สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2559 และแนวโน้มปี 2560 (อุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 24, 2017 16:30 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

การส่งออกสินค้ารองเท้าและเครื่องหนัง ปี 2559 คาดว่าจะปรับตัวลดลงทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องจากการส่งออกของไทยได้รับอิทธิพลจากกระแสการค้าโลกที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อและการนำเข้าของประเทศคู่ค้า ประกอบกับขีดความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มประเทศที่มีต้นทุนค่าแรงงานที่ต่ำกว่า และมีความได้เปรียบด้านต้นทุน ขณะที่การนำเข้า ปี 2559 คาดว่าทุกผลิตภัณฑ์จะมีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตาม ทิศทางการบริโภคสินค้าหรูของประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น

การผลิต

ปี 2559 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง (ตารางที่ 1-3) จำแนกได้ ดังนี้

1. การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ดัชนีผลผลิตลดลง ร้อยละ 21.84 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลง สอดคล้องกับดัชนีการส่งสินค้าที่ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ร้อยละ 22.85 จากกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในที่ชะลอตัว ประกอบกับการส่งออก ในตลาดหลักยังขยายตัวไม่มากนัก เช่น จีน ที่ต้องการสินค้าจากไทยเพื่อนำไปผลิตเป็นสินค้าปลายน้ำไปยังตลาดอื่นชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.80

2. การผลิตกระเป๋าเดินทางกระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่อง เทียมลาก เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ดัชนีผลผลิตลดลง ร้อยละ 8.37 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออกที่มีมูลค่าลดลง ทำให้ลดการผลิตลง สอดคล้องกับดัชนีการส่งสินค้า และดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังที่ลดลดง ร้อยละ 5.39 และ 2.82 ตามลำดับ

3. การผลิตรองเท้า เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ดัชนีผลผลิตลดลง ร้อยละ 10.10 ซึ่ง เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออกรองเท้าและชิ้นส่วนที่มีมูลค่าลดลง ส่งผลให้ดัชนีการส่งสินค้าลดลง ร้อยละ 10.08 และทำให้ระดับสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.57

การตลาดและการจำหน่าย

การค้าระหว่างประเทศ
การส่งออก

การส่งออกสินค้าเครื่องหนังและรองเท้าโดยรวม ปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่า การส่งออก 1,624 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 8 (ตารางที่ 4) โดยทุกผลิตภัณฑ์ ได้แก่ หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด เครื่องใช้สำหรับเดินทาง และรองเท้าและชิ้นส่วน มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ร้อยละ 9 6 และ 8 ตามลำดับ ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ ดังนี้

1. หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่า การส่งออก 718 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 9 โดยผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะมี การส่งออกลดลง ได้แก่ หนังโคกระบือฟอก ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง ถุงมือหนัง และเครื่องแต่งกายและเข็มขัด ลดลง ร้อยละ 60 21 9 และ 13 ตามลำดับ ตามความต้องการของจีน และกลุ่มประเทศอาเซียนที่ลดลง โดยตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เวียดนาม ฮ่องกง และจีน ปรับตัวลดลง ร้อยละ 7.73 3.29 และ 32.67 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น คือ หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4

2. เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่าการส่งออก 286 ล้าน เหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 6 โดยเกือบทุกผลิตภัณฑ์คาดว่าจะมีการส่งออกลดลง ได้แก่ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ และกระเป๋าใส่เศษสตางค์ ลดลง ร้อยละ 10 21 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการส่งออกเกิดจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าหลักของไทย เช่น สหภาพยุโรป ยังคงชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย สำหรับตลาดส่งออกที่มีการปรับตัวลดลง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และฮ่องกง ลดลง ร้อยละ 10.96 6.27 และ 4.36 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องเดินทางอื่น ๆ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9

3.รองเท้าและชิ้นส่วน ปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่าการส่งออก 620 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 8 ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ลดลง ได้แก่ รองเท้ากีฬา รองเท้าแตะ รองเท้าหนัง รองเท้าอื่น ๆ และส่วนประกอบของรองเท้า ลดลง ร้อยละ 28 9 8 5 และ 10 ตามลำดับ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหราชอาณาจักร เนื่องจากการส่งออกของไทยได้รับอิทธิพลจากกระแสการค้าโลกที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อและการนำเข้าของประเทศคู่ค้า ประกอบกับขีดความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มประเทศที่มีต้นทุนค่าแรงงานที่ต่ำกว่า และมีความได้เปรียบด้านต้นทุน สำหรับตลาดส่งออกที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลดลง ร้อยละ 8.19 0.71 และ 19.20 ตามลำดับ

การนำเข้า

การนำเข้าสินค้าเครื่องหนังและรองเท้าโดยรวม ปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่า การนำเข้าประมาณ 1,510 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 6 (ตารางที่ 5) ประกอบด้วย 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ ดังนี้

1. หนังดิบและหนังฟอก ปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่าการนำเข้า 712 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 3 เพื่อสต๊อกเป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์รองเท้าและเครื่องหนัง เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่ครอบคลุมทั้งความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มสินค้ารองเท้าและเครื่องหนัง และการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้หนังในกระบวนการผลิต เช่น เบาะรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา และบราซิล มีสัดส่วน ร้อยละ 14.81 14.79 และ 11.48 ตามลำดับ

2. กระเป๋า ปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่าการนำเข้า 414 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น จากปี 2558 ร้อยละ 10 โดยผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น คือ กระเป๋าเดินทาง และกระเป๋าถือและกระเป๋าอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4 และ 11 ตามลำดับ ตามพฤติกรรมการบริโภคสินค้าหรูของคนไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญ คือ จีน อิตาลี และฝรั่งเศส มีสัดส่วน ร้อยละ 44.69 18.35 และ 12.11 ตามลำดับ

3. รองเท้า ปี 2559 คาดว่า จะมีมูลค่าการนำเข้า 385 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 10 เป็นผลจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์ประเภทรองเท้ากีฬา รองเท้าทำด้วยยางหรือพลาสติก และรองเท้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 32 12 และ 10 ตามลำดับ สำหรับรองเท้าหนัง มีมูลค่าการนำเข้าลดลง ร้อยละ 9 โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญ คือ จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย มีสัดส่วน ร้อยละ 41.96 21.53 และ 11.09 ตามลำดับ

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

1. นโยบายการส่งเสริม SMEs ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลที่ออกมาช่วยสร้าง ความแข็งแกร่งให้กับ SMEs โดยมีแนวทางในการปรับเปลี่ยนจากเศรษฐกิจที่เน้นปัจจัยการผลิตเดิม (Factor Driven Growth) ประเภทที่ดิน แรงงาน และทุน ไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่การสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มเป็นปัจจัยขับเคลื่อน หรือการพัฒนาทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อยกระดับให้ SMEs ไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และตั้งเป้าหมายในปี 2558 เพิ่มสัดส่วนรายได้ของ SMEs ทั้งระบบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1 ในปี 2559 หรือคิดเป็นมูลค่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง ส่วนใหญ่เป็น SMEs จึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะได้รับการส่งเสริม

2. นโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2560 จำนวน 5 -10 บาท ใน 69 จังหวัด โดยพิจารณาแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มที่ไม่ปรับค่าจ้าง มี 8 จังหวัด คือ สิงห์บุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช ตรัง ระนอง นราธิวาส ปัตตานี และยะลา 2) กลุ่มที่ปรับขึ้นค่าจ้าง 5 บาท มี 49 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน ลำปาง น่าน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี พัทลุง สตูล กำแพงเพชร พิจิตร แพร่ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ ชัยนาท ลพบุรี นครนายก สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม จันทบุรี ตราด ลำพูน พะเยา สุโขทัย อุตรดิตถ์ บึงกาฬ นครพนม อุบลราชธานี อ่างทอง เลย หนองบัวลำภู มุกดาหาร ยโสธร เชียงราย พิษณุโลก อุดรธานี ชัยภูมิ ศรีสะเกษ นครสวรรค์ และหนองคาย3) กลุ่มที่ปรับขึ้นค่าจ้าง 8 บาท มี 13 จังหวัด คือ ขอนแก่น นครราชสีมา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ สระบุรี ฉะเชิงเทรา กระบี่ พังงา และพระนครศรีอยุธยา และ 4) กลุ่มที่ปรับขึ้นค่าจ้าง 10 บาท มี 7 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และภูเก็ต โดยอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่นี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปี 2560 อาจจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ

สรุปและแนวโน้ม
สรุป

การผลิตผลิตภัณฑ์รองเท้าและเครื่องหนัง ปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง ได้แก่ การฟอกและตกแต่งหนังฟอก การผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก และการผลิตรองเท้า เนื่องจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว และเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพรวมเศรษฐกิจโลกและตลาดคู่ค้าหลัก ได้แก่ สหภาพยุโรป และ จีน ที่ยังคงชะลอตัว

การส่งออก ปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง ได้แก่ หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด จากการส่งออกไปตลาดเวียดนาม ฮ่องกง และจีน ในส่วนเครื่องใช้สำหรับเดินทาง โดยเฉพาะในตลาดคู่ค้า เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับผลิตภัณฑ์รองเท้าและชิ้นส่วน จากการส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหราชอาณาจักร ที่มีมูลค่าลดลง เนื่องจากการส่งออกของไทยได้รับอิทธิพลจากกระแสการค้าโลกที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อและการนำเข้าของประเทศคู่ค้า ประกอบกับขีดความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มประเทศที่มีต้นทุนค่าแรงงานที่ต่ำกว่า และมีความได้เปรียบด้านต้นทุน

การนำเข้า ปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ทุกผลิตภัณฑ์มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ หนังดิบและหนังฟอก รวมทั้งสินค้าสำเร็จรูป ได้แก่ กระเป๋า และรองเท้า เป็นไปตาม ทิศทางการบริโภคสินค้าหรูของประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น

แนวโน้มปี 2560

ปี 2560 คาดว่า การผลิตและการส่งออกผลิตภัณฑ์รองเท้าและเครื่องหนังจะมีแนวโน้มทรงตัว หรืออาจพลิกกลับมาเป็นบวกเล็กน้อย เนื่องจากฐานปี 2559 อยู่ในระดับต่ำ โดยมีปัจจัยที่กระตุ้นการผลิต เช่น การขยายตัวเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยว การลงทุนจากภาครัฐที่จะส่งผลเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจภายในประเทศโดยรวม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้การผลิต ปี 2560 กลับมาขยายตัวได้ ดังนั้น การผลิตในภาพรวมของอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง อาจมีทิศทางที่ดีขึ้นในปี 2560 สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์รองเท้าและเครื่องหนัง คาดว่า จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน และมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาขยายตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น ทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้ารองเท้าและเครื่องหนังที่มีการแข่งขันด้านราคาสูง นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบในด้านลบ คือ นโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย สำหรับการนำเข้า คาดว่า จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการบริโภคสินค้าหรูเพื่อแสดงฐานะทางสังคมมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น และอาจขยายตัวได้ดีขึ้นมากถ้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ