รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัยสามัญ (General conference: GC) สมัยที่ 17 ของ UNIDO ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2560 ณ Vienna International Centre กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย เดินสายชู Roadmap ตามนโยบาย 4.0 หวัง ชักจูงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมนายทรงศัก สายเชื้อ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา และนายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสมัยสามัญ (General conference: GC) สมัยที่ 17 ของ UNIDO ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2560 ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรี โดยเกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายการบริหาร และในปีนี้การประชุม GC อยู่ภายใต้หัวข้อ Partnering for Impact Achieving the SDGs. ร่วมกับผู้แทนประเทศสมาชิก UNIDO เช่น ประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส ประธานาธิบดีสาธารณรัฐมอลตา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐโครเอเชีย
สำหรับภารกิจในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2560 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันแก่ Dr. Christoph Matznetter รองประธานหอการค้าออสเตรียพร้อมด้วยนักธุรกิจออสเตรียที่สนใจการลงทุนในประเทศไทยจำนวน 25 ราย อาทิ Breiner Bio-One Fronius International พร้อมสื่อมวลชนออสเตรีย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้กล่าวปาฐกถาเปิดการประชุมหารือซึ่งมีเนื้อหาสำคัญ คือ ความร่วมมือของประเทศไทยและ UNIDO ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเดินทางมายังสาธารณรัฐออสเตรียในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงโอกาสการลงทุนในไทยซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งจะเป็นแผนที่นำทาง (Roadmap) ในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยโดยองค์รวม โดยมีกลยุทธ์ 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง โครงสร้างด้านดิจิตอล 2. เทคโนโลยีแกนหลักใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 3. การพัฒนาเชิงพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการ EEC เป็นโครงการสำคัญในการขับเคลื่อนโดยผ่านกลไกประชารัฐ รวมทั้งเชิญชวนนักลงทุน และมีการนำเสนอโครงการ EEC โดยผู้แทนจากสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) เพื่อชักจูงนักลงทุนออสเตรียเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยมีบริษัทออสเตรียให้ความสนใจ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อการลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก
ต่อมา รวอ. และคณะ ได้พบหารือทวิภาคีกับ Ms.Maria Vassilakou รองนายกเทศมนตรี และรองผู้ว่าการกรุงเวียนนา เกี่ยวกับนโยบายการจัดการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ โดยรองนายกเทศมนตรีได้นำเสนอตัวอย่างการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะในกรุงเวียนนาซึ่งมุ่งเน้นให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ มีโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้เท่านั้น แต่ต้องเป็นการพัฒนาในองค์รวม การแลกเปลี่ยนนโยบายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อ'แนวทางการพัฒนานโยบายเมืองอัจฉริยะของประเทศไทยต่อไป
ในช่วงเย็น รวอ. ได้เข้าร่วมการประชุม The 6 th UNIDO Forum on Inclusive and Sustainable Industrial Development (6 th ISID Forum) ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานของการประชุม GC สมัยที่ 17 เพื่อเป็นเวทีให้ประเทศสมาชิก และหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงผลการดำเนินงานของความร่วมมือในรูปแบบ Multi-Stakeholder Partnership หรือ Programme for Country Partnership (PCP) โดย รวอ. ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษซึ่งมีเนื้อหาสำคัญ คือ กล่าวถึงนโยบายและกลยุทธ์การขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 โดยได้เน้นย้ำถึงการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงทุกภาคส่วน และสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
29 พฤศจิกายน 2560
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--