ในเดือนกรกฎาคม 2563 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) หดตัวร้อยละ 13.86 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) หดตัวร้อยละ 14.11 โดยสินค้าอุตสาหกรรมที่การส่งออกหดตัว ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ของรถยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ(หักทอง) เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ ด้านตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวได้มีเพียงประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดอาเซียน (5) สหภาพยุโรป (27) ญี่ปุ่น และ CLMV หดตัวลง
ในเดือนกรกฎาคม 2563 การส่งออกรวมมีมูลค่า 18,819.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 11.37 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาการส่งออกในหมวดสินค้าสำคัญพบว่า สินค้าอุตสาหกรรมมีมูลค่า15,210.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 10.26 สินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่า 13,570.31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 13.86 โดยหดตัวจากส่วนประกอบและอุปกรณ์ของรถยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ(หักทอง) เม็ดพลาสติก และเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ในส่วนสินค้าเกษตรกรรม มีมูลค่า 1,604.02 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 15.42 สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร มีมูลค่า 1,483.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 5.34
การนำเข้ามีมูลค่ารวม 15,476.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 26.38 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าเชื้อเพลิงมีมูลค่า 2,043.40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 37.33 สินค้าทุนมีมูลค่า 4,253.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 25.08 โดยหดตัวจากเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ด้านสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่า 6,183.51 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 21.80 จากการนำเข้าเคมีภัณฑ์ประเภทเม็ดพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และสินแร่โลหะ (ทองแดง)
ด้านตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวได้มีเพียงประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดอาเซียน (5) สหภาพยุโรป (27) ญี่ปุ่น และ CLMV หดตัวลง
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญ
ในเดือน ก.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 2,964.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกแผงวงจรไฟฟ้าเป็นสำคัญโดยหดตัวร้อยละ 9.4 จากการส่งออกไปยังประเทศฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา แต่การส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ยังคงขยายตัว
ในเดือน ก.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 1,857.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกสินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบหดตัวร้อยละ 12.2 จากการส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย และการส่งออกเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบหดตัวร้อยละ 23.3 จากการส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น ส่วนการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จีน และเกาหลีใต้ยังคงขยายตัว
ในเดือน ก.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 612.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 24.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนจากการส่งออกไปยังประเทศจีน CLMV อาเซียน (5) ญี่ปุ่น และอินเดีย ทั้งนี้การส่งออกเม็ดพลาสติกในเดือน ก.ค. 2563 เป็นการปรับลดลงทั้งด้านราคาและปริมาณการส่งออก โดยดัชนีราคาส่งออกเม็ดพลาสติกหดตัวร้อยละ 5.3 และปริมาณการส่งออกเม็ดพลาสติกหดตัวร้อยละ 15.0 ทั้งนี้ปริมาณการส่งออกในเดือน ก.ค. มีจำนวน 542.9 ล้านกิโลกรัม
ในเดือน ก.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 2,213.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 25.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนตามการส่งออกส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์เป็นสำคัญโดยหดตัวร้อยละ 43.0 จากการส่งออกไปตลาดสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย ส่วนการส่งออกส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เวียดนาม และออสเตรเลียยังขยายตัว
ในเดือน ก.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 459.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 22.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเป็นการหดตัวตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยสินค้าต้นน้ำอย่างด้ายและด้ายเส้นใยประดิษฐ์หดตัวร้อยละ 30.5 เส้นใยประดิษฐ์หดตัวร้อยละ 26.2 จากการส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น สินค้ากลางน้ำอย่างผ้าผืนหดตัวร้อยละ 31.5 จากการส่งออกไปประเทศ CLMV สินค้าปลายน้ำอย่างเสื้อผ้าสำเร็จรูปหดตัวร้อยละ 23.0 จากการส่งไปสหรัฐอเมริกา
ในเดือน ก.ค. 2563 มีมูลค่าการส่งออก 351.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 39.9 จากการส่งออกอัญมณีประเภท เพชร พลอยไปยังประเทศฮ่องกง อินเดีย และสหภาพยุโรป(27) การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่าการส่งออก 1,992.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกทองคำแท่งที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป มูลค่า 1,640.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 37.2 ไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ และอินเดีย
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม