สศอ. จับมือ กรมสรรพากร เล็งยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มพลอยดิบนำเข้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 9, 2009 13:25 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

สศอ. ผนึกกำลัง กรมสรรพากร เดินหน้าผลักดันยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มพลอยดิบที่นำเข้าระหว่างประเทศ หวังอุ้มผู้ประกอบการรายย่อย เพิ่มการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม พร้อมยกไทยเป็นฐานการผลิตเทียบชั้น ฮ่องกง-อินเดีย

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สศอ. ได้ร่วมกับ กรมสรรพากร เตรียมหามาตรการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ โดยผลักดันให้มีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าพลอยดิบ ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยไม่มีแหล่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ จึงต้องนำเข้าพลอยดิบจากต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีการเก็บภาษีศุลกากรของพลอยดิบ แต่ยังคงมีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับพลอยดิบที่นำเข้าร้อยละ 7 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ได้สิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และผู้ประกอบการรายกลางที่ปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 311) สำหรับการนำเข้าหรือการขายเพชร พลอยฯ และอื่นๆ เฉพาะที่ยังไม่ได้ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือน จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มของพลอยดิบ

แต่สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อยที่มีการนำเข้าพลอยดิบซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของมูลค่าการนำเข้าพลอยดิบ ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ จึงได้เรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรม ช่วยพิจารณาผลักดันการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับพลอยดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่นำเข้าในประเทศ ให้ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และพิจารณาผ่อนปรนพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 311) ในการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มนำเข้าพลอยเจียระไนซึ่งเป็นวัตถุดิบเช่นกัน ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย

“หากมีการยกเว้นภาษีดังกล่าว ภาคอุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์อย่างมาก คือ วัตถุดิบที่เป็นพลอยดิบและพลอยเจียรไน จะไหลเข้ามาซื้อ/ขายในประเทศไทยที่เป็นฐานการผลิตใหญ่มากขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นทั้งฐานการซื้อ/ขาย และฐานการผลิตของโลกได้ใกล้เคียงกับ ฮ่องกงหรืออินเดีย อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ ทำให้การผลิตทั้งสายโซ่อุปทานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น นำความได้เปรียบมาสู่ประเทศไทยในการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับขั้นสุดท้าย นำไปสู่การเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลก และท้ายสุดรัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังนำมาซึ่งการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จำนวนประมาณ 1.1 ล้านคน จะถูกจ้างงานต่อไป โดยในปี 2551 การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีมูลค่าทั้งสิ้น 274,102 ล้านบาท เมื่อมีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวแล้ว ผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับจะยังคงสามารถรักษามูลค่าการส่งออกได้เท่าเดิมและมีโอกาสอย่างมากที่จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้อีก”

นายอุดม กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับวัตถุดิบที่นำเข้าในประเทศ ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานจะได้ข้อสรุปที่แน่นอน และจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ