สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 2 ปี 2559 (เมษายน - มิถุนายน 2559)(อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 6, 2016 14:24 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

Highlight

ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 2/2559 มีดัชนีผลผลิตอยู่ที่ระดับ 112.66 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.00 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการส่งออกเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นไปตลาดหลักส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ได้แก่ HDD Semiconductor และ Printer ปรับตัวลดลงร้อยละ 14.39 13.73 และ 10.06 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลลดลงและหันไปใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนมากขึ้น

การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า 12,771.76 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 1.22 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 4.29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการส่งออกไปตลาดหลักปรับตัวลดลงทั้งหมด

ในไตรมาส 3/2559 คาดว่าอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.88 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาแยกเป็นอุตสาหกรรมไฟฟ้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.87 ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะปรับตัวลดลงร้อยละ 1.11

การผลิต

ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไตรมาส 2/2559 (รายละเอียดแสดงในตารางที่ 1) มีดัชนีผลผลิตอยู่ที่ระดับ 112.66 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.00 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนโดยการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.57 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มาจากเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิต คอมเพรสเซอร์ ตู้เย็น และสายไฟ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.62 10.16 2.03 5.70 และ 4.93 ตามลำดับ เนื่องจากการจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การส่งออกเครื่องปรับอากาศไปตลาดหลักเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น ยกเว้นสหรัฐอเมริกาที่ปรับตัวลดลงและการส่งออกตู้เย็นปรับตัวเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ยกเว้นจีนและญี่ปุ่นที่ปรับตัวลดลง สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.38 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สำหรับสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เกือบทั้งหมดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่ Semiconductor Monolithic lC Other lC และ Printer ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.22 11.35 5.23 และ 1.09 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ยกเว้น HDD ปรับตัวลดลงร้อยละ 6.46 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากอุตสาหกรรมไฟฟ้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิต คอมเพรสเซอร์ พัดลมตามบ้าน ตู้เย็น เตาไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว สายไฟฟ้า และโทรทัศน์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.33 29.58 0.63 2.90 4.09 6.59 13.02 10.13 และ 8.95 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการจำหน่ายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต และเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิต ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 36.64 35.98 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงการส่งออกเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นไปตลาดหลักส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไตรมาส 2/2559 ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ได้แก่ HDD Semiconductor และ Printer ปรับตัวลดลงร้อยละ 14.39 13.73 และ 10.06 ตามลำดับ เพราะความต้องการคอมพิวเตอร์ในตลาดโลกลดลงซึ่ง Gartner 1 รายงานว่า การจำหน่ายคอมพิวเตอร์ PC ทั่วโลกในไตรมาส 2/2559 มีการจำหน่าย อยู่ที่ 64.3 ล้านเครื่อง ลดลงร้อยละ 5.20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊คในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกลดลง โดย Semiconductor lndustry Association 2 (SlA) รายงานว่า การจำหน่าย Semiconductor ไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า 79.10 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 5.80 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.80 5.50 และ 1.30 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่จีนเพิ่มเพียงขึ้นร้อยละ 1.70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การจำหน่ายในประเทศ

ภาวะการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศในไตรมาส 2/2559 มีการปรับตัวลดลงส่วนใหญ่ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนได้แก่คอมเพรสเซอร์ เครื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟกระติกน้ำร้อน และหม้อหุงข้าว ลดลงร้อยละ 6.93 10.83 2.92 12.72 และ 9.65 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิตพัดลม และตู้เย็น เพิ่มขึ้น ร้อยละ 8.92 8.42 0.09 และ 4.44 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ภาวะการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมด ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิตคอมเพรสเซอร์ พัดลม เครื่องซักผ้า ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน และหม้อหุงข้าว เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.64 35.98 19.39 37.35 11.79 11.56 21.87 และ 18.16 ตามลำดับ ยกเว้นเตาไมโครเวฟ ปรับตัวลดลงร้อยละ 21.81 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การส่งออก

การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า 12,771.76 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.22 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และปรับตัวลดลงร้อยละ 4.29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกไปตลาดหลักลดลงทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรปจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น

การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า 5,535.23 ล้านเหรียญสหรัฐลดลง ร้อยละ 0.42 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยตลาดหลักที่ปรับตัวลดลง คือ อาเซียน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 0.26 3.74 และ 3.36 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนจีนและสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.43 และ 3.91 ตามลำดับสำหรับการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 3.18 โดยการส่งออกไปตลาดหลักปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมดได้แก่อาเซียน จีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 1.56 13.37 9.50 และ 3.82 ตามลำดับ ยกเว้นสหภาพยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.71 โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) เครื่องปรับอากาศ มีมูลค่าการส่งออก 1,251.19 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.97 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกไปตลาดหลักเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 29.87 47.37 42.83 และ 12.97 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 15.13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับตัดต่อป้องกันวงจรไฟฟ้า รวมถึงแป้นและแผงควบคุม (ฟิวส์ สวิตช์ ปลั๊ก socket) มีมูลค่า 625.33 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.06 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการส่งออกไปตลาดหลักเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.22 12.93 3.80 และ 0.45 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นจีน ลดลงร้อยละ 10.41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3) ตู้เย็นใช้ตามบ้านเรือน มีมูลค่าการส่งออก 405.10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากตลาดหลักส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.90 5.82 และ 78.56 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การส่งออกไปจีน และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 12.74 และ 11.42 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า 7,236.53 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.83 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยตลาดหลักส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 3.34 9.90 และ 7.87 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ยกเว้นจีน และสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.05 และ 11.01 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สำหรับการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรับตัวลดลงร้อยละ 5.11 เนื่องจากตลาดหลักปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 5.77 8.40 8.14 และ 15.16 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นสหรัฐอเมริกา ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.69 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1) อุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ มีมูลค่าการส่งออก 3,933.81 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 7.79 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการส่งออกไปตลาดหลักปรับตัวลดลงทั้งหมดได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป จีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 3.90 13.87 8.80 2.54 และ 4.15 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลีมีมูลค่าการส่งออก 1,800.35 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกไปอาเซียนและญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 3.63 และ 12.84 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นสหภาพยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.71 10.79 และ 6.36 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3) ไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ มีมูลค่าการส่งออก 351.72 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 94.54 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกไปอาเซียน สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 66.18 164.10 และ 1,740.99 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การนำเข้า

การนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า 10,334.73 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 5.48 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 2.48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการนำเข้าในส่วนของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวลดลงร้อยละ 1.62 และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลงร้อยละ 3.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 5.10 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 1.62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการนำเข้าจากตลาดหลักปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 9.23 2.06 14.43 และ 3.59 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการนำเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับตัดต่อป้องกันวงจรไฟฟ้า รวมถึงแป้นและแผงควบคุม (ฟิวส์ สวิตช์ ปลั๊ก socket) มีมูลค่าการนำเข้า 1,000.21 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากแหล่งนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาเซียน และญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.97 และ 5.81 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) สายไฟ ชุดสายไฟ มีมูลค่าการนำเข้า 307.79 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 3.20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แหล่งนำเข้าที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ อาเซียน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 2.60 7.57 และ 12.70 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3) เทปแม่เหล็กและจานแม่เหล็ก, แผ่น CD สำหรับบันทึกเสียง/ภาพ มีมูลค่าการนำเข้า 252.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แหล่งนำเข้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ สหภาพยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.81 110.90 และ 40.83 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แหล่งนำเข้าที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ อาเซียน และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 0.94 และ 18.02 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การนำเข้าอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า 6,133.86 ล้านเหรียญสหรัฐลดลงร้อยละ 5.73 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และปรับตัวลดลงร้อยละ 3.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแหล่งนำเข้าหลักที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 1.10 13.92 และ 6.50 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้านำเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก 1) วงจรรวมและไมโคร แอสแซมบลี มีมูลค่า 2,205.35 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 3.89 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแหล่งนำเข้าที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ จีน และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 12.68 และ 12.09 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) อุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ มีมูลค่าการนำเข้า 1,379.96 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 13.35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแหล่งนำเข้าหลักปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน จีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 7.33 10.01 58.98 และ 1.97 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3) เครื่อง โทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์ มีมูลค่า 891.78 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.81 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแหล่งนำเข้าจากสหภาพยุโรป จีน สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.93 7.04 75.16 และ 132.00 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นอาเซียนที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไตรมาส 2/2559

ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 2/2559 มีดัชนีผลผลิตอยู่ที่ระดับ 112.66 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.00 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการจำหน่ายในประเทศและการส่งออกไปตลาดหลักส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ได้แก่ HDD Semiconductor และ Printer ปรับตัวลดลงร้อยละ 14.39 13.73 และ 10.06 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลลดลงและหันไปใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนมากขึ้น ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกลดลงโดยภาพรวมการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า 12,771.76 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 1.22 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 4.29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการส่งออกไปตลาดหลักปรับตัวลดลงทั้งหมด

แนวโน้มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไตรมาส 3/2559

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 3/2559 คาดว่าการผลิตจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.88 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาแยกเป็นอุตสาหกรรมไฟฟ้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.87 เนื่องจากเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นสามารถขยายตัวได้ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออกหลักเกือบทั้งหมดสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะปรับตัวลดลงร้อยละ 1.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโน้ตบุ๊คลดลง ประกอบกับความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกลดลง

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ