การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม 2563 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ 11.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการหดตัวของอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนมีนาคม 2563 อยู่ที่ร้อยละ 67.2
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรายสาขาสำคัญ
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม 2563 หดตัวร้อยละ 11.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนสาขาอุตสาหกรรมการผลิตสำคัญที่หดตัว อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม
อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาลดัชนีผลผลิตหดตัวร้อยละ 68.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก โรงงานน้ำตาลปิดหีบเร็วกว่าปีก่อน และปัญหาภัยแล้งส่งผลต่อการปลูกอ้อย ทำให้ผลิตน้ำตาลได้น้อยลง
อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ ดัชนีผลผลิตหดตัวร้อยละ 24.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและทั่วโลก และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ยอดขายในประเทศและการส่งออกลดลง
อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ดัชนีผลผลิตหดตัวร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซล เป็นหลัก เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดขอไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันในการเดินทางลดลง
สำหรับสาขาอุตสาหกรรมการผลิตสำคัญที่ขยายตัว อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต Hard Disk Drive อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปรับอากาศ และอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปและการถนอมผลไม้และผัก
อุตสาหกรรมการผลิต Hard Disk Drive ดัชนีผลผลิตขยายตัวร้อยละ 10.2เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่มีคำสั่งผลิตและส่งมอบสินค้าเพิ่มขึ้นหลัง Supply chain ในจีนมีปัญหา และการปิดฐานการผลิตที่มาเลเซียและฟิลิปปินส์
อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องปรับอากาศ ดัชนีผลผลิตขยายตัวร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจาก ญี่ปุ่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ส่งผลให้ผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น
อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปและการถนอมผลไม้และผัก ดัชนีผลผลิตขยายตัวร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นในสินค้ากะทิ เป็นหลักเนื่องจาก มีปริมาณวัตถุดิบมะพร้าวจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถจัดหาวัตถุดิบมาป้อนกระบวนการผลิตได้มากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ทำให้ผลิตสินค้าได้เพิ่มขึ้น
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม