การจำหน่ายเครื่องเรือนไม้ยังคงลดลงต่อเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ในขณะที่การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้สามารถเติบโตได้ดีจากกลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์ ไม้แผ่นในตลาดจีนและญี่ปุ่นเป็นสำคัญ
การผลิตเครื่องเรือนไม้ ไตรมาส 1 ปี 2559 มีปริมาณ 1.31 ล้านชิ้น (ดังตาราง ที่ 1) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.80 ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดส่งออกเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 2.24 ตามการหดตัวของตลาดในประเทศที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการผลิตไม่สามารถขยายตัวได้
การตลาดและการจำหน่าย
การจำหน่ายเครื่องเรือนไม้ ไตรมาส 1 ปี 2559 มีปริมาณ 0.29 ล้านชิ้น (ดังตารางที่ 2) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 21.62 และ 25.64 ตามลำดับ โดยปริมาณการจำหน่ายที่ลดลงนั้นเกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่มีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายและเลือกที่จะจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่จำเป็นมากกว่า
การค้าระหว่างประเทศ
การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ประกอบด้วย 1) กลุ่มเครื่องเรือนและชิ้นส่วน ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร และ 3) กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์
การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ไตรมาส 1 ปี 2559 มีมูลค่ารวม 793.44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ดังตารางที่ 3) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.55 และ 3.19 ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจในตลาดหลักที่เริ่มฟื้นตัว โดยการส่งออกสามารถขยายตัวได้ดีในกลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น ซึ่งมีมูลค่า 542.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 68 ของมูลค่าส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.70 และ 6.01 ตามลำดับ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่สามารถขยายตัวได้ดี คือ ไม้แปรรูป ในตลาดจีน และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้อื่นๆ ในตลาดจีนและญี่ปุ่น เป็นสำคัญ
การนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องเรือน ได้แก่ ไม้แปรรูป ไม้อัดและไม้วีเนียร์ และไม้ซุง โดยนำเข้าไม้แปรรูปจากประเทศมาเลเซีย ลาว และสหรัฐอเมริกา ไม้อัดและไม้วีเนียร์จากประเทศจีน มาเลเซีย และเวียดนาม และไม้ซุงจากประเทศคองโก สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ เป็นสำคัญ
การนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ไตรมาส 1 ปี 2559 มีมูลค่ารวม 111.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ดังตารางที่ 4) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 2.87 และ 13.98 ตามลำดับ ซึ่งในภาพรวมการนำเข้าเกือบทุกผลิตภัณฑ์เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดเครื่องเรือนไม้ในประเทศ
สรุปและแนวโน้ม
การผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนไม้ ไตรมาส 1 ปี 2559 ในภาพรวมลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น แม้ภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ แต่ยังไม่สามารถทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การผลิตสามารถขยายตัวได้จากการส่งออก สำหรับการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ไตรมาส 1 ปี 2559 เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของตลาดหลัก ในส่วนของการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ไตรมาส 1 ปี 2559 ลดลงตามภาวะการจำหน่ายในประเทศ
การผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนไม้ ไตรมาส 2 ปี 2559 มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาค่าครองชีพและหนี้สินครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง สำหรับการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ไตรมาส 2 ปี 2559 มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นจากความต้องการสินค้าในตลาดหลักที่เริ่มฟื้นตัว ในส่วนของการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ไตรมาส 2 ปี 2559 มีแนวโน้มลดลงในทิศทางเดียวกับการจำหน่ายในประเทศ
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--