การผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้หดตัวตามกำลังซื้อของผู้บริโภคจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ยังสามารถขยายตัวได้ดีในตลาดอาเซียน จีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เป็นสำคัญ
การผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้ ปี 2559 ในภาพรวมหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงเนื่องจากอยู่ในช่วงการเร่งระบายโครงการเดิมที่มีอยู่ ในขณะที่ผู้บริโภคเองก็ยังมีปัญหาไม่ผ่านการขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีผลต่อเนื่องต่อความต้องการใช้เครื่องเรือนในการตกแต่งบ้านที่ไม่สามารถขยายตัวได้ โดยปริมาณการผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้ ปี 2559 มีประมาณ 4.97 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 12.19
การจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศ ปี 2559 ในภาพรวมตลาดหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ทำให้การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ในขณะที่ผู้บริโภคเองก็มีปัญหาภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้กำลังซื้อลดลง โดยเฉพาะสินค้าในตลาดระดับล่าง ที่ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย และเลือกที่จะจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่จำเป็นมากกว่า โดยปริมาณการจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศ ปี 2559 มีประมาณ 1.15 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 22.82
การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ประกอบด้วย 1) กลุ่มเครื่องเรือนและชิ้นส่วน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27 ของมูลค่าส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 ของมูลค่าส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร และ 3) กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 68 ของมูลค่าส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ จีน สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ปี 2559 มีมูลค่ารวมประมาณ 3,338.97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.42 (ดังตาราง ที่ 3) ซึ่งการส่งออกสามารถขยายตัวได้ดีในตลาดอาเซียน จีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ โดยผลิตภัณฑ์สำคัญที่ทำให้การส่งออกขยายตัวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกสูง ได้แก่ ไม้แปรรูป ชิ้นส่วนเครื่องเรือน ไม้อัด เครื่องใช้ทำด้วยไม้ และอุปกรณ์ก่อสร้างไม้ ตามลำดับ
การนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าวัตถุดิบไม้ ได้แก่ ไม้แปรรูป ไม้อัดและไม้วีเนียร์ และไม้ซุง เพื่อมาผลิตเป็นสินค้าต่อเนื่องในอุตสาหกรรมเครื่องเรือน โดยไม้ แปรรูปส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา ไม้อัดและไม้วีเนียร์ ส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีน มาเลเซีย และเวียดนาม ไม้ซุงส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศคองโก และสหรัฐอเมริกา
การนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ปี 2559 มีมูลค่ารวมประมาณ 479.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 6.09 (ดังตารางที่ 4) ซึ่งเป็นผลจากการนำเข้าวัตถุดิบไม้ลดลง โดยเฉพาะการนำเข้าไม้ซุงที่มีมูลค่านำเข้าลดลงอย่างมาก ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 เป็นต้นมา
ในปี 2559 การผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ทำให้การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ในขณะที่ผู้บริโภคเองก็มีปัญหาภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้กำลังซื้อลดลง โดยเฉพาะสินค้าในตลาดระดับล่าง สำหรับการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ขยายตัวได้ดีในตลาดอาเซียน จีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ในส่วนของการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ลดลงในทิศทางเดียวกับการผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้
การผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ ในปี 2560 เมื่อเทียบกับปี 2559 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มจะขยายตัวตามโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินค้าตกแต่งบ้าน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สำหรับการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ปี 2560 เมื่อเทียบกับปี 2559 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากตลาดหลักทั้งอาเซียน จีน สหรัฐอเมริกา และตลาดในแถบเอเชียที่มีกำลังซื้อสูง ในส่วนของการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ปี 2560 เมื่อเทียบกับปี 2559 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าไม้ชนิดต่างๆ เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มากขึ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--