อุตสาหกรรมปิโตรเคมีช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) ปี 2559 ราคาแนฟธาของตลาดเอเชียปรับตัวผันผวนตามราคานามันดิบในตลาดล่วงหน้าโดยภาพรวมราคาเฉลี่ยปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทยช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) ปี 2559 การผลิตในประเทศ มีแผนการลงทุนในผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การขยายหน่วยผลิตแอโรแมติกส์II ที่ช่วยให้กาลังการผลิตพาราไซลีน (PX ) เบนซีน (benzene ) และออโธไซลีน (orthoxylene ) เพิ่มขึน 115,000 115,000 และ 20,000 ตัน/ปี ตามลาดับ นอกจากนี มีการลงทุนสร้างหน่วยผลิต Phenol II มีกาลังการผลิตฟีนอลและอะซิโทน (acetone) 250,000 และ 155,000 ตัน/ปี ตามลาดับ โดยได้ดาเนินการผลิตเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว
มีการวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเคมีภายในปี 2561-2563 โดยการเพิ่มกำลังการผลิตอะโรมาติกส์ การเพิ่มกำลังการผลิตในโครงการ Phenol 2 และการเพิ่มกำลังการผลิตพอลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น (LLDPE) อีก 170,000 405,000 และ 800,000 ตัน/ปี ตามลำดับ
การดำเนินการผลิตอัลคิลเบนซีนโครงสร้างเส้น (Linear alkyl benzene, LAB) เป็นโรงงานผลิต LAB ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีกำลังการผลิต 100,000 ตัน/ปี ดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว
การลงทุนในต่างประเทศในธุรกิจผลิตกรดเทเรฟทาลิก บริสุทธิ์ (PTA) ในสหรัฐอเมริกา กำลังการผลิต 1,000,000 ตัน/ปี นอกจากนี้ มีการวางแผนปรับปรุงกำลังการผลิตของโรงงานในประเทศสเปน กำลังการผลิตกรดไอโซพทาลิกบริสุทธิ์ (PIA) พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) และกรดเทเรฟทาลิกบริสุทธิ์ (PTA) 220,000 175,000 และ 325,000 ตัน/ปี ตามลำดับ รวมทั้งมีแผนร่วมลงทุนโครงการปิโตรเคมีแบบครบวงจรทางตอนใต้ของเวียดนาม กำลังการผลิตเอทิลีน1 ล้านตัน/ปี
การส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.)ปี 2559 ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำมีมูลค่ารวม5,442.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการเปลี่ยนแปลงโดยรวมลดลง ร้อยละ 10.17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของปี 2559 ทั้ งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ คาดว่าจะมีมูลค่ารวม6,530.64 ล้านเหรียญสหรัฐฯมีอัตราการเปลี่ยนแปลงโดยรวมลดลง ร้อยละ 8.21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
การนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) ปี 2559 ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มีมูลค่ารวม 2,235.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯมีอัตราการเปลี่ยนแปลงโดยรวมลดลงร้อยละ 8.81 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในปี 2559 ทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ คาดว่าจะมีมูลค่ารวม 2,682.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯมีอัตราการเปลี่ยนแปลงโดยรวมลดลงร้อยละ 6.04 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ราคาเอธิลีนในตลาดเอเชียในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.)ปี 2559 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 37.51 บาทต่อกิโลกรัม และราคาโพรพิลีนเฉลี่ยอยู่ที่ 24.90 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาของเอธิลีนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับราคา 31.77 บาท/กิโลกรัมส่วนราคาโพรพิลีนมีการปรับตัวลดลงที่ระดับราคา 30.16 บาท/กิโลกรัมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558
ในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) ปี 2559 ราคาเม็ดพลาสติก (ราคาเฉลี่ย SE Asia CFR) LDPE, HDPE, และ PP มีระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 41.51, 40.08 และ 36.95 บาท/กิโลกรัมตามลาดับ ทั้งนี้ LDPE , HDPE และ PP มีระดับราคาเฉลี่ยลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่ระดับราคา 43.29, 42.82 และ 40.89 บาท/กิโลกรัมตามลำดับ
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.)ปี 2559 คาดว่ามูลค่าการส่งออกและนาเข้าโดยรวมมีอัตราการเปลี่ยนแปลงลดลงร้อยละ 10.17 และ 8.81 ตามลำดับ ซึ่งเกิดจากความผันผวนของระดับราคานามันดิบที่อยู่ในช่วงขาลง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความเปราะบาง โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศญี่ปุ่น
แนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทยในปี 2559 คาดว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าการส่งออกและนาเข้าลดลง ร้อยละ 8.21 และ 6.04 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2558 ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากการปรับลดลงอย่างมากของระดับราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของอุตสาหกรรม รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบางจะเป็นปัจจัยสำคัญที่อุตสาหกรรมต้องติดตามดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงผู้ผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีควรปรับแผนการผลิตให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศและภาวะเศรษฐกิจโลกและควรลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (Specialty )
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีในปี 2560 คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ตามการคาดการณ์การขยายตัวของ GDP และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยอัตราการขยายตัว GDP ปี 2560ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้ประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะมีการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกและการนำเข้าร้อยละ 1.8 และ 4.0 ตามลำดับ (ข่าวกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 147/2559 วันที่ 28 ตุลาคม 2559) อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของระดับราคาน้ำมันดิบ ภาวะเศรษฐกิจการค้าในภูมิภาค และภาวะเศรษฐกิจโลก การขยายตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และอุตสาหกรรมปลายทาง ได้แก่ อุตสาหกรรมพลาสติก เป็นปัจจัยสำคัญที่อุตสาหกรรมต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--