สศอ.เผยดัชนีอุตฯ เดือน มี.ค.52 ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการลดลงเริ่มชะลอตัวโดยติดลบลดลงเหลือ -17.74% ทุเลาลง จากเดือนก่อนที่ติดลบถึง 23.07% อุตฯ ฮาร์ดดิสก์เริ่มสดใส จากยอดคำสั่งซื้อเพิ่มในไตรมาส 2 คาดปีนี้หากการเมืองคลี่คลายลงทุนน่าจะเพิ่ม
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)และรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดัชนีผล ผลิตอุตสาหกรรมเดือน มี.ค.52 ถึงแม้จะยังคงติดลบ -17.74% แต่เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 เมื่อเทียบกับ เดือน ม.ค.ที่ติดลบถึง -25.6% และส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือน มี.ค.อยู่ที่ระดับ 54.46% เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ.ที่อยู่ในระดับ 50.0% ทั้งนี้สอดคล้องกับอุตสาหกรรม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในสินค้าฮาร์ดดิสก์ ที่ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศจีนมีอัตราการขยายตัวสูงขึ้น จากการที่ลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อ สินค้าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และปัจจัยหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาด ส่งผลให้ การจ้างงานในอุตสาหกรรมเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก เพราะลูกค้าเริ่มสั่งซื้อ สินค้าเข้ามาต่อเนื่อง รวมทั้งปริมาณสินค้าคงคลังในหลายอุตสาหกรรมอยู่ในระดับที่ต่ำทำให้หลายอุตสาหกรรมเริ่มมีการผลิตเพื่อรักษาสภาพสินค้า คงคลังของตนเอง นอกจากนี้ นักลงทุนหลายรายเข้ามาดูพื้นที่ในเขตนวนคร โดยเฉพาะนักลงทุนจากอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน แต่ทั้งนี้ต้องรอการ ตัดสินใจ และดูสถานการณ์ครึ่งปีแรกก่อน หากปัญหาด้านการเมืองคลี่คลายลง คาดว่าในปีนี้จะมีการลงทุนใหม่ๆเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามถึงแม้อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นจากช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนภาวะ การผลิตและการจำหน่ายยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ากว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่า -7.4% และ -8.7% สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังส่งผล กระทบอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับฐานการส่งออกในปีก่อนยังคงอยู่ในระดับสูงจากที่มีการขยายกำลังการผลิต เช่นเดียวกันในอุตสาหกรรมหลักๆ ที่ยังคง หดตัวติดลบอย่างต่อเนื่อง เช่น การผลิตยานยนต์ การผลิตเครื่องปรับอากาศ การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป
การผลิตยานยนต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ภาวะการผลิตและการจำหน่ายปรับตัวลดลงต่อเนื่อง -51.5% และ -47.8% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว นอกจากนี้ สถานการณ์การเมืองในประเทศฉุดการฟื้นตัวในประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดรถยนต์ โดยมีตลาดรถปิกอัพ 1 ตัน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีการจำหน่ายปรับลดลงจากปีก่อนถึง -46.5% เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ไม่เกิน 1800cc. การจำหน่ายปรับลดลงจากปีก่อน -34.9%
การผลิตเครื่องปรับอากาศ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดการผลิตและการจำหน่ายปรับตัวลดลง -45.5% และ -33.0% ตาม ลำดับ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกในปีนี้ที่ตกต่ำ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง และระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเครื่องปรับอากาศเป็นสินค้า ที่มีราคาค่อนข้างสูงจึงมียอดขายที่ลดลง โดยจะเห็นได้จากมูลค่าการส่งออกในไตรมาสแรกลดลงจากปีก่อนถึง -33.6% ในขณะที่ปี 2551 ขยายตัวได้ 1.4% อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปตะวันออกกลางยังคงขยายตัว
การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ภาวะการผลิตและการจำหน่ายปรับตัวลดลง -11.5% และ -6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันการส่งออกปรับตัวลดลงตามเศรษฐกิจที่ถดถอยของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ โดยไตรมาสแรกของปี 2551 การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปลด ลง -3.9% ในขณะที่ปี 2551 ขยายตัวลดลง -2.3%
นายอาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ถึงแม้ภาคอุตสาหกรรมจะตกต่ำติดลบต่อเนื่องมาถึง 6 เดือน แต่เมื่อดูจากตัวเลขที่ติดลบ แต่เริ่มลด ความรุนแรงมากขึ้น หากมองแนวโน้มรายเดือนแล้วจะพบว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าภาวะอุตสาหกรรมเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น สอดคล้อง กับยอดคำสั่งซื้อเพิ่มของอุตฯ ฮาร์ดดิสก์ ที่ส่งผลต่อการจ้างแรงงานเพิ่ม ทั้งนี้คาดว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 2 ยังมีโอกาสที่จะลดลงใน อัตราน้อยกว่าในช่วงไตรมาสแรก และหากปัญหาทางการเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นและนโยบายการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล น่าจะช่วยให้การ ใช้จ่ายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และส่งผลให้อุตสาหกรรมฟื้นตัวเร็วขึ้น ส่วนการช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง กระทรวงอุตสาหกรรมได้ส่งหลักสูตรและแผน งานในการอบรมแรงงานให้กับรัฐเพื่อดำเนินการร่วมกับโครงการต้นกล้าอาชีพ และในขณะเดียวกัน เร่งหารือกับภาคเอกชนในการหาพันธมิตรเพื่อ ดำเนินมาตรการชะลอการเลิกจ้างงานต่อไป
โดยสรุปดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม 2551 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม) อยู่ที่ระดับ 159.23 ลดลง -17.74% จากระดับ 193.57 ดัชนีผลผลิต (มูลค่าผลผลิต) อยู่ที่ระดับ 154.60 ลดลง -22.88% จากระดับ 200.45 ดัชนีการ ส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 155.93 ลดลง -20.51% จากระดับ 196.18 ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 111.62 ลดลง -6.41% จากระดับ 119.27 ดัชนีผลิตภาพแรงงานอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 142.93 ลดลง -9.22% จากระดับ 157.45 ขณะที่ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 201.43 เพิ่มขึ้น 16.73% จากระดับ 172.56 ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง อยู่ที่ระดับ 195.42 เพิ่มขึ้น 17.92% จากระดับ 165.72 ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 54.46 %
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต
Index -------------------------2551 ------------------------- -------- 2552 --------- ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 184.42 185.36 184.79 181.11 167.73 148.97 138.97 139.97 159.23 อัตราการเปลี่ยนแปลง (YoY) 10.20% 5.40% 2.20% -0.40% -8.70% -19.70% -25.60% -23.07% -17.74% อัตราการใช้กำลังการผลิต 65.20% 61.80% 61.10% 60.80% 55.80% 53.00% 51.70% 50.00% 54.40%
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
อัตราการเปลี่ยนแปลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมบางผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ ------------ %การเปลี่ยนแปลง (YoY) -------------- ธ.ค. 51 ม.ค. 52 ก.พ. 52 มี.ค. 52 รถยนต์ -23.95 -35.59 -50.64 -51.53 รถจักรยานยนต์ -38.69 -40.8 -51.35 -50.89 เครื่องแต่งกายจากผ้าถัก -18.96 -21.34 -36.15 -28.6 เครื่องแต่งกายจากผ้าทอ -9.06 -10.16 -22.32 -11.46 เคหะสิ่งทอ -8.26 -14.55 -38.75 -28.99 เครื่องปรับอากาศ -24.89 -39.33 -57.62 -45.58 Hard Disk Drive -31.92 -31.03 -19.65 -7.53 ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -25.72 -58.02 -40.65 -35.37 แปรรูปและถนอมสัตว์น้ำ -6.09 -15.95 14.21 -5.27 ไก่แช่แข็งแช่เย็น 3.87 3.30 4.41 -6.33 น้ำตาล 7.81 -1.36 8.80 -8.37 สบู่และผงซักฟอก -2.18 -1.76 12.51 13.57 ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--