อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น และเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งการส่งออกเป็นสำคัญ ดังนั้นการผันผวนของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าจะส่งผลต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดังกล่าว อีกทั้งเกี่ยวเนื่องเป็นสินค้ากลุ่มแฟชั่น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงความต้องการ ตามแนวโน้มการตลาด หรือตามกลุ่มนักออกแบบชั้นนำของโลก
1.การผลิต
ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังจำแนกได้ดังนี้
-การฟอกและการตกแต่งหนังฟอก ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 13.1 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 5.6
-การผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 มีปริมาณการผลิตลดลงร้อยละ 13.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 15.2 ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 20.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 27.2 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 1.1
-การผลิตรองเท้า ดัชนีผลผลิตไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 มีปริมาณการผลิตลดลงร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 16.3 ดัชนีการส่งสินค้าเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 17.2 สำหรับดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเทียบกับไตรมาสก่อนลดลงร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนลดลงร้อยละ 1.5
2. การตลาด
การส่งออก
-รองเท้าและชิ้นส่วน ไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 206.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 205.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ผลิตภัณฑ์ที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น คือ รองเท้าแตะ รองเท้าหนัง และรองเท้าอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0, 11.1 และ 5.6 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ รองเท้ากีฬา และส่วนประกอบรองเท้า ลดลงร้อยละ 9.4 และ 18.3 ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 269.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 23.3 ผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ รองเท้ากีฬา รองเท้าหนัง รองเท้าอื่นๆ และส่วนประกอบของรองเท้า ลดลงร้อยละ 34.6, 19.2, 13.9 และ 24.9 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นคือ รองเท้าแตะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ตลาดคู่ค้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก และเบลเยียม มีสัดส่วนร้อยละ 18.9, 12.3 และ 7.7 ตามลำดับ
- เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มีมูลค่าส่งออก 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 มูลค่าการส่งออก 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ กระเป๋าเดินทาง เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.2 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่นๆ ลดลงร้อยละ 3.5, 1.7 และ 9.8
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 60.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 28.6 โดยมูลค่าการส่งออกของทุกผลิตภัณฑ์ลดลงคือ กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเดินทางอื่นๆ ลดลงร้อยละ 29.7, 14.4, 7.9 และ 36.8 ตลาดคู่ค้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ มีสัดส่วนร้อยละ 20.1, 14.8 และ 9.7 ตามลำดับ
- หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 มีมูลค่าส่งออก 108.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 103.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ หนังโคกระบือฟอก เครื่องแต่งกายและเข็มขัด หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.5, 17.2 และ 4.2 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง และถุงมือหนัง ลดลงร้อยละ 21.4 และ 10.9 ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าส่งออก 156.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 30.9 ผลิตภัณฑ์ที่ลดลง คือ หนังโคกระบือฟอก, ถุงมือหนัง, เครื่องแต่งกายและเข็มขัด, หนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่นๆ ลดลงร้อยละ 23.5, 2.0, 14.2 และ 46.1 ตามลำดับ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น คือ ของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.9 ตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ ฮ่องกง เวียดนาม และจีน มีสัดส่วนร้อยละ 16.2, 15.4 และ 12.7ตามลำดับ
การนำเข้า
- หนังดิบและหนังฟอก ช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 81.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ ไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 83.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าการนำเข้า 139.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งลดลงร้อยละ 41.5 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา อุรุกวัย และอาร์เจนตินา มีสัดส่วนร้อยละ 13.1, 8.1 และ 8.0 ตามลำดับ
- รองเท้า ช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 41.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 45.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าการนำเข้า 51.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 18.5 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย มีสัดส่วนนำเข้าร้อยละ 62.8, 9.2 และ 7.6 ตามลำดับ
- กระเป๋า ช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 25.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 31.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 21.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าการนำเข้า 29.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 15.1 แหล่งนำเข้าที่สำคัญ คือ จีน อิตาลี และฝรั่งเศส โดยมีสัดส่วนนำเข้าร้อยละ 49.1, 18.2 และ 17.1 ตามลำดับ
3. สรุปและแนวโน้ม
การผลิตและการส่งออกโดยรวมของรองเท้าและชิ้นส่วน เครื่องใช้สำหรับเดินทาง หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ในไตรมาส 2 ปี 2552 มีมูลค่าลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่ม EU ที่เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจทำให้การบริโภคลดลง
แนวโน้มการผลิตและมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังในครึ่งปีหลังของปี 2552 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน คาดว่าจะลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องจากฐานการผลิตและการส่งออกปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง ทำให้ 6 เดือนแรกติดลบ และสำหรับช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะฟื้นตัวในทิศทางที่เป็นบวก เป็นผลมาจากประเทศคู่ค้าที่สำคัญเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยสินค้า โดยในปี 2552 ทั้งปีคาดว่าการผลิตและการส่งออกอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังจะยังคงลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนแต่มีสัญญาณที่ดีขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว
การนำเข้าหนังดิบและหนังฟอกที่นำมาผลิตเป็นสินค้าปลายน้ำมีมูลค่าลดลง สอดคล้องกับภาวะการ ผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือและสิ่งที่คล้ายกัน อานม้าและเครื่องเทียมลาก และการผลิตรองเท้าที่ลดลงเมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน อีกทั้งราคาหนังดิบและหนังฟอกลดลงเพราะความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ลดลงเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้การนำเข้ารองเท้าและกระเป๋ายังชะลอตัว ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ความต้องการภายในประเทศลดลง
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--