ในเดือนเมษายน 2563 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) หดตัวร้อยละ 12.23 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) หดตัวร้อยละ 19.93 โดยสินค้าอุตสาหกรรมที่การส่งออกหดตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ(หักทอง) ด้านตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวดีในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดสหภาพตลาดยุโรป (27) อาเซียน (5) และ CLMV หดตัวลง
ในเดือนเมษายน 2563 การส่งออกรวมมีมูลค่า 18,948.22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 2.12 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาการส่งออกในหมวดสินค้าสำคัญพบว่า สินค้าอุตสาหกรรมมีมูลค่า14,773.38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 4.05 สินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่า 12,279.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 12.23 โดยหดตัวจากรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ(หักทอง) เป็นต้น ในส่วนสินค้าเกษตรกรรม มีมูลค่า 2,180.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 2.80 สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร มีมูลค่า 1,549.51 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 5.82
การนำเข้ามีมูลค่ารวม 16,485.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 17.13 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าเชื้อเพลิงมีมูลค่า 2,300.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 26.75 สินค้าทุนมีมูลค่า 4,379.04 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 14.41 โดยหดตัวจากเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ด้านสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่า 6,963.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 5.05 จากการนำเข้าสินแร่โลหะ (ทองแดง) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ด้านตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวดีในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป (27) อาเซียน (5) และ CLMV หดตัวลง
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ
ในเดือน เม.ย. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 2,687.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกอุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอดเป็นสำคัญ โดยขยายตัวร้อยละ 59.1 จากการส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และ CLMV
ในเดือน เม.ย. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 1,588.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 17.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกสินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบหดตัวร้อยละ 30.2 จากการส่งออกไปยังประเทศCLMV อาเซียน (5) และออสเตรเลีย การส่งออกเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบหดตัวร้อยละ 42.3 จากการส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น สหรัฐฯ และจีน ในขณะที่การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นขยายตัว
ในเดือน เม.ย. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 655.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 20.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนจากการส่งออกไปยังประเทศจีน CLMV อาเซียน (5) ญี่ปุ่น และอินเดีย ทั้งนี้การส่งออกเม็ดพลาสติกในเดือน เม.ย. 2563 เป็นการปรับลดลงทั้งด้านราคาและปริมาณการส่งออก โดยดัชนีราคาส่งออกเม็ดพลาสติกหดตัวร้อยละ 13.6 และปริมาณการส่งออกเม็ดพลาสติกหดตัวร้อยละ 4.9 ทั้งนี้ปริมาณการส่งออกในเดือน เม.ย. มีจำนวน 589.8 ล้านกิโลกรัม
ในเดือน เม.ย. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 1,249.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 49.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนตามการส่งออกรถยนต์เป็นสำคัญโดยหดตัวร้อยละ 67.75 จากการส่งออกไปตลาดสำคัญ เช่น ออสเตรเลีย อาเซียน (5) CLMV สหภาพยุโรป (27) และสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การส่งออกไปประเทศจีนและญี่ปุ่นขยายตัว
ในเดือน เม.ย. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 377.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 29.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเป็นการหดตัวตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยสินค้าต้นน้ำอย่างด้ายและด้ายเส้นใยประดิษฐ์หดตัวร้อยละ 52.9 เส้นใยประดิษฐ์หดตัวร้อยละ 38.9 จากการส่งออกไปประเทศสสหรัฐฯ เวียดนาม สินค้ากลางน้ำอย่างผ้าผืนหดตัวร้อยละ 38.8 จากการส่งออกไปประเทศ CLMV สินค้าปลายน้ำอย่างเสื้อผ้าสำเร็จรูปหดตัวร้อยละ 23.6 จากการส่งไปสหรัฐฯ
ในเดือน เม.ย. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 211.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 49.3 จากการส่งออกอัญมณีประเภท เพชร พลอยไปยังประเทศสหภาพยุโรป (27) สหรัฐอเมริกา ฮ่องกงและอินเดีย การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่าการส่งออก 2,705.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 332.6 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกทองคำแท่งที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป มูลค่า 2,493.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1,102.7 ไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ และฮ่องกง
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม