สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่3(กรกฎาคม-กันยายน)พ.ศ.2551(อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า)

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 24, 2008 15:27 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

1. สถานการณ์ปัจจุบัน

การผลิต

ปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 มีประมาณ 2,064,381 เมตริกตัน ( ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่ง สำเร็จรูป เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบและท่อเหล็กเพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำ ) ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.14 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของ ปีก่อนและเมื่อพิจารณาในรายผลิตภัณฑ์ พบว่า ผลิตภัณฑ์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงนี้ คือ เหล็กทรงยาว เพิ่มขึ้น ร้อยละ 31.21 โดยเป็นผลมา จากในช่วงเดือนกรกฎาคมผู้ผลิตยังคงผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกยังคงสูงอยู่ จึงทำให้พ่อค้าคนกลางยังคงสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น โดยส่วน หนึ่งเพื่อเก็บไว้เป็นสต๊อก แต่พอช่วงต้นเดือนสิงหาคมราคาเหล็กในตลาดโลกกลับลดลง ประกอบกับความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ยังคง ทรงตัวอยู่ จึงทำให้ทั้งผู้ผลิตและพ่อค้าคนกลางมีสต๊อกสะสมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ผู้ผลิตลดการผลิตลง ซึ่งผลจากการ ที่ราคาเหล็กในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงเช่นนี้มีผลให้ทั้งผู้ผลิตและพ่อค้าคนกลางประสบปัญหาต้นทุนวัตถุดิบสูง ขณะที่ความต้องการใช้ยังคงทรงตัวอยู่รอง ลงมาคือ เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก เพิ่มขึ้น ร้อยละ 32.51 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน และเหล็กแผ่นเคลือบชนิดอื่นๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.12 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตลดลง มากที่สุด คือ เหล็กแผ่นรีดร้อน ลดลง ร้อยละ 11.38 โดยเป็นผลมาจากในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 ผู้ผลิต ขยายการผลิตเพิ่มขึ้นจากความต้องการของตลาดต่างประเทศ เช่น ประเทศในกลุ่ม BRIC (ได้แก่ประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดียและจีน) ที่ยังคง ขยายตัวอยู่ จึงมีผลให้ผู้ผลิตเพิ่มการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงของเหล็กแผ่นรีดร้อนในไตรมาสที่ 3 ลดลง รายละเอียดตาม ตารางที่ 1

ตารางที่ 1 : ปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2550

หน่วย : เมตริกตัน

                 ผลิตภัณฑ์(1)                     ไตรมาสที่ 3      ไตรมาสที่ 3        อัตราการ
                                                  ปี 2551         ปี 2550      เปลี่ยนแปลง

(ร้อยละ)

ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป(Semi-Finished Products)    1,372,313      1,442,000          -4.83
เหล็กทรงยาว(Long Products)                      1,195,798        911,337          31.21
เหล็กทรงแบน(Flat Products)                      1,546,890      1,652,659           -6.4
เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-rolled Flat)                    868,583        980,129         -11.38
เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-rolled Flat)                   432,937        445,145          -2.74
เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-rolled Flat)                    868,583        980,129         -11.38
เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-rolled Flat)                   432,937        445,145          -2.74
เหล็กแผ่นเคลือบ (Coated Steel)                      245,370        227,385           7.91
     - เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี(Galvanized Sheet)        66,058         70,573           -6.4
     - เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก  (Tin plate)               64,928         48,998          32.51
     - เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม (Tin free)             38,071         36,575           4.09
     - อื่นๆ (other coated steel)                   76,313         71,239           7.12
ท่อเหล็ก (Pipes & Tubes)                               N/A            N/A            N/A
รวม(1)                                         2,064,381      1,891,466           9.14
          ที่มา        :      สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

หมายเหตุ(1) : ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบ และท่อเหล็กเพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำ

การใช้ในประเทศ(ก)

ปริมาณการใช้เหล็กและเหล็กกล้าในประเทศที่สำคัญในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 ประมาณ 3,304,537 เมตริกตัน ขยายตัวขึ้น ร้อยละ 19.79 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากความต้องการใช้ในประเทศของเหล็กทรงยาวที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 31.33 อย่างไรก็ ตาม ความต้องการใช้ในประเทศของเหล็กทรงยาวจะรวมถึงปริมาณสต๊อกของพ่อค้าคนกลางและผู้ผลิตไว้ด้วย จึงมีผลทำให้ตัวเลขความต้องการใช้ใน เหล็กทรงยาวเพิ่มขึ้นทั้งที่สถานการณ์อุตสาหกรรมก่อสร้างซึ่งเป็นผู้ใช้ที่สำคัญของเหล็กทรงยาวยังคงชะลอตัวอยู่ สำหรับเหล็กทรงแบน มีความต้องการ ใช้ในประเทศเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.22 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ยังคงดีอยู่ อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ผลิต เหล็กทรงแบนยังคงมีสต๊อกอยู่ด้วยแต่ไม่มากเท่ากับสต๊อกของเหล็กทรงยาว

(ก) ข้อมูลการใช้ในประเทศจะเป็นปริมาณการใช้ปรากฎ (Apparent Steel Use) ซึ่งรวมสต๊อกไว้ด้วย

การนำเข้า-การส่งออก

การนำเข้า

มูลค่าและปริมาณการนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 มีจำนวนประมาณ 104,131 ล้านบาท และ 2,844,678 เมตริกตัน โดยมูลค่าและปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 125.59 และ 46.82 ประเทศที่มีการนำเข้ามากที่สุด ได้แก่ ประเทศ ญี่ปุ่นและรัสเซีย ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เหล็กแท่งเล็ก (Billet) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 423.99 เนื่องจากผู้ผลิตในกลุ่มเหล็กทรงยาวคาดการณ์ว่าราคาเหล็กจะสูงมากขึ้น จึงสั่งวัตถุดิบ คือ เหล็กแท่งเล็ก (Billet) ในปริมาณมากเพื่อ เก็บเป็นสต๊อกวัตถุดิบ รองลงมาคือ ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 225.24 และเหล็กแท่งแบน (Slab) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 209.57

ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการนำเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เหล็กแท่งแบน (Slab) มีมูลค่า 20,162 ล้านบาท รองลงมาคือ เหล็กแผ่น บางรีดร้อน มีมูลค่า 14,012 ล้านบาท และเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน มีมูลค่า 9,907 ล้านบาท รายละเอียดตามตารางที่ 2

ตารางที่ 2 : ปริมาณและมูลค่าการนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2550

หน่วย : ปริมาณ: เมตริกตัน

มูลค่า : ล้านบาท

   ผลิตภัณฑ์                                              ไตรมาสที่ 3                  ไตรมาสที่ 3          อัตราการ         ตลาดนำเข้า
                                                         ปี 2551                    ปี 2550           เปลี่ยนแปลง          ที่สำคัญ

(ร้อยละ)

                                                     ปริมาณ       มูลค่า        ปริมาณ      มูลค่า     ปริมาณ      มูลค่า

ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป(Semi-Finished Products)      1,024,195     31,162      526,402     9,445     94.57     229.9        รัสเซีย
   - เหล็กแท่งเล็ก (Billet)                           310,148      8,819       90,725     1,683     241.9       424     ยูเครน รัสเซีย
   - เหล็กแท่งแบน (Slab)                             633,352     20,162      364,205     6,513      73.9     209.6     รัสเซีย บราซิล
   - อื่นๆ (Others)                                   80,695      2,181       71,471     1,249     12.91     74.63      จีน ยูเครน
เหล็กทรงยาว(Long Products)                          215,274      7,992      174,747     3,975     23.19     101.1       จีน ญี่ปุ่น
   - เหล็กเส้น (Bar)                                  68,497      2,475       60,958     1,526     12.37      62.2       ญี่ปุ่น จีน
   - เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ                              7,555        394        2,929       130     157.9     204.2     ญี่ปุ่น สิงคโปร์
รีดร้อน (HR sections )
   - เหล็กลวด (Wire rods)                           139,222      5,122      110,859     2,319     25.58     120.9       จีน ญี่ปุ่น
เหล็กทรงแบน(Flat Products)                        1,472,450     54,386    1,236,371    32,740     19.09     66.11         ญี่ปุ่น
   เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-Rolled Flat Products)          720,652     23,118      656,418    13,540      9.79     70.74         ญี่ปุ่น
    - เหล็กแผ่นหนารีดร้อน(HR plate)                     34,225      1,572       28,940       948     18.26     65.87       ญี่ปุ่น จีน
    - เหล็กแผ่นบางรีดร้อน(HR sheet)                    428,662     14,012      426,388     8,134      0.53     72.26    ญี่ปุ่นออสเตรเลีย
    - เหล็กแผ่นบางรีดร้อนชนิดผ่านการกัดล้างและชุบน้ำมัน       257,766      7,534      201,091     4,458     28.18     69.01     ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
(HR sheet P&O )
เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-Rolled Flat  Products)           256,703     11,639      190,724     7,480     34.59      55.6         ญี่ปุ่น
    - เหล็กแผ่นรีดเย็น(CR carbon steel)                226,728      8,333      154,931     4,204     46.34     98.21     ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
    - เหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม(CR stainless steel)         29,975      3,307       35,793     3,276    -16.25      0.93       ญี่ปุ่น จีน
เหล็กแผ่นเคลือบ(Coated Steel Products)                495,094     19,629      389,229    11,721      27.2     67.47         ญี่ปุ่น
   - เคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน(Galv. Sheet (HDG)          280,843      9,907      234,409     6,592     19.81     50.28     ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
   - เคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า(Galv. Sheet (EG)             52,801      2,078       37,004     1,101     42.69     88.77       ญี่ปุ่น จีน
   - เคลือบดีบุก (Tin plate)                           38,336      1,724       30,078       965     27.46     78.61       เกาหลีใต้
   - เคลือบโครเมียม(Tin free)                         19,275        958       15,261       510     26.31     87.78    เกาหลีใต้ ไต้หวัน
   - อื่นๆ (Others)                                  103,838      4,962       72,477     2,552     43.27     94.42     ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
ท่อเหล็ก (Pipe)                                      132,760     10,591      219,492     3,411    -39.51    210.53       จีน ญี่ปุ่น
   - ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ(Pipe-Seamless)                   94,907      6,989      182,471     2,149    -47.99    225.24   จีน สหราชอาณาจักร
   - ท่อเหล็กมีตะเข็บ (Pipe-Welded)                     37,853      3,602       37,021     1,262      2.25    185.48     ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
รวม                                              2,844,678    104,131    1,937,520    46,160     46.82    125.59      ญี่ปุ่น รัสเซีย

ที่มา : กรมศุลกากร

การส่งออก

มูลค่าและปริมาณการส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 มีจำนวนประมาณ 23,358 ล้านบาท และ 554,870 เมตริกตัน โดยมูลค่าการส่งออก เพิ่มขึ้น ร้อยละ 39.73 แต่ปริมาณการส่งออกกลับลดลง ร้อยละ 13.59 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากเมื่อปีที่แล้ว ความต้อง การใช้เหล็กของตลาดต่างประเทศ เช่น ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง ขยายตัว ทำให้ผู้ผลิตไทยส่งออกเพิ่มมาก ขึ้นแต่ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2551 นี้ ความต้องการใช้เหล็กของตลาดในประเทศกลุ่มนี้ลดลงเนื่องสถานการณ์เศรษฐกิจของแต่ละประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ (Subprime) จึงมีผลทำให้การเปลี่ยนแปลงปริมาณการส่งออกในช่วงนี้ลดลง

ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เหล็กแท่งแบน (Slab) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10,959.13 เหล็กลวด เพิ่มขึ้น ร้อยละ 463.40 และเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 332.74 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่ง ออกลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปชนิดอื่นๆ ลดลง ร้อยละ 99.67 รองลงมาคือ เหล็กแผ่น เคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า ลดลง ร้อยละ 34.08 และเหล็กแผ่นรีดเย็น ลดลง ร้อยละ 15.64

ผลิตภัณฑ์ที่มีการมูลค่าการส่งออกมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เหล็กแผ่นบางรีดร้อน มีมูลค่า 3,368 ล้านบาท รองลงมาคือ ท่อเหล็ก มีตะเข็บ มีมูลค่า 3,191 ล้านบาท และเหล็กแผ่นหนารีดร้อน มีมูลค่า 2,846 ล้านบาท ตามลำดับ รายละเอียดตามตารางที่ 3

ตารางที่ 3 : ปริมาณและมูลค่าการส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2550

หน่วย : ปริมาณ: เมตริกตัน

มูลค่า : ล้านบาท

   ผลิตภัณฑ์                                            ไตรมาสที่ 3             ไตรมาสที่ 3                อัตราการ               ตลาดส่งออก
                                                       ปี 2551                ปี 2550                เปลี่ยนแปลง                ที่สำคัญ

(ร้อยละ)

                                                   ปริมาณ      มูลค่า      ปริมาณ      มูลค่า        ปริมาณ        มูลค่า

ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป(Semi-Finished Products)       36,468     1,184     43,219       753      -15.62        57.27           เวียดนาม
   - เหล็กแท่งเล็ก (Billet)                          31,374     1,014     37,145       647      -15.54        56.83           เวียดนาม
   - เหล็กแท่งแบน (Slab)                             5,093       170         66         2    7,624.96    10,959.13            ไต้หวัน
   - อื่นๆ (Others)                                      1         0      6,008       105      -99.98       -99.67            กัมพูชา
เหล็กทรงยาว(Long Products)                         97,766     3,725     86,045     2,079       13.62        79.22        มาเลเซีย  กัมพูชา
   - เหล็กเส้น (Bar)                                32,707     1,048     22,640       427       44.47       145.43          กัมพูชา ลาว
   - เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (HR sections)        51,179     2,187     58,923     1,565      -13.14        39.79           มาเลเซีย
   - เหล็กลวด (Wire rods)                          13,881       490      4,482        87      209.71        463.4        เวียดนามสิงคโปร์
เหล็กทรงแบน(Flat Products)                        349,802    14,679    457,824    11,143      -23.59        31.74         สหรัฐอเมริกา
   เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-Rolled Flat Products)        235,652     8,674    313,654     6,291      -24.87        37.89          สหรัฐอเมริกา
    - เหล็กแผ่นหนารีดร้อน(HR plate)                   69,716     2,846     54,800     1,159       27.22       145.58          สหรัฐอเมริกา
    - เหล็กแผ่นบางรีดร้อน(HR sheet)                   92,474     3,368    174,504     3,528      -47.01        -4.54     ซาอุดิอาระเบีย อินโดนีเซีย
   - เหล็กแผ่นบางรีดร้อนชนิดผ่านการกัดล้างและชุบน้ำมัน       73,462     2,460     84,350     1,604      -12.91         53.4           เวียดนาม
(HR sheet P&O )
เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-Rolled Flat  Products)          67,142     3,781     95,547     3,268      -29.73         15.7             ญี่ปุ่น
    - เหล็กแผ่นรีดเย็น(CR carbon steel)               42,356     1,549     82,691     1,837      -48.78       -15.64            ญี่ปุ่น จีน
    - เหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม(CR stainless steel)       24,787     2,232     12,856     1,432        92.8        55.91        อินเดีย อินโดนีเซีย
เหล็กแผ่นเคลือบ(Coated Steel Products)               47,008     2,224     48,623     1,584       -3.32        40.41             พม่า
    - เคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน(Galv. Sheet (HDG))       13,185       562      1,882       130      600.72       332.74           พม่า ลาว
    - เคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า(Galv. Sheet (EG))          2,740       106      6,006       160      -54.39       -34.08     มาเลเซีย  สหรัฐอเมริกา
    - เคลือบดีบุก (Tin plate)                           186        10        188         8        -0.6         16.7         ลาว ปากีสถาน
    - เคลือบโครเมียม(Tin free)                       2,013        89        834        31      141.26       186.65           พม่า ลาว
    - อื่นๆ (Others)                                28,884     1,457     39,714     1,254      -27.27        16.18            อินเดีย
ท่อเหล็ก (Pipe)                                     70,833     3,769     55,034     2,742       28.71        37.47          สหรัฐอเมริกา
   - ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ(Pipe-Seamless)                  5,699       578      4,017       535       41.87         8.05       ซาอุดิอาระเบีย  พม่า
   - ท่อเหล็กมีตะเข็บ (Pipe - Welded)                 65,135     3,191     51,017     2,207       27.67        44.61    สหรัฐอเมริกา  ออสเตรเลีย
รวม                                              554,870    23,358    642,122    16,716      -13.59        39.73          สหรัฐอเมริกา

ที่มา : กรมศุลกากร

2. สรุป

สถานการณ์เหล็กโดยรวมในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน พบว่าการผลิตโดยรวมขยายตัวขึ้น ร้อยละ 9.14 ความต้องการใช้ในประเทศ ขยายตัวขึ้น ร้อยละ 19.79 แต่ความต้องการใช้ในประเทศที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสต๊อกสินค้าของพ่อ ค้าคนกลาง สำหรับมูลค่าและปริมาณการนำเข้า เพิ่มขึ้น ร้อยละ 125.59 และ 46.82 ตามลำดับ โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้า เหล็กแท่งเล็ก (Billet) และท่อเหล็กไร้ตะเข็บ ที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 423.99 และ 225.24 ตามลำดับ สำหรับมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 39.73 แต่ปริมาณการส่งออก ลดลง ร้อยละ 13.59 เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่ม สหภาพยุโรปลดลง ตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ

สำหรับสถานการณ์ราคาผลิตภัณฑ์เหล็กที่สำคัญ(FOB) ในตลาดโลกจาก CIS ณ ท่า Black Sea ณ วันที่ 25 กันยายน 2551 เป็นดังนี้

  • ราคาเศษเหล็ก ( EU Shredded) 315 เหรียญสหรัฐ
  • ราคาเหล็กแท่งเล็กบิลเล็ต 615 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กเส้น 675 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กแท่งแบน 1,085 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อน 1,130 เหรียญสหรัฐต่อตัน
  • ราคาเหล็กแผ่นรีดเย็น 1,168 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ซึ่งพบว่าราคาผลิตภัณฑ์เหล็กที่สำคัญในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม2551 ทั้งนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์ทาง เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กของประเทศที่เคยเป็นผู้ใช้เหล็กที่สำคัญของโลก ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รวมถึง ประเทศในกลุ่มอาเซียนลดลง นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากความต้องการในธุรกิจก่อสร้างของประเทศในกลุ่ม ตะวันออกกลาง และ ยุโรปใต้ ที่ชะลอตัว ลงด้วย

สำหรับราคาเหล็กในประเทศได้ปรับตัวลดลงด้วยโดยเป็นผลมาจากราคาเศษเหล็กในตลาดโลกที่ลดลง ประกอบกับความต้องการในธุรกิจ ก่อสร้างของประเทศที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ผู้ผลิตที่เพิ่มการผลิตและพ่อค้าคนกลางมีสต๊อกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการที่ภาวะความต้องการใช้เหล็กในประเทศ ชะลอตัวลงทำให้การแข่งขันของผู้ผลิตโดยเฉพาะผู้ผลิตในกลุ่มเหล็กเส้นมีมากขึ้น โดยผู้ผลิตในกลุ่มที่มีเตาหลอมซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าจะสามารถ ขายตัดราคาเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากผู้ผลิตที่ไม่มีเตาหลอมได้

จากปัญหาสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ทำให้ความต้องการเหล็กในตลาดโลกลดลงอย่างมาก ส่งผลให้ผู้ผลิตเหล็กอันดับหนึ่งของโลก คือ บ. ArcelorMittal ตัดสินใจหยุดแผนการลงทุนในไตรมาสที่ 4 ลงจนกว่าปัญหาเศรษฐกิจจะคลี่คลายลง ทั้งนี้ ผู้บริหารทางการเงินของบริษัทออก มายืนยันว่าโครงการต่างๆที่ได้วางแผนไว้ยังไม่ได้ยกเลิกแต่อาจจะต้องชะลอไว้ชั่วคราว โดยสิ่งที่บริษัทจะต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก คือลดการผลิต ลงให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ รวมถึงโครงการต่างๆที่ยังไม่เริ่มจะต้องหยุดชั่วคราวเพื่อลดเงินงบประมาณลง นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะลด อัตราการใช้กำลังการผลิตลงให้ต่ำกว่า 65% ในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากปริมาณสินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูง

European Confederation of Iron and Steel Industries (Eurofer) คาดการณ์ว่าการบริโภคเหล็กในหลายประเทศของ ภูมิภาคยุโรปน่าจะลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 เนื่องจากความต้องการที่ลดลงจากการซบเซาในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและยานยนต์ ส่งผลให้ ยอดการสั่งซื้อชะลอตัวลงประมาณ 1.1 % ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551

จากการที่บริษัทผู้ผลิตแร่เหล็กในประเทศบราซิล คือ บริษัท Vale จะปรับขึ้นราคาแร่เหล็กในปี 2552 อีก ร้อยละ 13ซึ่งส่งผลให้รอง ประธานสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) ได้กล่าวที่งานสัมมนาว่า อุตสาหกรรมเหล็กของจีนอาจร่วมกันหยุดการซื้อแร่เหล็กของ บริษัท Vale เพื่อเป็นการตอบโต้ที่บริษัทดังกล่าวจะขึ้นราคาแร่เหล็ก โดยผู้ประกอบการจากโรงงานเหล็กของจีนได้กล่าวว่า โรงงานจะให้การสนับสนุนการเคลื่อน ไหวของ CISA และได้เตรียมพร้อมที่จะหยุดการใช้แร่เหล็กของ บ.Vale ด้วย

กระทรวงการคลังของประเทศเวียดนามได้ประกาศยกเลิกภาษีส่งออกของสินค้าเหล็กแท่งเล็กบิลเล็ตที่เก็บร้อยละ 5 โดยประกาศนี้จะมี ผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เป็นผลมาจาก Vietnam Steel Association (VSA) ได้ยื่นคำขอให้มีการยกเลิกภาษีนี้เพื่อ เป็นการช่วยเหลืออุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศ

3.แนวโน้ม

แนวโน้มสถานการณ์เหล็กโดยรวมในประเทศในไตรมาสที่ 4 ปี 2551 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2551 คาดการณ์ว่าการผลิตของ เหล็กทรงยาวจะลดลงเนื่องจากสถานการณ์ความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ยังคงชะลอตัวอยู่ จึงทำให้ปริมาณสินค้าคงคลังที่ทั้งผู้ผลิตและ พ่อค้าคนกลางสะสมไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงกลางปียังคงมีอยู่ ส่งผลให้ผู้ผลิตลดการผลิตลง สำหรับการผลิตของเหล็กทรงแบนคาดการณ์ว่าจะขยายตัวตาม อุตสาหกรรมต่อเนื่อง สำหรับแนวโน้มการส่งออกคาดการณ์ว่าจะทรงตัวอันเป็นผลมาจากความต้องการใช้ในตลาดของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็น ตลาดที่สำคัญของประเทศไทยได้ชะลอตัวลงจากปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ ขณะที่แนวโน้มการนำเข้าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในส่วนของเหล็กคุณภาพสูงซึ่งใช้ใน อุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ