1. สถานการณ์ปัจจุบัน
การผลิต
ปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญในไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีประมาณ 1,408,891 เมตริกตัน (ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จ รูป เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบและท่อเหล็กเพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำ) ลดลง ร้อยละ 36.89 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนและเมื่อ พิจารณาในรายผลิตภัณฑ์ พบว่า ผลิตภัณฑ์เหล็กทุกตัวมีการผลิตที่ลดลง โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตลดลงมากที่สุดในช่วงนี้ คือ เหล็กแผ่นเคลือบชนิดอื่นๆ ลด ลง ร้อยละ 63.51 เหล็กแผ่นรีดเย็น ลดลง ร้อยละ 62.23 และผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป ลดลง ร้อยละ 45.99 โดยเป็นมาจากภาวะเศรษฐกิจ ในประเทศที่ชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้ในประเทศทั้งในอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่สำคัญลดลงไปด้วย นอกจากนี้ ยังเป็น ผลมาจากความต้องการของตลาดต่างประเทศที่ลดลงจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้กำลังซื้อของตลาดทั้งในและต่างประเทศหดตัวลงไปด้วย จึงทำ ให้ผู้ผลิตเหล็กในประเทศต้องลดการผลิตลง รายละเอียดตามตารางที่ 1
หน่วย : เมตริกตัน
ผลิตภัณฑ์(1) ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 1 อัตราการ ปี 2552 ปี 2551 เปลี่ยนแปลง
(ร้อยละ)
ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป(Semi-Finished Products) 791,266 1,465,000 -45.99 เหล็กทรงยาว(Long Products) 709,321 1,245,757 -43.06 เหล็กทรงแบน(Flat Products) 1,050,638 1,736,410 -39.49 เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-rolled Flat) 699,570 986,787 -29.11 เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-rolled Flat) 191,306 506,530 -62.23 เหล็กแผ่นเคลือบ (Coated Steel) 159,762 243,093 -34.28 - เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี(Galvanized Sheet) 58,729 73,915 -20.55 - เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก (Tin plate) 41,947 56,657 -25.96 - เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม (Tin free) 32,168 38,757 -17 - อื่นๆ (other coated steel) 26,918 73,764 -63.51 ท่อเหล็ก (Pipes & Tubes) N/A N/A N/A รวม (1) 1,408,891 2,232,544 -36.89 ที่มา : สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย
หมายเหตุ (1) : ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบ และท่อเหล็กเพื่อไม่ให้เกิดการนับซ้ำ
การใช้ในประเทศ(2)
ปริมาณการใช้เหล็กและเหล็กกล้าในประเทศที่สำคัญในไตรมาสที่ 1 ปี 2552 ประมาณ 1,812,253 เมตริกตัน ลดลง ร้อยละ 43.57 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากความต้องการใช้ในประเทศของเหล็กทรงยาวที่ลดลง ร้อยละ 47.10 จากความต้อง การใช้ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัวอย่างต่อเนื่องตามการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำ และจากข้อมูลเครื่องชี้ภาวะอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลทั้งประเทศในไตรมาสที่ 1 ของ ปี 2552 ลดลง ร้อยละ 24.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพของภาวะอุปทานในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัวลง สำหรับ ความต้องการใช้ในประเทศของเหล็กทรงแบนลดลง ร้อยละ 41.07 เนื่องจากความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ ไฟฟ้า ที่ลดลง
การนำเข้า-การส่งออก
การนำเข้า
มูลค่าและปริมาณการนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าที่สำคัญในไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีจำนวนประมาณ 40,275 ล้านบาท และ 1,258,034 เมตริกตัน โดยมูลค่าและปริมาณการนำเข้าลดลง ร้อยละ 38.89 และ 50.68 ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการนำเข้าลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปชนิดอื่นๆ ลดลง ร้อยละ 84.18 เหล็กแท่งแบน ลดลง ร้อยละ 78.15 เนื่องจากผู้ผลิต ในกลุ่มเหล็กแผ่นรีดร้อนซึ่งใช้เหล็กชนิดนี้เป็นวัตถุดิบมีการผลิตที่ลดลงอันเป็นผลจากความต้องการใช้ในประเทศจากอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ชะลอตัวลง จึงทำให้การนำเข้าเหล็กแท่งแบนลดลงตามไปด้วย
ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการนำเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เหล็กแผ่นรีดเย็น มีมูลค่า 4,897 ล้านบาท เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีแบบจุ่ม ร้อน มีมูลค่า 4,366 ล้านบาท และท่อเหล็กไร้ตะเข็บ มีมูลค่า 4,286 ล้านบาท สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปีก่อน คือ เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม เพิ่มขึ้น ร้อยละ 36.77 เหล็กแผ่นรีดเย็น เพิ่มขึ้น ร้อยละ 29.35 และเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก เพิ่ม ขึ้น ร้อยละ 28.04 รายละเอียดตามตารางที่ 2
หมายเหตุ (1) ข้อมูลการใช้ในประเทศจะเป็นปริมาณการใช้ปรากฎ (Apparent Steel Use) ซึ่งรวมสต๊อกไว้ด้วย
หน่วย : ปริมาณ: เมตริกตัน
มูลค่า : ล้านบาท
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 1 อัตราการ ตลาดนำเข้า ปี 2552 ปี 2551 เปลี่ยนแปลง ที่สำคัญ
(ร้อยละ)
ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป 421,637 6,273 975,259 19,162 -56.77 -67.3 ยูเครน รัสเซีย (Semi-Finished Products) - เหล็กแท่งเล็ก (Billet) 248,194 3,533 282,231 5,798 -12.06 -39.1 ยูเครน ตุรกี - เหล็กแท่งแบน (Slab) 141,107 2,268 548,084 10,381 -74.25 -78.2 รัสเซีย มาเลเซีย - อื่นๆ (Others) 32,336 472 144,943 2,983 -77.69 -84.2 ยูเครน รัสเซีย เหล็กทรงยาว(Long Products ) 87,480 2,938 195,460 5,115 -55.24 -42.6 มาเลเซียญี่ปุ่น - เหล็กเส้น (Bar) 32,631 1,146 75,045 2,007 -56.52 -42.9 ญี่ปุ่น จีน - เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (HR sections ) 7,025 396 7,958 322 -11.72 23.22 ญี่ปุ่น ลักเซมเบอร์ก - เหล็กลวด (Wire rods) 47,824 1,396 112,457 2,786 -57.47 -49.9 มาเลเซีย ญี่ปุ่น เหล็กทรงแบน(Flat Products ) 592,445 23,153 1,284,794 34,770 -53.89 -33.4 ญี่ปุ่น เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-Rolled Flat Products) 213,797 7,209 673,967 14,462 -68.28 -50.2 ญี่ปุ่น - เหล็กแผ่นหนารีดร้อน(HR plate) 33,845 1,823 40,764 1,452 -16.98 25.52 ญี่ปุ่น จีน - เหล็กแผ่นบางรีดร้อน(HR sheet) 100,484 2,743 415,467 8,291 -75.81 -66.9 ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ - เหล็กแผ่นบางรีดร้อนชนิด - 79,468 2,643 217,736 4,718 -63.5 -44 ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ผ่านการกัดล้างและชุบน้ำมัน(HR sheet P&O) เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-Rolled Flat Products) 147,946 6,437 183,262 7,492 -19.27 -14.1 ญี่ปุ่น - เหล็กแผ่นรีดเย็น(CR carbon steel) 130,214 4,897 143,578 3,786 -9.31 29.35 ญี่ปุ่น ไต้หวัน - เหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม(CR stainless steel) 17,732 1,540 39,684 3,706 -55.32 -58.4 ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เหล็กแผ่นเคลือบ(Coated Steel Products) 230,703 9,507 427,565 12,817 -46.04 -25.8 ญี่ปุ่น - เคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (Galv. Sheet (HDG)) 115,617 4,366 256,998 7,186 -55.01 -39.3 ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ - เคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า(Galv. Sheet (EG)) 19,515 707 46,134 1,347 -57.7 -47.6 ญี่ปุ่น ไต้หวัน - เคลือบดีบุก (Tin plate) 26,013 1,198 28,996 936 -10.29 28.04 เกาหลีใต้ - เคลือบโครเมียม(Tin free) 14,018 731 13,422 534 4.44 36.77 เกาหลีใต้ ไต้หวัน - อื่นๆ (Others) 55,540 2,505 82,016 2,814 -32.28 -10.96 ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ท่อเหล็ก (Pipe) 156,471 7,910 95,372 6,856 64.06 15.37 จีน ญี่ปุ่น - ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ(Pipe-Seamless) 29,735 4,286 46,857 4,023 -36.54 6.53 จีน ญี่ปุ่น - ท่อเหล็กมีตะเข็บ (Pipe-Welded) 126,736 3,624 48,515 2,833 161.23 27.92 ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวม 1,258,034 40,275 2,550,885 65,903 -50.68 -38.89 ญี่ปุ่น ยูเครน
ที่มา : กรมศุลกากร
การส่งออก
มูลค่าและปริมาณการส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าในไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีจำนวนประมาณ 9,085 ล้านบาท และ 355,545 เมตริกตัน โดยมูลค่าและปริมาณการส่งออก ลดลง ร้อยละ 44.88 และ 35.88 ตามลำดับ ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกลดลงมากที่สุดในช่วงนี้เมื่อ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า ลดลง ร้อยละ 84.88 เหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม ลดลง ร้อยละ 80.37 และ เหล็กแผ่นรีดเย็น ลดลง ร้อยละ 77.99
ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปชนิดอื่นๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 291.50 เหล็กแท่งแบน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 100 และเหล็กแท่งเล็ก เพิ่มขึ้น ร้อยละ 97.53 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการมูลค่าการส่งออกมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ท่อเหล็กมีตะเข็บ มีมูลค่า 1,858 ล้านบาท รองลงมาคือ เหล็กโครง สร้างรูปพรรณรีดร้อน มีมูลค่า 1,021 ล้านบาท และแผ่นบางรีดร้อนชนิดผ่านการกัดล้างและชุบน้ำมัน มีมูลค่า 943 ล้านบาท รายละเอียดตามตารางที่ 3
หน่วย : ปริมาณ: เมตริกตัน
มูลค่า : ล้านบาท
ผลิตภัณฑ์ ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 1 อัตราการ ตลาดนำเข้า ปี 2552 ปี 2551 เปลี่ยนแปลง ที่สำคัญ
(ร้อยละ)
ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป(Semi-Finished Products) 34,956 483 7,090 179 393 169.7 เวียดนาม เหล็กแท่งเล็ก (Billet) 21,564 294 6,025 149 257.9 97.53 เวียดนาม - เหล็กแท่งแบน (Slab) 4,161 71 0 0 100 100 อินโดนีเซีย - อื่นๆ (Others) 9,231 117 1,066 30 766.2 291.5 ศรีลังกา เหล็กทรงยาว (Long Products ) 92,201 1,971 109,373 2,877 -15.7 -31.47 กัมพูชามาเลเซีย - เหล็กเส้น (Bar) 41,143 725 33,675 850 22.18 -14.62 กัมพูชา ลาว - เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (HR sections ) 39,259 1,021 65,582 1,771 -40.14 -42.37 มาเลเซีย - เหล็กลวด (Wire rods) 11,800 225 10,116 255 16.65 -11.91 เวียดนาม อินโดนีเซีย เหล็กทรงแบน(Flat Products ) 184,362 4,411 391,900 11,304 -52.96 -60.98 จีน เหล็กแผ่นรีดร้อน(Hot-Rolled Flat Products) 141,212 2,675 205,390 4,669 -31.25 -42.71 จีน - เหล็กแผ่นหนารีดร้อน(HR plate) 19,512 394 56,502 1,392 -65.47 -71.71 สิงคโปร์ สเปน - เหล็กแผ่นบางรีดร้อน(HR sheet) 65,872 1,338 73,641 1,701 -10.55 -21.38 จีน เวียดนาม - เหล็กแผ่นบางรีดร้อนชนิดผ่านการกัดล้างและชุบน้ำมัน 55,828 943 75,246 1,575 -25.81 -40.1 เวียดนาม (HR sheet P&O ) เหล็กแผ่นรีดเย็น(Cold-Rolled Flat Products) 23,992 962 118,865 4,651 -79.82 -79.32 เวียดนาม - เหล็กแผ่นรีดเย็น(CR carbon steel) 16,858 454 91,824 2,064 -81.64 -77.99 เวียดนาม จีน - เหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม(CR stainless steel) 7,135 508 27,040 2,588 -73.62 -80.37 อินเดีย อินโดนีเซีย เหล็กแผ่นเคลือบ(Coated Steel Products) 19,158 774 67,646 1,984 -71.68 -61.01 พม่า - เคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน(Galv. Sheet (HDG) 8,457 354 12,632 413 -33.05 -14.3 พม่า ลาว - เคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า(Galv. Sheet (EG) 233 6 1,453 38 -83.95 -84.88 เวียดนาม มาเลเซีย - เคลือบดีบุก (Tin plate) 218 9 630 17 -65.47 -49.5 ลาว นิวซีแลนด์ - เคลือบโครเมียม(Tin free) 2,427 91 3,107 98 -21.89 -6.40 ลาว มาเลเซีย - อื่นๆ (Others) 7,823 314 49,824 1,419 -84.30 -77.86 อินเดีย ท่อเหล็ก (Pipe) 44,025 2,221 46,143 2,122 -4.59 4.65 สหรัฐอเมริกา - ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ(Pipe-Seamless) 3,301 363 3,733 412 -11.55 -11.96 พม่า ซาอุดิอาระเบีย - ท่อเหล็กมีตะเข็บ (Pipe - Welded) 40,724 1,858 42,410 1,710 -3.98 8.66 สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย รวม 355,545 9,085 554,506 16,482 -35.88 -44.88 จีน เวียดนาม
ที่มา : กรมศุลกากร
2. สรุป
สถานการณ์เหล็กโดยรวมในไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน พบว่าการผลิตโดยรวมลดลงขึ้น ร้อยละ 36.89 ความต้องการใช้ในประเทศ ลดลง ร้อยละ 43.57 สำหรับมูลค่าและปริมาณการนำเข้า ลดลง ร้อยละ 38.89 และ 50.68 ตามลำดับ โดยเป็นผลมาจากการลดลงของการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปชนิดอื่นๆ ลดลง ร้อยละ 84.18 เหล็กแท่งแบน ลดลง ร้อยละ 78.15 เนื่อง จากผู้ผลิตในกลุ่มเหล็กแผ่นรีดร้อนซึ่งใช้เหล็กชนิดเป็นวัตถุดิบมีการผลิตที่ลดลงอันเป็นผลจากความต้องการใช้ในประเทศจากอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ชะลอ ตัวลง จึงทำให้การนำเข้าเหล็กแท่งแบนลดลงตามไปด้วย สำหรับมูลค่าและปริมาณการส่งออก ลดลง ร้อยละ 44.88 และ 35.88 ตามลำดับ โดย เป็นผลมาจากการลดลงของเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า ลดลง ร้อยละ 84.88 เหล็กแผ่นรีดเย็นไร้สนิม ลดลง ร้อยละ 80.37 และเหล็กแผ่นรีด เย็น ลดลง ร้อยละ 77.99
สำหรับสถานการณ์ราคาผลิตภัณฑ์เหล็กที่สำคัญ(FOB) ในตลาดโลกจาก CIS ณ ท่า Black Sea ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2552 เป็นดังนี้
- ราคาเศษเหล็ก ( EU Shredded) 235 เหรียญสหรัฐ ( ณ วันที่ 30 เมษายน 2552)
- ราคาเหล็กแท่งเล็กบิลเล็ต 365 เหรียญสหรัฐต่อตัน
- ราคาเหล็กเส้น 425 เหรียญสหรัฐต่อตัน
- ราคาเหล็กลวด 425 เหรียญสหรัฐต่อตัน
- ราคาเหล็กแท่งแบน 310 เหรียญสหรัฐต่อตัน ( ณ วันที่ 30 เมษายน 2552)
- ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อน 358 เหรียญสหรัฐต่อตัน
- ราคาเหล็กแผ่นรีดเย็น 410 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ซึ่งพบว่าราคาผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงอย่างมากตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551 ทั้งนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์ทาง เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องซึ่งเป็นผู้ใช้ที่สำคัญ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้ลดการผลิต ลง ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กทรงแบนลดลงด้วย
สำหรับราคาเหล็กในประเทศได้ปรับตัวลดลงด้วยโดยเป็นผลมาจากความต้องการในธุรกิจก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่อเนื่องของประเทศที่ ชะลอตัวลงส่งผลให้ผู้ผลิตที่เพิ่มการผลิตและพ่อค้าคนกลางมีสต๊อกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการที่ภาวะความต้องการใช้เหล็กในประเทศชะลอตัวลงทำให้การ แข่งขันของผู้ผลิตโดยเฉพาะผู้ผลิตในกลุ่มเหล็กเส้นมีมากขึ้น โดยผู้ผลิตในกลุ่มที่มีเตาหลอมซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าจะสามารถขายตัดราคาเพื่อเพิ่ม ส่วนแบ่งตลาดจากผู้ผลิตที่ไม่มีเตาหลอมได้
กระทรวงการคลังอินเดียได้ประกาศอัตราอากรต่อต้านการทุ่มตลาดเบื้องต้นซึ่งจะเรียกเก็บจากเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นที่นำเข้าจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย อัฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปเป็นเวลา 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน-21 ตุลาคม 2008 โดยจะ เรียกเก็บจะอยู่ที่ 13 - 2,011 เหรียญต่อตัน ขึ้นกับประเทศและบริษัทผู้ผลิตรวมถึงชนิดสินค้าที่นำเข้าด้วย
India's provisional dumping duties ($/tonne)
Maximum Minimum China 90 1,823 Korea 75 1,456 Taiwan 285 2,011 Japan 368 1,388 Thailand 241 1,373 USA 1,326 1,584 Spain, Belgium, France* 13 1,553 Other EU countries* 535 1,553 *Excluding ThyssenKrupp 585 1,368
3.แนวโน้ม
แนวโน้มสถานการณ์เหล็กโดยรวมในประเทศในไตรมาสที่ 2 ของ ปี 2552 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของ ปี 2551 คาดการณ์ว่า
- เหล็กทรงยาว คาดการณ์ว่าการผลิตจะทรงตัวเนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างซึ่งเป็นผู้ใช้เหล็กทรงยาวที่สำคัญมีสถานการณ์ที่ชะลอตัว
- เหล็กทรงแบน คาดการณ์ว่าการผลิตจะทรงตัวเนื่องจากความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่สำคัญในประเทศลดลง เช่น จาก
ข้อมูลการประกาศลดการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ค่ายใหญ่ของโลกและการชะลอตัวของการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้การผลิตเหล็กทรงแบนลด
ลง ประกอบกับปริมาณสินค้าคงคลังที่ยังคงมีอยู่ทั้งผู้ผลิตและพ่อค้าคนกลาง สำหรับความต้องการใช้ในประเทศคาดการณ์ว่าจะไปในทิศทางเดียวกันกับ
การผลิต และเมื่อพิจารณาในด้านการส่งออก คาดการณ์ว่าการส่งออกเหล็กทรงแบนมีแนวโน้มลดลงด้วย เนื่องจากตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย
ปัจจุบัน ได้แก่ ตลาดในกลุ่มอาเซียน ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น ประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กประเภทนี้ลดลง
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--