สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 2 (เมษายน — มิถุนายน) พ.ศ. 2552 (อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 1, 2009 14:17 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

การผลิตและการจำหน่าย

การผลิตเครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณและของที่เกี่ยวข้องกัน ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 (ดูตารางที่ 1 ประกอบ) เมื่อพิจารณาจากดัชนีอุตสาหกรรมเครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณ และของที่เกี่ยวข้องกัน ดัชนีผลผลิตลดลงร้อยละ 9.38 ดัชนีส่งสินค้าหรือดัชนีการจำหน่ายลดลงร้อยละ 12.50 และดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังลดลงร้อยละ 16.26 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.55 ดัชนีส่งสินค้าหรือดัชนีการจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.75 และดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังลดลงร้อยละ 23.53 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การตลาด

การส่งออก

ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 (ดูตารางที่ 2 ประกอบ) ไทยส่งออกอัญมณีและ เครื่องประดับเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,289.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 67.3 เมื่อเทียบกับ ไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 26.51 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการส่งออกเครื่องประดับแท้ที่มีมูลค่า 500.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นผลจากการส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ที่มีมูลค่า 448.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งลดลงคิดเป็นร้อยละ 16.81 และ 84.81 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามลำดับ ผลิตภัณฑ์สำคัญๆ ได้แก่

1. อัญมณี ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 252.41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 15.89 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 36.82 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.99, 18.74 และ 13.82 ตามลำดับ ซึ่งผลิตภัณฑ์อัญมณีที่สำคัญมีดังนี้

1.1 เพชร ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 169.60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 3.65 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 38.21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ เบลเยี่ยม ฮ่องกง และอิสราเอล คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.56, 24.82และ 11.01 ตามลำดับ

1.2 พลอย ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 82.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 32.00 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 33.24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา และอินเดีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 48.97, 18.78 และ 9.03 ตามลำดับ

2. เครื่องประดับแท้ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 500.48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 16.81 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและลดลงร้อยละ 22.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก และสหราชอาณาจักร คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.14, 7.56 และ 7.31 ตามลำดับ ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับแท้ที่สำคัญ มีดังนี้

2.1 ทำด้วยเงิน ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 198.05 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.93 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 6.27 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก และออสเตรเลีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.96, 11.67 และ 9.45 ตามลำดับ

2.2 ทำด้วยทอง ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 266.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 32.69 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและลดลงร้อยละ 32.80 เมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.12, 12.26 และ 9.82 ตามลำดับ

3. เครื่องประดับอัญมณีเทียม ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 47.06ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 4.70 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.43 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ลิกเตนสไตน์ สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี คิดเป็น สัดส่วนร้อยละ 51.61, 20.01 และ 5.79 ตามลำดับ

4. อัญมณีสังเคราะห์ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 16.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.77 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 5.32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง ตุรกี และอินเดีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.54, 10.75 และ 9.04 ตามลำดับ

5. ทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการส่งออก 448.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 84.81 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 27.00 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย คิดเป็น สัดส่วนร้อยละ 49.64, 28.31 และ 16.00 ตามลำดับ

การนำเข้า

1. เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 (ดูตารางที่ 3 ประกอบ) มีมูลค่าการนำเข้า 1,507.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 97.09 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 21.33 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน วัตถุดิบสำคัญ ได้แก่

1.1 เพชร ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 184.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 15.94 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 51.22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ

1.2 พลอย ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 46.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 33.06 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 50.55 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง อินเดีย และสหรัฐอเมริกา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.87, 12.56 และ 12.25 ตามลำดับ

1.3 ทองคำ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 1,128.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 234.57 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 7.00 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อน แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และฮ่องกง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33.50, 27.58 และ 24.67 ตามลำดับ

1.4 เงิน ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 109.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.83 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 25.67 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อน แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และสวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 56.47, 17.62 และ 10.78 ตามลำดับ

1.5 โลหะมีค่าและโลหะอื่นๆ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 17.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.85 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 63.14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี และฮ่องกง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 66.98, 13.18 และ 12.46 ตามลำดับ

โดยการนำเข้าเพชร พลอย ทองคำ เงิน โลหะมีค่าและโลหะอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 98.67 ของการนำเข้าวัตถุดิบทั้งหมด

2. เครื่องประดับอัญมณี ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าทั้งสิ้น 119.33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 25.93 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 35.81 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลิตภัณฑ์สำคัญๆ ได้แก่

2.1 เครื่องประดับอัญมณีแท้ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 115.09ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 26.39 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 36.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ อิตาลี ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา คิดเป็น สัดส่วนร้อยละ 7.13, 6.26 และ 2.21 ตามลำดับ

2.2 เครื่องประดับอัญมณีเทียม ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 4.25ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 10.36 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 26.47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และฝรั่งเศส คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.50, 12.60 และ 10.16 ตามลำดับ

สรุปและแนวโน้ม

ภาพรวมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 ด้านการผลิต ลดลงร้อยละ 9.38 และการจำหน่ายลดลงร้อยละ 12.50 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ด้านการ ส่งออกภาพรวมมีการหดตัวลง คือ ลดลงร้อยละ 67.33 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลจากการส่งออกอัญมณี เครื่องประดับแท้ และทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ลดลงคิดเป็นร้อยละ 15.89 16.81 และ 84.81 ตามลำดับ สำหรับสาเหตุที่การส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูปมีการลดลงอย่างมาก เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้ผู้ประกอบการนำเข้ามากกว่าการส่งออก ทั้งนี้เครื่องประดับแท้ยังคงสัดส่วนการส่งออกสูงถึงร้อยละ 38.81 ส่วนการนำเข้าสินค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 97.09 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และลดลงร้อยละ 21.33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

แนวโน้มภาพรวมการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 ปัจจัยด้านบวก ภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจึงปรับตัวเพิ่มขึ้น และแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ระดับ 950 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์ จะเป็นสาเหตุให้การส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูปเพิ่มขึ้น ปัจจัยด้านลบ แนวโน้มการแข็งค่าเล็กน้อยของค่าเงินบาท และการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ชะลอการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวประเทศต่างๆ จะทำให้การใช้จ่ายในด้านสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับลดลงบ้าง ดังนั้นจึงคาดว่าการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ