาว สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ ไม้อัดและไม้วีเนียร์ ส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีน มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย และไม้ซุงส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศคองโก โซโลมอน นิวซีแลนด์ และเมียนมาร์
การนำเข้าไม้และเครื่องเรือนลดลงตามภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งในไตรมาส 4 ปี 2558 มีมูลค่ารวม 114.44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 8.78 และ 18.35 ตามลำดับ สำหรับการนำเข้าไม้และเครื่องเรือน ในปี 2558 มีมูลค่ารวม 510.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 16.56
สรุปและแนวโน้ม
การผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ ไตรมาส 4 ปี 2558 ลดลงเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือน ไตรมาส 4 ปี 2558 ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบาง ทำให้ตลาดหลักทุกตลาดชะลอตัว ส่วนของการนำเข้าไม้และเครื่องเรือน ไตรมาส 4 ปี 2558 ลดลงในทิศทางเดียวกับการบริโภคในประเทศ
การผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ ไตรมาส 1 ปี 2559 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ปัญหาค่าครองชีพและหนี้สินครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมทั้งราคาพืชผลเกษตรตกต่ำต่อเนื่อง อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง โดยเฉพาะสินค้าในตลาดระดับล่าง
การส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้และเครื่องเรือน ไตรมาส 1 ปี 2559 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดอาเซียน รวมทั้งตลาดในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่มีกำลังซื้อสูง เช่นเดียวกับการนำเข้าไม้และเครื่องเรือน ไตรมาส 1 ปี 2559 มีแนวโน้มเติบโตจากการนำวัตถุดิบไม้มาใช้ในการผลิตเป็นเครื่องเรือนเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--