1. การผลิต
ปริมาณการผลิตของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2550
มีปริมาณการผลิต 4.21 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 2.55 และ 1.64 ตามลำดับ
เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ยังปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ เช่น ไม้ยางพารา รวมทั้งราคาน้ำมันและค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ปริมาณการผลิต
ชะลอตัวลง สถานการณ์ของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในไตรมาสนี้ในภาพรวมยังอยู่ในภาวะชะลอตัว อันเนื่องมาจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ
และภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ผู้ประกอบการบางส่วน โดยเฉพาะรายเล็กและรายกลาง (SME) ต้องประสบกับปัญหาการบริหารจัดการต้นทุน
และเมื่อรวมกับปัญหาการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ประสบกับการขาดทุนและต้องปิดกิจการลง
2. การตลาด
2.1 การจำหน่ายในประเทศ
ปริมาณการจำหน่ายในประเทศของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีปริมาณการจำหน่าย 0.55 ล้านชิ้น เมื่อ
เทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.02 และ 14.58 ตามลำดับ เนื่องจากถึงแม้ว่าในภาพรวมภาคอสังหาริมทรัพย์
และการบริโภคภายในประเทศยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ความต้องการเครื่องเรือนก็ยังมีอยู่ ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อัตรา
เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ธนาคารต่างๆ เสนอดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพื่อเพิ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย อีกทั้งเป็นช่วงที่โครงการต่างๆ เปิดตัว
คอนโดมิเนียม และบ้านพักอาศัยประเภทต่าง ๆ โดยมีรายการส่งเสริมการขายมากมาย เพื่อกระตุ้นการขายในช่วงปลายปี
2.2 การส่งออก
การส่งออกของสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 595.84 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.35 และ 8.15 ตามลำดับ เนื่องจากการส่งออกยังขยายตัวได้
ดี ทั้งในตลาดหลักโดยเฉพาะญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และตลาดใหม่ เช่น แอฟริกาใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ
ออสเตรเลีย แต่การส่งออกไปสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลักอีกแห่งหนึ่งของไทยปรับตัวลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการประสบปัญหา
การปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพต่ำ (Sub-Prime Loans) ของสหรัฐฯ รวมทั้งการที่คู่แข่งของไทยโดยเฉพาะจีนและเวียดนามซึ่งมีต้นทุนวัตถุ
ดิบและค่าแรงที่ถูกกว่าไทยแย่งชิงส่วนแบ่งของไทยในตลาดสหรัฐฯ
สำหรับรายละเอียดการส่งออกในแต่ละประเภทผลิตภัณฑ์ของสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน แบ่งเป็น 3 กลุ่มประเภทสินค้า
ดังนี้
1) กลุ่มเครื่องเรือนและชิ้นส่วนเครื่องเรือน ประกอบด้วย เครื่องเรือนไม้ เครื่องเรือนอื่นๆ และชิ้นส่วนเครื่องเรือน ในไตรมาสนี้ มี
มูลค่าการส่งออก 296.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 50 ของมูลค่าการส่งออกในสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด
เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.92 และ7.35 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนในการ
ส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือ สินค้าประเภทเครื่องเรือนไม้ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องเรือนและชิ้นส่วนเครื่องเรือน คือ
ประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย
2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ ประกอบด้วยเครื่องใช้ทำด้วยไม้ อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ กรอบรูปไม้ และ รูปแกะสลักไม้ ในไตรมาสนี้มีมูลค่าการส่ง
ออก 100.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกร้อยละ 17 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าประเภทไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด เมื่อเทียบ
กับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.81 และ 0.10 ตามลำดับ โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือ
อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ ตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ไม้ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และจีน
3) กลุ่มไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป แผ่นไม้วีเนียร์ ไม้อัด ไฟเบอร์บอร์ด (Fiber Board) และ
ผลิตภัณฑ์ไม้อื่น ๆ โดยไตรมาสนี้มีมูลค่าการส่งออก 198.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 33 ของมูลค่าการส่งออกสินค้า
ประเภทไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด มูลค่าการส่งออกเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.06 และ14.09 ตาม
ลำดับ โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนในการส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือไม้แปรรูป รองลงมาคือ ไม้อัด และไฟเบอร์บอร์ด ตามลำดับ สำหรับตลาดส่งออกที่
สำคัญของกลุ่มไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น ได้แก่ ประเทศจีน มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้และไต้หวัน
2.3 การนำเข้า
มูลค่าการนำเข้าในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีจำนวน 163.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.12 และ 5.05 ตามลำดับ โดยการนำเข้าสินค้าประเภทไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าวัตถุดิบไม้ท่อนประเภทไม้เนื้อ
แข็ง ได้แก่ ไม้ซุงและ ไม้แปรรูป ซึ่งนำเข้ามาผลิตสินค้าต่อเนื่องเช่น เครื่องเรือนประเภทต่าง ๆ โดยไม้แปรรูปส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศ
มาเลเซีย ลาว และสหรัฐอเมริกา สำหรับไม้ซุงท่อนส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศเมียนมาร์ และมาเลเซีย และในส่วนของผลิตภัณฑ์ไม้อัดและไม้วี
เนียร์นำเข้าจากประเทศจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเมียนมาร์
3. สรุปและแนวโน้ม
การผลิตของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากปัจจัยการผลิต
ต่างๆ ที่ยังมีต้นทุนที่สูงอยู่ ประกอบกับการที่ผู้ประกอบบางส่วน โดยเฉพาะ SME ที่ใช้แรงงานเข้มข้นและมีการส่งออกสูงประสบปัญหาการบริหารจัดการ
ต้นทุนและประสิทธิภาพการผลิตต่ำ ประกอบกับรับใบสั่งซื้อล่วงหน้า เมื่อค่าเงินบาทแข็ง จึงไม่สามารถปรับราคาขายเพราะเกรงว่าลูกค้าจะหันไปซื้อจาก
ประเทศคู่แข่งซึ่งมีต้นทุนถูกกว่า รวมทั้งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จึงประสบภาวะขาดทุนและเลิกกิจการ ส่วนการจำหน่ายในประเทศของอุตสาหกรรม
ไม้และเครื่องเรือนของไทย
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากบรรยากาศทางการเมืองที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้
บริโภคเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง รวมทั้งมาตรการดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารต่าง ๆ
และโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ทั้งที่เปิดตัวและสร้างเสร็จพร้อมอยู่เพื่อกระตุ้นการขายในช่วงปลายปีออกมาเป็นจำนวนมาก
สำหรับแนวโน้มการผลิตและการจำหน่ายในประเทศของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2550 คาดว่าจะเพิ่ม
ขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน จะทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนของผู้ประกอบการและในการบริโภคของประชาชนเพิ่มขึ้น อัตราเงิน
เฟ้อและอัตราดอกเบี้ยคงอยู่ในช่วงขาลง ตลอดจนโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ ที่จะสร้างเพิ่มขึ้นจะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่ง
ผลต่อความต้องการของเครื่องเรือนมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากภาวะราคาน้ำมันที่คาดว่าจะยังคงผันผวนต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการควร
ต้องเร่งปรับตัวโดยการบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการในส่วนของการประหยัดต้นทุน รวมทั้งต้องเร่งปรับรูปแบบการผลิตโดยเพิ่มการบริการ
ก่อนและหลังการขาย เพื่อตอบสนองต่อรสนิยมที่หลากหลายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
การส่งออกของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น เพราะการส่งออกไปตลาดหลัก
และตลาดใหม่ยังขยายตัวได้ดี แต่การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักอีกแห่งหนึ่งของไทยกลับลดลง เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาสิน
เชื่อบ้านอสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำของสหรัฐฯ รวมทั้งการแข่งขันอย่างรุนแรงของไทยจากจีนและเวียดนามในตลาดสหรัฐฯ สำหรับแนวโน้มการส่งออก
ของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในไตรมาสที่ 4
ปี 2550 คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการส่งออกในตลาดหลักและโดยเฉพาะตลาดใหม่ยังคงขยายตัวได้ดี เพราะสินค้าของ
ไทยมีคุณภาพดีและส่งมอบตรงเวลา ในขณะที่ตลาดต่างประเทศยังมีการขยายตัวของการก่อสร้างที่อยู่อาศัย อีกทั้งคาดว่าค่าเงินบาทจะมีเสถียรภาพมาก
ขึ้นจากมาตรการของรัฐที่ออกมาเพื่อลดผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็ง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรเน้นการบริโภคของตลาดภายในประเทศ เพื่อ
กระจายความเสี่ยงจากการส่งออก ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของไทยที่อาจชะลอตัวลง ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการต้อง
เร่งหาตลาดใหม่ๆ ราคาน้ำมันที่คาดว่ายังคงผันผวนต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการควรบริหารจัดการต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ หรือพลังงาน และการแข่งขัน
อย่างรุนแรงในตลาดโลกของคู่แข่งของไทยโดยเฉพาะจีนและเวียดนาม ซึ่งผู้ประกอบการควรต้องเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การเพิ่มมูลค่าให้กับ
ผลิตภัณฑ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้วยราคา ควรยกระดับฝีมือแรงงาน ทั้งเทคนิคงานไม้และการออกแบบผลิตภัณฑ์ ควรศึกษาแนวโน้มตลาดและรสนิยม
ของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์ใช้สอยอย่างเต็มที่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวด
ล้อม อีกทั้งผู้ประกอบการไทยควรเร่งสร้างพันธมิตรและเครือข่ายด้านการผลิตและการตลาด โดยเน้นธุรกิจเชิงรุกและตลาดเฉพาะ (niche
market) เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการแข่งขันอย่างรุนแรงจากจีนและเวียดนามในตลาดโลก
ตารางที่ 1 การผลิตของเครื่องเรือนทำด้วยไม้
หน่วย : ล้านชิ้น
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาส ปี 2549 ปี 2550
Mar-49 Feb-50 Mar-50 (ม.ค.-ก.ย.) (ม.ค.-ก.ย.)
เครื่องเรือนทำด้วยไม้ 4.28 4.32 4.21 14.17 13.3
- เทียบกับไตรมาสก่อน -2.55
- เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน -1.64 -6.14
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จากการสำรวจโรงงาน 43 โรงงาน
ตารางที่ 2 การจำหน่ายในประเทศของเครื่องเรือนทำด้วย ไม้
หน่วย : ล้านชิ้น
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาส ปี 2549 ปี 2550
Mar-49 Feb-50 Mar-50 (ม.ค.-ก.ย.) (ม.ค.-ก.ย.)
เครื่องเรือนทำด้วยไม้ 0.48 0.47 0.55 2.98 1.81
- เทียบกับไตรมาสก่อน 17.02
- เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 14.58 -39.26
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จากการสำรวจโรงงาน 43 โรงงาน
ตารางที่ 3 มูลค่าการส่งออกไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายการ เทียบกับ เทียบกับไตรมาส ปี 2549 ปี 2550 เทียบกับช่วงเดียวกันของ
ไตรมาส ไตรมาสก่อน เดียวกันของปีก่อน (ม.ค.-ก.ย.) (ม.ค.-ก.ย.) ปีก่อน
3/2549 2/2550 3/2550
1.เครื่องเรือนและชิ้นส่วน 276.3 272.3 296.6 8.92 7.35 809.28 853.09 5.41
1.1 เครื่องเรือนไม้ 150.4 142.6 155.1 8.78 3.14 454.92 448.46 -1.42
1.2 เครื่องเรือนอื่น ๆ 69.94 70.63 71.8 1.66 2.66 205.46 212.26 3.31
1.3 ชิ้นส่วนเครื่องเรือน 55.9 59.03 69.62 17.9 24.54 148.9 192.37 29.19
2. ผลิตภัณฑ์ไม้ 100.8 93.62 100.9 7.81 0.1 266.28 282.63 6.14
2.1 เครื่องใช้ทำด้วยไม้ 21.62 22.59 24.96 10.5 15.45 61.39 67.34 9.69
2.2 อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ 34.62 36.16 34.95 -3.35 0.95 88.99 107.69 21.01
2.3 กรอบรูปไม้ 30.83 21.56 24.24 12.4 -21.4 79.07 66.68 -15.7
2.4 รูปแกะสลักไม้ 13.76 13.31 16.78 26.1 21.95 36.83 40.92 11.11
3.ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น 173.9 194.3 198.4 2.06 14.09 506.86 584.71 15.36
3.1 ไม้แปรรูป 70.14 68.47 69.79 1.93 -0.5 194.75 207.08 6.33
3.2 แผ่นไม้วีเนียร์ 2.7 1.82 3.02 65.9 11.85 5.61 6.57 17.11
3.3 ไม้อัด 51.67 57.6 54.94 -4.62 6.33 159.93 169.91 6.24
3.4 Fiber Board 41.35 51.66 56.19 8.77 35.89 111.86 157.3 40.62
3.5 ผลิตภัณฑ์ไม้อื่น ๆ 8 14.79 14.41 -2.57 80.13 34.71 43.85 26.33
รวม 551 560.2 595.8 6.35 8.15 1,582.42 1,720.43 8.72
ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ตารางที่ 4 มูลค่าการนำเข้าไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายการ เทียบกับ เทียบกับไตรมาส ปี 2549 ปี 2550 เทียบกับช่วงเดียวกันของ
ไตรมาส ไตรมาสก่อน เดียวกันของปีก่อน (ม.ค.-ก.ย.) (ม.ค.-ก.ย.) ปีก่อน
3/2549 2/2550 3/2550
ไม้ซุง 25.96 21.47 25.52 18.9 -1.7 73.96 72 -2.66
ไม้แปรรูป 92.96 90.4 96.24 6.46 3.53 281.6 279 -0.88
ไม้อัด วีเนียร์ 24.97 28.38 29.74 4.79 19.1 66.08 78.9 19.5
ผลิตภัณฑ์ไม้อื่นๆ 11.85 12.49 12.11 -3.04 2.19 32.02 37.1 15.8
รวม 155.7 152.7 163.6 7.12 5.05 453.6 467 2.97
ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ปริมาณการผลิตของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2550
มีปริมาณการผลิต 4.21 ล้านชิ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 2.55 และ 1.64 ตามลำดับ
เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ยังปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ เช่น ไม้ยางพารา รวมทั้งราคาน้ำมันและค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ปริมาณการผลิต
ชะลอตัวลง สถานการณ์ของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในไตรมาสนี้ในภาพรวมยังอยู่ในภาวะชะลอตัว อันเนื่องมาจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ
และภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ผู้ประกอบการบางส่วน โดยเฉพาะรายเล็กและรายกลาง (SME) ต้องประสบกับปัญหาการบริหารจัดการต้นทุน
และเมื่อรวมกับปัญหาการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ประสบกับการขาดทุนและต้องปิดกิจการลง
2. การตลาด
2.1 การจำหน่ายในประเทศ
ปริมาณการจำหน่ายในประเทศของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีปริมาณการจำหน่าย 0.55 ล้านชิ้น เมื่อ
เทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.02 และ 14.58 ตามลำดับ เนื่องจากถึงแม้ว่าในภาพรวมภาคอสังหาริมทรัพย์
และการบริโภคภายในประเทศยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ความต้องการเครื่องเรือนก็ยังมีอยู่ ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อัตรา
เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ธนาคารต่างๆ เสนอดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพื่อเพิ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย อีกทั้งเป็นช่วงที่โครงการต่างๆ เปิดตัว
คอนโดมิเนียม และบ้านพักอาศัยประเภทต่าง ๆ โดยมีรายการส่งเสริมการขายมากมาย เพื่อกระตุ้นการขายในช่วงปลายปี
2.2 การส่งออก
การส่งออกของสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 595.84 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.35 และ 8.15 ตามลำดับ เนื่องจากการส่งออกยังขยายตัวได้
ดี ทั้งในตลาดหลักโดยเฉพาะญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และตลาดใหม่ เช่น แอฟริกาใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ
ออสเตรเลีย แต่การส่งออกไปสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลักอีกแห่งหนึ่งของไทยปรับตัวลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการประสบปัญหา
การปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพต่ำ (Sub-Prime Loans) ของสหรัฐฯ รวมทั้งการที่คู่แข่งของไทยโดยเฉพาะจีนและเวียดนามซึ่งมีต้นทุนวัตถุ
ดิบและค่าแรงที่ถูกกว่าไทยแย่งชิงส่วนแบ่งของไทยในตลาดสหรัฐฯ
สำหรับรายละเอียดการส่งออกในแต่ละประเภทผลิตภัณฑ์ของสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน แบ่งเป็น 3 กลุ่มประเภทสินค้า
ดังนี้
1) กลุ่มเครื่องเรือนและชิ้นส่วนเครื่องเรือน ประกอบด้วย เครื่องเรือนไม้ เครื่องเรือนอื่นๆ และชิ้นส่วนเครื่องเรือน ในไตรมาสนี้ มี
มูลค่าการส่งออก 296.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 50 ของมูลค่าการส่งออกในสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด
เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.92 และ7.35 ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนในการ
ส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือ สินค้าประเภทเครื่องเรือนไม้ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องเรือนและชิ้นส่วนเครื่องเรือน คือ
ประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย
2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ ประกอบด้วยเครื่องใช้ทำด้วยไม้ อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ กรอบรูปไม้ และ รูปแกะสลักไม้ ในไตรมาสนี้มีมูลค่าการส่ง
ออก 100.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกร้อยละ 17 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าประเภทไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด เมื่อเทียบ
กับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.81 และ 0.10 ตามลำดับ โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือ
อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ ตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ไม้ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และจีน
3) กลุ่มไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป แผ่นไม้วีเนียร์ ไม้อัด ไฟเบอร์บอร์ด (Fiber Board) และ
ผลิตภัณฑ์ไม้อื่น ๆ โดยไตรมาสนี้มีมูลค่าการส่งออก 198.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 33 ของมูลค่าการส่งออกสินค้า
ประเภทไม้และเครื่องเรือนทั้งหมด มูลค่าการส่งออกเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.06 และ14.09 ตาม
ลำดับ โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนในการส่งออกมากที่สุดในกลุ่มนี้ คือไม้แปรรูป รองลงมาคือ ไม้อัด และไฟเบอร์บอร์ด ตามลำดับ สำหรับตลาดส่งออกที่
สำคัญของกลุ่มไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น ได้แก่ ประเทศจีน มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้และไต้หวัน
2.3 การนำเข้า
มูลค่าการนำเข้าในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 มีจำนวน 163.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.12 และ 5.05 ตามลำดับ โดยการนำเข้าสินค้าประเภทไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าวัตถุดิบไม้ท่อนประเภทไม้เนื้อ
แข็ง ได้แก่ ไม้ซุงและ ไม้แปรรูป ซึ่งนำเข้ามาผลิตสินค้าต่อเนื่องเช่น เครื่องเรือนประเภทต่าง ๆ โดยไม้แปรรูปส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศ
มาเลเซีย ลาว และสหรัฐอเมริกา สำหรับไม้ซุงท่อนส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศเมียนมาร์ และมาเลเซีย และในส่วนของผลิตภัณฑ์ไม้อัดและไม้วี
เนียร์นำเข้าจากประเทศจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเมียนมาร์
3. สรุปและแนวโน้ม
การผลิตของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากปัจจัยการผลิต
ต่างๆ ที่ยังมีต้นทุนที่สูงอยู่ ประกอบกับการที่ผู้ประกอบบางส่วน โดยเฉพาะ SME ที่ใช้แรงงานเข้มข้นและมีการส่งออกสูงประสบปัญหาการบริหารจัดการ
ต้นทุนและประสิทธิภาพการผลิตต่ำ ประกอบกับรับใบสั่งซื้อล่วงหน้า เมื่อค่าเงินบาทแข็ง จึงไม่สามารถปรับราคาขายเพราะเกรงว่าลูกค้าจะหันไปซื้อจาก
ประเทศคู่แข่งซึ่งมีต้นทุนถูกกว่า รวมทั้งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จึงประสบภาวะขาดทุนและเลิกกิจการ ส่วนการจำหน่ายในประเทศของอุตสาหกรรม
ไม้และเครื่องเรือนของไทย
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากบรรยากาศทางการเมืองที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้
บริโภคเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง รวมทั้งมาตรการดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารต่าง ๆ
และโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ทั้งที่เปิดตัวและสร้างเสร็จพร้อมอยู่เพื่อกระตุ้นการขายในช่วงปลายปีออกมาเป็นจำนวนมาก
สำหรับแนวโน้มการผลิตและการจำหน่ายในประเทศของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2550 คาดว่าจะเพิ่ม
ขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน จะทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนของผู้ประกอบการและในการบริโภคของประชาชนเพิ่มขึ้น อัตราเงิน
เฟ้อและอัตราดอกเบี้ยคงอยู่ในช่วงขาลง ตลอดจนโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ ที่จะสร้างเพิ่มขึ้นจะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่ง
ผลต่อความต้องการของเครื่องเรือนมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากภาวะราคาน้ำมันที่คาดว่าจะยังคงผันผวนต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการควร
ต้องเร่งปรับตัวโดยการบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการในส่วนของการประหยัดต้นทุน รวมทั้งต้องเร่งปรับรูปแบบการผลิตโดยเพิ่มการบริการ
ก่อนและหลังการขาย เพื่อตอบสนองต่อรสนิยมที่หลากหลายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
การส่งออกของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในไตรมาสที่ 3 ปี 2550 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น เพราะการส่งออกไปตลาดหลัก
และตลาดใหม่ยังขยายตัวได้ดี แต่การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักอีกแห่งหนึ่งของไทยกลับลดลง เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาสิน
เชื่อบ้านอสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำของสหรัฐฯ รวมทั้งการแข่งขันอย่างรุนแรงของไทยจากจีนและเวียดนามในตลาดสหรัฐฯ สำหรับแนวโน้มการส่งออก
ของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนในไตรมาสที่ 4
ปี 2550 คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการส่งออกในตลาดหลักและโดยเฉพาะตลาดใหม่ยังคงขยายตัวได้ดี เพราะสินค้าของ
ไทยมีคุณภาพดีและส่งมอบตรงเวลา ในขณะที่ตลาดต่างประเทศยังมีการขยายตัวของการก่อสร้างที่อยู่อาศัย อีกทั้งคาดว่าค่าเงินบาทจะมีเสถียรภาพมาก
ขึ้นจากมาตรการของรัฐที่ออกมาเพื่อลดผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็ง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรเน้นการบริโภคของตลาดภายในประเทศ เพื่อ
กระจายความเสี่ยงจากการส่งออก ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของไทยที่อาจชะลอตัวลง ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการต้อง
เร่งหาตลาดใหม่ๆ ราคาน้ำมันที่คาดว่ายังคงผันผวนต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการควรบริหารจัดการต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ หรือพลังงาน และการแข่งขัน
อย่างรุนแรงในตลาดโลกของคู่แข่งของไทยโดยเฉพาะจีนและเวียดนาม ซึ่งผู้ประกอบการควรต้องเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การเพิ่มมูลค่าให้กับ
ผลิตภัณฑ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้วยราคา ควรยกระดับฝีมือแรงงาน ทั้งเทคนิคงานไม้และการออกแบบผลิตภัณฑ์ ควรศึกษาแนวโน้มตลาดและรสนิยม
ของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์ใช้สอยอย่างเต็มที่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวด
ล้อม อีกทั้งผู้ประกอบการไทยควรเร่งสร้างพันธมิตรและเครือข่ายด้านการผลิตและการตลาด โดยเน้นธุรกิจเชิงรุกและตลาดเฉพาะ (niche
market) เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการแข่งขันอย่างรุนแรงจากจีนและเวียดนามในตลาดโลก
ตารางที่ 1 การผลิตของเครื่องเรือนทำด้วยไม้
หน่วย : ล้านชิ้น
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาส ปี 2549 ปี 2550
Mar-49 Feb-50 Mar-50 (ม.ค.-ก.ย.) (ม.ค.-ก.ย.)
เครื่องเรือนทำด้วยไม้ 4.28 4.32 4.21 14.17 13.3
- เทียบกับไตรมาสก่อน -2.55
- เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน -1.64 -6.14
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จากการสำรวจโรงงาน 43 โรงงาน
ตารางที่ 2 การจำหน่ายในประเทศของเครื่องเรือนทำด้วย ไม้
หน่วย : ล้านชิ้น
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาส ปี 2549 ปี 2550
Mar-49 Feb-50 Mar-50 (ม.ค.-ก.ย.) (ม.ค.-ก.ย.)
เครื่องเรือนทำด้วยไม้ 0.48 0.47 0.55 2.98 1.81
- เทียบกับไตรมาสก่อน 17.02
- เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 14.58 -39.26
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จากการสำรวจโรงงาน 43 โรงงาน
ตารางที่ 3 มูลค่าการส่งออกไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายการ เทียบกับ เทียบกับไตรมาส ปี 2549 ปี 2550 เทียบกับช่วงเดียวกันของ
ไตรมาส ไตรมาสก่อน เดียวกันของปีก่อน (ม.ค.-ก.ย.) (ม.ค.-ก.ย.) ปีก่อน
3/2549 2/2550 3/2550
1.เครื่องเรือนและชิ้นส่วน 276.3 272.3 296.6 8.92 7.35 809.28 853.09 5.41
1.1 เครื่องเรือนไม้ 150.4 142.6 155.1 8.78 3.14 454.92 448.46 -1.42
1.2 เครื่องเรือนอื่น ๆ 69.94 70.63 71.8 1.66 2.66 205.46 212.26 3.31
1.3 ชิ้นส่วนเครื่องเรือน 55.9 59.03 69.62 17.9 24.54 148.9 192.37 29.19
2. ผลิตภัณฑ์ไม้ 100.8 93.62 100.9 7.81 0.1 266.28 282.63 6.14
2.1 เครื่องใช้ทำด้วยไม้ 21.62 22.59 24.96 10.5 15.45 61.39 67.34 9.69
2.2 อุปกรณ์ก่อสร้างไม้ 34.62 36.16 34.95 -3.35 0.95 88.99 107.69 21.01
2.3 กรอบรูปไม้ 30.83 21.56 24.24 12.4 -21.4 79.07 66.68 -15.7
2.4 รูปแกะสลักไม้ 13.76 13.31 16.78 26.1 21.95 36.83 40.92 11.11
3.ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้แผ่น 173.9 194.3 198.4 2.06 14.09 506.86 584.71 15.36
3.1 ไม้แปรรูป 70.14 68.47 69.79 1.93 -0.5 194.75 207.08 6.33
3.2 แผ่นไม้วีเนียร์ 2.7 1.82 3.02 65.9 11.85 5.61 6.57 17.11
3.3 ไม้อัด 51.67 57.6 54.94 -4.62 6.33 159.93 169.91 6.24
3.4 Fiber Board 41.35 51.66 56.19 8.77 35.89 111.86 157.3 40.62
3.5 ผลิตภัณฑ์ไม้อื่น ๆ 8 14.79 14.41 -2.57 80.13 34.71 43.85 26.33
รวม 551 560.2 595.8 6.35 8.15 1,582.42 1,720.43 8.72
ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ตารางที่ 4 มูลค่าการนำเข้าไม้และเครื่องเรือน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายการ เทียบกับ เทียบกับไตรมาส ปี 2549 ปี 2550 เทียบกับช่วงเดียวกันของ
ไตรมาส ไตรมาสก่อน เดียวกันของปีก่อน (ม.ค.-ก.ย.) (ม.ค.-ก.ย.) ปีก่อน
3/2549 2/2550 3/2550
ไม้ซุง 25.96 21.47 25.52 18.9 -1.7 73.96 72 -2.66
ไม้แปรรูป 92.96 90.4 96.24 6.46 3.53 281.6 279 -0.88
ไม้อัด วีเนียร์ 24.97 28.38 29.74 4.79 19.1 66.08 78.9 19.5
ผลิตภัณฑ์ไม้อื่นๆ 11.85 12.49 12.11 -3.04 2.19 32.02 37.1 15.8
รวม 155.7 152.7 163.6 7.12 5.05 453.6 467 2.97
ที่มา : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-