กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนกันยายน 2564 ขยายตัว
ดีขึ้น โดยภาพรวมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) อยู่ที่ระดับ 93.72 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.49 เมื่อเทียบกัน
กับเดือนก่อน โดย 9 เดือนแรกขยายตัวร้อยละ 6.10 จากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
สะท้อนได้จากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.99 รวมทั้งดัชนีการส่งสินค้า
เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.72 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน อีกทั้งภาครัฐมีแผนการเปิดประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับ
ผู้ประกอบการและนักลงทุน นอกจากนี้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองค อาวุธ รถถัง และ
อากาศยาน) โตขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 17.90 อก. เตรียมปรับเป้า MPI ใหม่ทั้งปีในเดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาราคาน้ มัน และค่าเงินบาทที่ผันผวน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์
ภาคการผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI เดือนกันยายน 2564 กลับมา
ขยายตัวได้อีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เห็นได้จากจ นวน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ประกอบกับการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนและแรงงานในภาคอุตสาหกรรม โดยสะท้อน
ได้จากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรม และดัชนีการส่งสินค้าในเดือนกันยายน 2564 เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ
อุตสาหกรรมส คัญที่ดัชนีแรงงานขยายตัว เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องปรับอากาศ
และอุตสาหกรรมแปรรูปผักและผลไม้ เป็นต้น ส่งผลให้ภาครัฐสามารถผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจได้มากขึ้น
ประกอบกับภาครัฐยังได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ขณะเดียวกันนโยบายการเปิดประเทศ
ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยหนุนส คัญที่จะท ให้ดัชนี MPI ขยายตัวต่อไปได้
นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมโดยส นักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. จะมีการปรับประมาณการณ์
ตัวเลขดัชนี MPI ปี 2564 ใหม่อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาราคาน้ มันที่ปรับตัวสูงขึ้น
รวมถึงค่าเงินบาทที่มีความผันผวนด้วยเช่นกัน
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อ นวยการส นักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกันยายน อยู่ที่ระดับ 93.72 หดตัวลงเล็กน้อยร้อยละ 1.28 เมื่อเทียบกับ
เดือนเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าขยายตัวร้อยละ 7.49 โดย 9 เดือนแรกขยายตัว
ร้อยละ 6.10 โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมหลักของประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส หรับไตรมาส
3/2564 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 90.43 จากสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแรงงานใน
สถานประกอบการมีทิศทางที่ดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมเดือนกันยายนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนี
แรงงานในอุตสาหกรรมส คัญหลายกลุ่มยังคงขยายตัว อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวร้อยละ 10.85
แปรรูปผักผลไม้ขยายตัวร้อยละ 5.86 เครื่องปรับอากาศขยายตัวร้อยละ 9.76 และยางล้อขยายตัวร้อยละ
3.42 แต่อย่างไรก็ตาม การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังส่งผลต่อการขาด
แคลนชิปและชิ้นส่วนรถยนต์บางรายการ แต่ในเดือนกันยายนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น
โดยโรงงานผลิตรถยนต์ได้รับส่งมอบชิปและชิ้นส่วนรถยนต์ได้มากขึ้น ด้านสถาบันการเงินเริ่มผ่อนคลายความ
เข้มงวดในการอนุมัติ ท ให้คาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศน่าจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปีที่ 750,000
คัน ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตขยายตัวต่อเนื่องตามกัน ขณะที่สถานการณ์น้ ท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดของ
ประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรมอย่างมีนัยส คัญ แต่ทั้งนี้อาจส่งผลกระทบบ้าง
ในด้านโลจิสติกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพิงวัตถุดิบทางการเกษตรอาจจะได้รับผลกระทบบ้างในระยะ
ถัดไป
อย่างไรก็ตาม ส หรับการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มของการขยายตัวที่ดี โดยการส่งออกสินค้า
อุตสาหกรรมเดือนกันยายน 2564 ขยายตัวร้อยละ 15.75 มูลค่า 18,424.90 ล้านเหรียญ การส่งออกสินค้า
อุตสาหกรรม (ไม่รวมทองค อาวุธ รถถังและอากาศยาน) ขยายตัวร้อยละ 17.90 มูลค่า 18,093.70
ล้านเหรียญ โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ส คัญ ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก
รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ในส่วนการน เข้าสินค้าทุนขยายตัวร้อยละ 16.06
ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ รวมถึงการน เข้าสินค้าวัตถุดิบและ
กึ่งส เร็จรูป (ไม่รวมทองค ) ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 43.56 ได้แก่ เคมีภัณฑ์เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์เป็นต้น
อุตสาหกรรมหลักที่ดัชนีผลผลิตที่ส่งผลบวกขยายตัวในเดือนกันยายน 2564
ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.12
ตามความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกที่ยังขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่ว
โลกในปีก่อน รวมถึงสินค้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ผลิตออกมามีการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนประกอบ
เพิ่มขึ้นมาก
เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.61
จากเหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี และเหล็กแผ่นรีดร้อน เป็นหลัก ตามความต้องการใช้
ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ยังคงเติบโต และเป็นไปตามกลไกตลาดที่ราคาเหล็กปรับตัวสูง ลูกค้าจึงเพิ่มค สั่งซื้อเพื่อ
เก็บเป็นสต๊อกมากขึ้น
เครื่องปรับอากาศ และชิ้นส่วน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.24 เนื่องจาก
ปีก่อนผู้ผลิตประสบปัญหาการขาดชิ้นส่วนเพื่อผลิตจากการระบาดของโควิด-19 ประกอบกับปีนี้ผู้ผลิต
ได้ปรับแผนการผลิตเพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยการผลิตที่ลดลงมากจากการติดเชื้อภายในโรงงานในเดือนที่ผ่านมา
ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.32 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปี
ก่อน จากยางแท่งและยางแผ่นเป็นหลัก เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน และอเมริกา
รวมถึงได้รับค สั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกาและอินเดีย เพิ่มขึ้น
บุหรี่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 71.29 จากการเร่งผลิตเพื่อรองรับค สั่งซื้อ
จากตัวแทนจ หน่ายที่เพิ่มขึ้นมาก หลังรับข่าวการปรับโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ที่จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคม 2564
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม