ส่วนอุตสาหกรรม 3 สำนักนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา 2
0 2202 4381
อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ในภาพรวมด้านปริมาณการผลิตมีการหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนปริมาณการจำหน่ายในประเทศเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนมีการหดตัวจากการจำหน่ายปูนซีเมนต์แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีปริมาณขยายตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยจากการจำหน่ายปูนเม็ดได้เพิ่มขึ้น
ด้านการส่งออกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปริมาณการส่งออกปูนเม็ดที่เพิ่มขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนสำหรับการนำเข้าปูนซีเมนต์มีปริมาณเพิ่มขึ้นทั้งการนำเข้าปูนเม็ดและปูนซีเมนต์เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนการนำเข้าของปริมาณปูนซีเมนต์ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นมาก
ในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 มีปริมาณการผลิตปูนเม็ดและปูนซีเมนต์จำนวนรวม 10.75 ล้านตันและ 9.59 ล้านตัน ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณการผลิตปูนเม็ดและปูนซีเมนต์หดตัวลดลงร้อยละ 8.50 และร้อยละ12.68 ตามลำดับและเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณการผลิตปูนเม็ดและปูนซีเมนต์หดตัวลงร้อยละ 3.95 และ 10.64 ในภาพรวมการผลิตอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในประเทศอยู่ในภาวะหดตัว
การตลาดและการจำหน่าย
ในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 มีปริมาณการจำหน่ายปูนเม็ดและปูนซีเมนต์ในประเทศรวม 9.07 ล้านตัน แบ่งออกเป็นการจำหน่ายปูนเม็ด 0.15 ล้านตัน และปูนซีเมนต์ 8.92 ล้านตัน โดยปริมาณการจำหน่ายรวมในประเทศเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหดตัวลง ร้อยละ 5.39 ในขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 0.09 ในภาพรวมตลาดปูนซีเมนต์ของไทยยังชะลอตัวด้วยปัจจัยลบหลายประการซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัวก็ตาม เช่น การขยายตัวในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานไม่คืบหน้าเท่าที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมได้คาดการณ์ไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีก่อนจำนวนอสังหาริมทรัพย์มีภาวะล้นตลาดประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกค่อนข้างชุกเป็นเหตุให้เกิดการชะลอตัวของการก่อสร้างหรือการซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชน
การค้าระหว่างประเทศ
ในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 มีปริมาณการส่งออกปูนซีเมนต์รวม 3.72 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 151.05 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นการส่งออกปูนเม็ดจำนวน 2.13 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 63.86 ล้านเหรียญสหรัฐฯเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนเม็ดเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.93 และร้อยละ 25.14 ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนเม็ดเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.11 และร้อยละ 41.93 ตามลำดับ ในส่วนของปูนซีเมนต์ มีปริมาณการส่งออกจำนวน 1.58 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 87.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯแต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์หดตัวลง ร้อยละ 7.48 และร้อยละ 8.85 ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณและมูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์มีการหดตัวลงเป็นไปในทางเดียวกันคือหดตัว ร้อยละ 22.47 และ 26.81 ตามลำดับ
ในภาพรวมการส่งออกปูนเม็ดขยายตัวจากปีก่อนโดยยังเป็นการขยายตัวของตลาดบังคลาเทศซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักในสินค้าปูนเม็ดของไทยเพิ่มขึ้นในขณะที่การส่งออกปูนซีเมนต์ในภาพรวมหดตัวลงจากการที่เมียนมาปรับลดคำสั่งซื้อปูนซีเมนต์จากไทยลงค่อนข้างมากจากการที่บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของไทยบางแห่งได้เข้าไปตั้งฐานการผลิตในเมียนมารวมถึงการส่งออกปูนซีเมนต์ไปยังลาวที่มีผู้ผลิตของไทยเข้าไปลงทุนก็เริ่มมีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกันอย่างไรก็ดีตลาดส่งออกปูนซีเมนต์ในภาพรวม (รวมปูนเม็ด) ที่สำคัญของไทยในไตรมาสนี้ยังคงเป็นประเทศกัมพูชา บังคลาเทศ เมียนมา และลาว ตามลำดับรวมมูลค่าส่งออก 109.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยคิดเป็นร้อยละ 72.34 ของมูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์ (รวมปูนเม็ด) ทั้งหมดของไทย
การนำเข้าปูนซีเมนต์ไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ในภาพรวม การนำเข้ามีปริมาณรวม 207,331 ตัน คิดเป็นมูลค่า 11.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนปริมาณและมูลค่าการนำเข้ารวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.12 และ 36.14 ตามลำดับและเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณและมูลค่าการนำเข้ารวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 3,888.31 และ 522.45 ตามลำดับ โดยเป็นการนำเข้าปูนเม็ดจำนวน 719,594 ตัน คิดเป็นมูลค่า 0.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) จำนวน 206,612 ตัน คิดเป็นมูลค่า 11.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยร้อยละ 98 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดเป็นการนำเข้าปูนซีเมนต์จากฐานการผลิตของบริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์ รายใหญ่บางแห่งของไทยในลาวแหล่งนำเข้าที่สำคัญของไทยในไตรมาสนี้ได้แก่ ลาวสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ จีน และเนเธอร์แลนด์ ตามลำดับ
จากการที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีนักลงทุน 28 บริษัทให้ความสนใจมาลงทุนในพื้นที่ EEC มูลค่า 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯหากเกิดการลงทุนและเกิดการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าวก็จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นมากต่อไป
สรุปและแนวโน้ม
ปริมาณการผลิตปูนเม็ดในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ยังขยายตัวได้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากไทยมีการส่งออกปูนเม็ดไปยังตลาดบังคลาเทศมากขึ้นในส่วนของปูนซีเมนต์มีปริมาณการผลิตลดลงเนื่องจากภาคก่อสร้างในประเทศในส่วนของการก่อสร้างสาธารณูปโภคของรัฐบาลมีความคืบหน้าน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์มีภาวะล้นตลาด การเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ประกอบกับไทยส่งออกปูนซีเมนต์ไปยังเมียนมาได้น้อยลงค่อนข้างมากรวมถึงการส่งออกไปยังลาวและเวียดนามมีแนวโน้มลดลงด้วยในไตรมาสนี้ จึงส่งผลต่อปริมาณการผลิตของไทยลง
มูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์รวมในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหดตัวตามการปรับลดปริมาณการสั่งซื้อปูนซีเมนต์จากไทยของเมียนมาลง ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าในไตรมาสนี้ไทยจะมีปริมาณการส่งออกปูนเม็ดเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้เป็นตัวช่วยในภาพรวมในแง่ของมูลค่าแต่อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนไทยยังสามารถส่งออกปูนซีเมนต์ภาพรวมได้ ในมูลค่าที่เพิ่มขึ้น
ปริมาณการผลิตและปริมาณการจำหน่ายในไตรมาสที่ 3 ปี 2560 น่าจะมีแนวโน้มขยายตัวได้บ้างเหตุที่ยังไม่มีการขยายตัวมากนักเนื่องจากปัจจัยลบหลายประการ เช่น สภาพตลาดยังชะลอตัวและมีการแข่งขันสูง อสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในภาวะล้นตลาดเนื่องมาจากปัญหาหลายประการโดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดมากขึ้น การเข้าสู่ฤดูฝนเต็มรูปแบบซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความไม่สะดวกในการก่อสร้างแล้วยังทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมหลายจังหวัดโดยเฉพาะทางภาคอีสานจึงน่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดการชะลอตัวของการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ดี ก็ยังมีปัจจัยบวกอยู่เช่นกัน คือ ปริมาณการผลิตและจำหน่ายในภาพรวมอาจจะสามารถคลี่คลายได้เมื่อพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนก็จะต้องทำการซ่อมแซมบ้านเรือน และจากการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 รวม 2.9 ล้านล้านบาท เม็ดเงินก็จะมีการกระจายลงสู่ภาคส่วนต่างๆ ช่วยให้เสริมสร้างสภาพคล่องให้ระบบเศรษฐกิจ และเงินสะพัดสู่ท้องถิ่น ซึ่งการลงทุนภาครัฐบาลในโครงการย่อยๆ จะได้รับประโยชน์ โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัสดุก่อสร้างซึ่งรวมถึงปูนซีเมนต์ด้วยรวมหากรัฐบาลทำการกระตุ้นตลาดโดยให้มีการเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ให้มีความคืบหน้าไปตามแผนงานก็อาจมีส่วนช่วยให้ตลาดปรับตัวดีขึ้นได้แต่ก็จะยังโตในลักษณะชะลอตัวเช่นเดิม
ในส่วนของการส่งออกคาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงอีกเนื่องจากเมียนมาและลาวมีแนวโน้มปรับลดการสั่งซื้อปูนซีเมนต์จากไทยลงต่อเนื่องจากการที่ผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปลงทุนผลิตปูนซีเมนต์ในเมียนมาและลาวได้ดำเนินการผลิตแล้วรวมถึงตลาดในอาเซียนเกิดภาวะซบเซามีการแข่งขันที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆทำให้เกิดการแข่งขันสูงด้านราคาอีกด้วย
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--