สศอ.อัดงบ 250 ล้านฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 5, 2008 15:44 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

สศอ. แนะผู้ประกอบการยิ้มสู้วิกฤตเศรษฐกิจโลก เตรียมอัดงบ 250 ล้านบาท สร้างภูมิคุ้มกันอุตฯ ถอยอย่างมีเชิง รุกอย่างมีกึ๋น

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2552 สศอ. ได้เตรียมอัดฉีดงบประมาณกว่า 250 ล้านบาท เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ซึ่งเสมือนเป็นการเตรียมการเชิงรุกอย่างมีชั้นเชิง โดยงบประมาณดังกล่าวจะกระจายในรูปโครงการศึกษาวิจัยเพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเป็นหลัก

“งบ 250 ล้านบาทนี้ จะถูกกระจายไปในรายสาขาอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งสิ้น 18 โครงการ โดยแบ่งออกเป็นสาขา อุตสาหกรรมอาหาร จำนวน 6 โครงการ 59.5 ล้านบาท เช่นโครงการยกระดับความปลอดภัยในการผลิตอาหารที่ฆ่าเชื้อด้วยความร้อนและอาหารสุกแช่แข็ง อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน จำนวน 2 โครงการ 80 ล้านบาท คือ โครงการพัฒนาระบบบริหารการผลิต และโครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 3 โครงการ 45 ล้านบาท คือ โครงการพัฒนาศักยภาพแรงงานในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โครงการส่งเสริมการสร้างโครงข่ายเชื่อมโยงธุรกิจให้เป็นมาตรฐาน และโครงการเพิ่มผลผลิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อุตสากรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จำนวน 3 โครงการ 23.5 ล้านบาท คือ โครงการพัฒนาความสามารถบุคลากรด้านเทคโนโลยีและด้านบริหาร โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสนองความต้องการในประเทศและกลุ่มอาเซียน โครงการพัฒนาและจัดการระบบการผลิตในอุตสาหกรรมสิ่งทอให้เป็นระบบการผลิตแบบลีน อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า จำนวน 3 โครงการ 35 ล้านบาท คือ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพและกระบวนการผลิตชิ้นส่วน โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์ และนอกจากนี้ยังมี งบเพื่อการสนับสนุนอื่นๆ อีก 7 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่อัดฉีดลงไปนี้ จะเป็นการ

ช่วยพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการให้เพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตจะช่วยให้เกิดการเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเช่นนี้ หากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อวิกฤตเศรษฐกิจจะทำให้สูญเสียโอกาสบางประการ ซึ่งเมื่อการส่งออกชะลอตัว ลงมาบ้าง ยอดขายลดลงบ้าง จึงควรมองว่าเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะแต่ประเทศไทยเท่านั้น และการที่ประเทศไทยเคยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 ถือว่าเป็นบทเรียนที่ทำให้เราสามารถมองหาช่องทางคลี่คลายวิกฤตได้ต่อไป ดังนั้น ณ ขณะนี้ควรหันไปสู่ การสร้างภูมิคุ้มกันให้การประกอบการ เดินหน้าอย่างมีระบบ เดินหมากเดินเกมอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางการค้า และสูญเสียตลาดหลักไป และโครงการภายใต้งบประมาณที่ตั้งไว้นั้น จะเป็นการช่วยสนับสนุนได้อีกทางหนึ่ง และที่สุดแล้วย่อมมาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายจึงจะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย เสมือนว่า ถอยอย่างมีเชิง รุกอย่างมีกึ๋นนั่นเอง

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ